xs
xsm
sm
md
lg

นักธุรกิจพาเหรดเข้าสู่ธุรกิจกัญชา ดันไทยศูนย์กลางกัญชาเพื่อสุขภาพโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



หลังจากรัฐบาลปลดล็อกส่วนประกอบ ใบ ราก ลำต้นของกัญชา ออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 ยกเว้นช่อดอก มีผู้ประกอบการด้านสุขภาพ ต่างเร่งทำ MOU กับหน่วยงาน สถานศึกษาที่ได้รับอนุญาต เป็นจำนวนมาก และหลายบริษัท เร่งทำ MOA กับวิสาหกิจชุมชน ในช่วงเพียงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มี การทำMOA กับวิสาหกิจชุมชนไปแล้วทั่วประเทศหลายร้อย วิสาหกิจชุมชนเริ่มเดินหน้าปลูกกัญชา ในส่วนของการทำMOU ของโรงงานผู้ผลิตกับหน่วยงาน และสถานศึกษา ก็ทำกันไปหลายร้อยกิจการเช่นกัน

ครั้งนี้ มีตัวอย่าง ของ ผู้ประกอบการเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชา และเตรียมออกจำหน่าย ได้แก่ “อั้ม อภิชาติ” นักแสดงชื่อดัง หันมาลุยธุรกิจเพื่อสุขภาพ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากกัญชาด้วย และ บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กำลังเนรมิตรมายโอโซนเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ให้เป็น เมืองกัญชา และ บริษัท ธนัทเฮิร์บ พาณิชย์ จำกัด ผู้ผลิตสมุนไพรและอาหารเสริม ที่ดำเนินโยบายเพื่อสังคม (CSR) บริษัท ไทยสติ๊ค เฮิร์บ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายสมุนไพรมาตรฐาน Medical Grade ภายใต้การผลิต บริษัท ซีเอ็มเอช เชียงใหม่ โฮลดิ้ง จำกัด โดยวิสาหกิจชุมชนฯ บ้านทุ่งแพม เป็นต้น 

อภิชาติ ชุมมานนท์
“อั้ม อภิชาติ” ต่อยอด “พาว มิราเคิล” ด้วยงานวิจัยกัญชามาตรฐานสากล

“อภิชาติ ชุมมานนท์” ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริษัทฝ่ายการตลาด พาว มิราเคิล กล่าวว่า ทางบริษัทได้ลงนามความร่วมมือ กับ บริษัท ไทยสติ๊ค เฮิร์บ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายสารสกัด CBD และ HEMP จากกัญชา และกัญชง ภายใต้การผลิตของบริษัท ซีเอ็มเอช เชียงใหม่ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานคุณภาพระดับ Medical Grade การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ ทางโรงงานจะผลิตสารสกัดกัญชา ที่ได้คุณภาพมาตรฐานสากลให้กับทาง พาวมิราเคิล และที่เลือกโรงงานดังกล่าว เพราะเป็นโรงงานที่ได้มาตรฐานคุณภาพระดับสูง ที่มีงานวิจัยรองรับชัดเจน ตั้งแต่วัตถุดิบ เทคโนโลยีการสกัดที่ให้ผลในระดับของการรักษา แลการผลิตด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย

ในส่วนของแผนการตลาด ในส่วนของกัญชา และกัญชง ของพาว มิราเคิล ในช่วงแรกมีสินค้าออกสู่ตลาดไว้ ดังนี้ 1. ผลิตภัณฑ์ที่ต้องมี Certificate ใบรับรองจากหน่วยงานที่ตรวจสอบได้ว่า ไม่มีสารต้องห้าม ไม่มีสารอันตราย (Non-Toxic) 2.ผ่านการทดสอบการแพ้ (Allergy Free) 3. ผ่านการทดลองในระดับคลินิก ในสัตว์ทดลอง และมนุษย์ (Clinical Trial – Animal Trial-Human Trial) ซึ่งทางบริษัทตั้งเป้าการเติบโตในส่วนของกัญชา และกัญชงไว้ที่ประมาณ 30% ในปีแรก ที่เริ่มวางตลาด นอกจากตลาดในประเทศ มีแผนที่จะบุกตลาด CLMV ในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย

“ครั้งนี้ ถือว่า เป็นความก้าวหน้าอีกระดับหนึ่งของ พาว มิราเคิล ที่ได้นำผลผลิตจากกัญชา และกัญชง มาเป็นวัตถุดิบตั้งต้น ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และรองรับกับกระแสของกัญชาและกัญชงที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ และ ทาง พาว มิราเคิลเองเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ซึ่งการนำกัญชา หรือ กัญชงมาใช้ในครั้งนี้ ถือว่า เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการดูแลสุขภาพกลุ่มลูกค้าของทางบริษัท ด้วย”


“ไทยสติ๊ค เฮิร์บ” ผู้จัดจำหน่ายน้ำมันเมล็ดกัญชา กัญชง

คุณนมนรร ชื่นสุวรรณ กรรมการบริษัท ไทยสติ๊ค เฮิร์บ จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทได้เป็นผู้ดำเนินการจำหน่ายน้ำมันเมล็ดกัญชา (Hemp seed oil) และสารสกัดจากเมล็ดกัญชง (Hemp seed Extract) สารสกัด CBD ซึ่งสารสกัดที่ได้มาจาก วิสาหกิจชุมชน บ้านทุ่มแพม โดยทาง บริษัท ซีเอ็มเอช เชียงใหม่ โฮลดิ้ง จำกัด รับผลิตภัณฑ์ช่อดอกกัญชา และกัญชง นำมาแปรรูปเป็นน้ำมันกัญชา และกัญชง ซึ่ง ซีเอ็มเอช เป็นโรงงานที่ได้มาตรฐานการผลิต และมีสถาบันวิจัยรองรับได้มาตรฐานสากล ทำให้สามารถจัดจำหน่ายได้ ปัจจุบัน น้ำมันกัญชา และกัญชง ของทางบริษัท ได้มีการจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการที่นำไปต่อยอดหลายราย รวมถึง พาว มิราเคิล ของ “คุณอั้ม อภิชาติ”ในครั้งนี้


“ณุศาศิริ” เปิดเมืองกัญชาครบวงจรดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก

หลังจากที่ ทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ โดยการสนับสนุนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกระทรวงสาธารณสุข ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ และสุขภาพ (Medical Wellness Tourism ) โดยผลักดันให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวด้านการแพทย์และสุขภาพของโลก เพราะจากวิกฤติโควิด -19 ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทั่วโลก ภาคการท่องเที่ยวไทยหยุดนิ่งมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2563

โดย ส่งผลกระทบอย่างหนัก ต่อการธุรกิจที่เกี่ยวข้อง แรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถูกเลิกจ้าง ไม่ต่ำกว่า 25-30% หรือ 1.2 ล้านตำแหน่ง ดังนั้น การรับมือโดยการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ด้วยการทำให้ประเทศไทยเป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวและฟื้นฟูสุขภาพในรูปแบบของ Medical Wellness Tourism ซึ่งจากข้อมูลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทย เติบโตเฉลี่ยปีละ 13.7% คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 5 แสนล้านบาทในปี 2567

นางศิริญา เทพเจริญ
รูปแบบเมืองกัญชา ของมายโอโซน

จากแนวคิดดังกล่าว นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบัน ณุศาศิริ และพันธมิตรทางธุรกิจ มีความพร้อมในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว โดยร่วมกับทางบริษัท ธนัทเฮิร์บ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์กัญชา ร่วมกัน สร้างมายโอโซน ให้เป็นเมืองกัญชาเพื่อสุขภาพ ครบวงจร เป็นศูนย์สุขภาพเวชศาสตร์กัญชาระดับโลก ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวรายได้สูง ให้เดินทางมารักษาและฟื้นฟูสุขภาพในประเทศไทย แบบระยะยาว

สำหรับรูปแบบเมืองกัญชาแบบครบวงจร ของมายโอโซน ในครั้งนี้ เริ่มจากสร้างจุดขายใหม่ โดยการเปิดให้เที่ยวชมฟาร์มกัญชา เยี่ยมชมกระบวนการผลิตและแปรรูป การฝึกทำอาหารที่มีส่วนปรุงด้วยกัญชา รวมทั้งยังเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชนไปพร้อมกัน ตามนโยบายด้านการท่องเที่ยวชุมชนของรัฐบาลด้วย

ทั้งนี้ ในส่วนของการดูแลสุขภาพ ทางมายโอโซน เปิดศูนย์ดูแลสุขภาพด้านกัญชาแบบครบวจรเช่นกัน เริ่มตั้งแต่ การให้บริการด้านคำปรึกษาทางการแพทย์ เซลล์บำบัด โปรแกรมล้างพิษจากร่างกาย โปรแกรมสปา และอาหารเพื่อสุขภาพ มีให้เลือก 3 แพคเก็จ คือ 1.Rejuvenation Live Cell Program 5 วัน 4 คืน 2.Ozone Signature Program 3 วัน 2 คืน และ 3.Cannabis Treatment Program 3 วัน 2 คืน เป็นต้น 


โดยการเปิดเมืองกัญชา แบบครบวงจร ครั้งนี้ เพราะเชื่อว่า ทั่วโลกให้ความสนใจ กัญชา และมีความรู้เรื่องกัญชา เป็นอย่างดี และการที่เราได้เริ่มทำก่อน น่าจะมีโอกาส ดึงดูดเงินจากนักท่องเที่ยวได้ก่อน ประเทศอื่นๆ ซึ่งประเทศกลุ่มเป้าหมายที่เราตั้งเป้าไว้ในช่วงแรก คือ ประเทศจีน คนจีนสนใจเรื่องของสมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพอยู่แล้ว โดยเฉพาะกัญชาเพื่อสุขภาพจากประเทศไทย

ทั้งนี้ มีการทำตลาดในทุกรูปแบบทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ผ่านAgent ที่มีอยู่กว่า 20 ประเทศทั่วโลก ซึ่งการเปิดเมืองกัญชา ในครั้งนี้ ทาง ณุศาศิริ ไม่ได้ต้องการทำรายเดียว แต่ได้เปิดผู้ประกอบการรายอื่นๆ เข้าร่วมด้วย โดยผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วม จะต้องผ่านการฝึกอบรม หลักสูตร Medical Wellness Tourism ก่อน และสมัครลงทะเบียนเป็นสมาชิก ที่ www.worldmedicalalliance


“ธนัทเฮิร์บ” ผู้ผลิตสมุนไพรและอาหารเสริม ดำเนินนโยบายเพื่อสังคม

นายธนัท เชี่ยวชาญอักษร ผู้บริหาร บริษัท ธนัทเฮิร์บ พาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทดำเนินกิจการอยู่ในอุตสาหกรรมผลิตสมุนไพร และอาหารเสริมมานานกว่า 14 ปี โดยเราเน้นทำงานร่วมกับวิสาหกิจชุมชนมาโดยตลอด ซึ่งในส่วนของกัญชาได้มีการทำงานร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ทั่วประเทศ ได้มีการขับเคลื่อนวิสาหกิจชุมชนให้ยกระดับการใช้เทคโนโลยีด้านการปลูกกัญชา กัญชง กระท่อม เพื่อวิสาหกิจชุมชน จะได้ผลผลิตที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ ส่งเสริมรายได้ให้กับเกษตรกร

ในส่วนของบริษัทเอง ในฐานะที่วางตัวเองเป็นบริษัทดำเนินนโยบายเพื่อสังคม การทำงานมีนโยบายหลัก 5 ด้าน 1. การให้องค์ความรู้ และวิจัย ส่งเสริมรายได้ให้กับเกษตกร 2. ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชาคุณภาพ 3.ด้านการรักษา และส่งเสริมให้เกิดเป็นสถานพยาบาลด้านการรักษา 4.ด้านการฟื้นฟูและดูแลสุขภาพ 5. ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และในครั้งนี้ ได้ร่วมกับ ณุศาศิริ วิสาหกิจชุมชน และวิสาหกิจเพื่อสังคม สร้างมายโอโซนให้เป็นเมืองกัญชาเพื่อสุขภาพอย่างครบวงจรด้วย


อย่างไรก็ตาม การเข้ามาสู่ธุรกิจกัญชา ของผู้ประกอบการและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในครั้งนี้ เป็นการขับเคลื่อนที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และนอกจากคนไทย ผู้ประกอบการ และวิสาหกิจชุมชนได้มีรายได้ ตามนโยบายของรัฐบาลแล้ว สิ่งสำคัญ ที่ผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนต้องเจอ คือ การแข่งขันที่รุนแรง ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ เพราะทั่วโลกต่างก็สนใจเรื่องราวของกัญชา การลงทุนของผู้ประกอบการต้องศึกษาตลาด ส่วนผู้ปลูกวิสาหกิจชุมชน ก็ต้องศึกษาเรื่องของการเพาะปลูก เพื่อจะได้ผลผลิตที่มีคุณภาพส่งให้โรงงานนำไปผลิตสินค้าที่มีคุณภาพทางการแพทย์ต่อไป


* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *
SMEs manager

กำลังโหลดความคิดเห็น