U-Farm ฟาร์มผักของเกษตรกร ในยุค 4.0 ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่า การเปลี่ยนแปลงของเกษตรกร ในยุค 4.0 มาจากการที่คนเมืองหันไปทำเกษตร และเกษตรแบบไหนถึงเรียกว่า 4.0 ซึ่งมีหลายข้อ ไม่ว่า จะเป็นการทำเกษตรแบบสมาร์ทฟาร์มเมอร์ การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย และอีกข้อหนึ่ง ที่สำคัญมาก คือ การทำเกษตรแบบปลอดภัย หรือ ออร์แกนิก คือ ปลอดภัยทั้งผู้บริโภคและปลอดภัยทั้งตัวเกษตรกรเอง
การผันตัวมาทำเกษตรของคนเมือง ในรูปแบบของออร์แกนิก
อดีตทนายความสาว “บัวระวงษ์ เดอกรูท” และ “เล็กซ์ เดอกรูท” สามีชาวฮอนแลนด์ เขาทั้งสองใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ใจกลางเมืองหลวงย่านสาธร วันหนึ่งพอทั้งสองคนมีลูก เกิดความคิดอยากจะมีพื้นที่เล็กๆ ให้ลูกๆ ได้วิ่งเล่น ได้ปีนป่ายต้นไม้ เหมือนกับตนเองในวัยเด็ก ทั้งสองก็เลยไปซื้อที่ดิน ที่อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 7ไร่ ค่อยๆลงมือปรับพื้นที่เดิมเป็นดินลูกรัง จนสามารถปลูกพืชผักอย่างที่ทั้งสองคนต้องการได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ “บัวระวงษ์” เธอได้ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงเงิน จนเรียกว่าหมดไปเกือบ 7 หลัก เพื่อเนรมิตรพื้นที่ให้สามารถปลูกพืชผักในรูปแบบของผักปลอดภัย หรือ ออร์แกนิก เพื่อที่นำผลผลิตมาทำอาหารให้ลูกที่อยู่ในวัย 1 ขวบ และ 3ขวบ รวมถึงสามีของเธอได้กินพืชผักที่ปลอดภัย ต่อสุขภาพ แล้ว เธอเกิดไอเดีย ว่าควรจะมีรายได้จากที่ดินที่เธอได้ปรับปรุงไปในครั้งนี้บ้าง ไอเดียการให้เช่าแปลงผัก เพื่อให้คนรักษ์สุขภาพ และต้องการพืชผักออร์แกนิกได้มีทางเลือกมากกว่าการต้องไปซื้อผัก จากซุปเปอร์มาร์เก็ต จึงได้เกิดขึ้น
เกษตรยุคใหม่รับเงินก่อนลงมือปลูก กับ ไอเดียให้เช่าแปลงผัก
บัวระวงษ์ เล่าว่า หลังจากที่คิดว่าจะทำอย่างไร ถึงจะมีรายได้ มากกว่าการปลูกผักขายเหมือนเกษตรกรทั่วไป จึงได้มาจบลงที่ การแบ่งปัน โดยการแบ่งแปลงผักกับคนทั่วไป ได้มาเช่าและร่วมกับทาง U-Farm ดูแลแปลงผักที่เขาได้เลือกชนิดผักในการปลูกเอง และทาง U-Farm ทำหน้าที่ในการดูแลแปลงผักพร้อมกับจัดส่งให้แบบครบวงจร ในราคาค่าเช่า 3,900 บาท ในระยะเวลา 3 เดือน บนแปลงผักขนาด 3x4 เมตร ซึ่งถ้าพืชผักชนิดนั้น อายุยาวนานกว่า 3 เดือน จะคิดค่าบริการเพิ่มเป็นเดือนๆละ 1,300 บาท หลังจากเปิดให้เช่าแปลงผัก ผ่านมาประมาณ 3-4 เดือน มีผู้สนใจมาเช่าแปลงผักของ U-Farm ไปแล้วกว่า 50 แปลง และ เริ่มมีผลผลิตออกให้ได้เก็บเกี่ยวไปบางแล้วหลายแปลง เช่น แตงโม ผักเมืองหนาว เช่น บรีทรูท หรือ คะน้าฮ่องกง ฯลฯ
สำหรับลูกค้าของ U-Farm จะเป็นกลุ่มของคนรักษ์สุขภาพ ทั้งหมดเป็นคนในเมืองหลวง ต้องการผักที่เขาได้เห็นกระบวนการผลิต รู้ว่าใส่อะไรลงไปในแปลงผัก เพื่อจะได้ผักออร์แกนิกจริงๆ สร้างความมั่นใจว่าจะได้ผักที่ปลอดภัย และที่สำคัญ คือ ลูกค้าจะได้ผักสดที่เก็บจากแปลงผักมาใหม่ๆ เพราะทางฟาร์มจะจัดส่งถึงลูกค้าด้วยตัวเองภายในระยะเวลา 1 วัน ดังนั้น ทำให้ทางฟาร์มไม่สามารถรับลูกค้าต่างจังหวัด รับได้เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ เท่านั้น ในช่วงเริ่มต้น แผนในอนาคต มีแผนที่จะสร้างเครือข่ายในรูปแบบของแฟรนไชส์ เพื่อที่จะได้ขยายลูกค้าให้กว้าง ในต่างจังหวัดในรูปแบบสาขาของ U-Farm
ชนิดของผักที่ลูกค้านิยมปลูก...
ทั้งนี้ ชนิดของผักที่ทาง U-Farm มีด้วยกันทั้งหมด 30 ชนิด เช่น ข้าวโพดฮอกไกโด บรีทรูท ผักแคลใบหยิก คะน้าฮ่องกง ฟักทองบัตเตอร์นัท ซูคินี บัตเตอร์เฮต เบบี้สปินิช มะเขือเทศ Black Russion มะเขือเทศ Beef Steak พาสลี่ย์ ฟิตเล่ย์ มิซูน่า เรดสตาร์ เรสบัตตาเวีย ผักสลัด กรีนโอ้ค เรดโอ้ค แตงโม ฯลฯ โดยผักที่เราเลือกมา ส่วนใหญ่อายุไม่เกิน 3 เดือน เพื่อจะได้อยู่ในคอร์สค่าเช่า 3 เดือน
ส่วนชนิดของผัก ที่ลูกค้าเลือกปลูก มีหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่เป็นพืชผักที่มีราคาสูง เพราะลูกค้าจะรู้สึกว่าคุ้มค่ากับค่าเช่าที่เขาจ่ายไป เช่น คะน้าฮ่องกง ถ้าซื้อในซุปเปอร์มาร์เก็ต ราคากิโลกรัมละ หลักร้อย หรือ พืชผักบางอย่าง ราคาสูงกิโลกรัมละ 300 บาท หรือไม่ก็เป็นผักที่หาซื้อตามท้องตลาดได้ยาก เช่น ผักที่มาจากต่างประเทศ ซึ่งที่ฟาร์มของเราก็ได้มีการทดลองปลูกพืชผักต่างประเทศหลายสายพันธุ์ เพราะปกติทำอาหารให้สามีกับลูก ต้องใช้ผักต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในอนาคต เนื่องจากสามีมาจากประเทศฮอลแลนด์ เป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีพืชผัก ผลไม้หลายชนิดที่น่าจะนำมาปลูกในประเทศไทยได้ และคนไทยชื่นชอบ ก็จะนำเข้ามาปลูกที่ ยูฟาร์ม เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า
ความยากง่ายในการปลูกผักต่างประเทศในไทย
การปลูกพืชผักสายพันธุ์ต่างประเทศในพื้นที่ของ U-Farm ที่มีอากาศค่อนข้างร้อน โดยเฉพาะ จังหวัดเพชรบุรี ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สุดท้าย “คุณบัวระวงศ์” สามารถทำจนสำเร็จได้ แม้ว่าเธอจะไม่เคยทำการเกษตรมาก่อน แต่ทุกอย่างสามารถเรียนรู้ได้ โดยเธอได้ไปเรียนพื้นฐานการเกษตรออร์แกนิก จากผู้เชี่ยวชาญที่เปิดสอน หลังจากนั้น ต้องเรียนรู้จากการลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง
โดยเธอค้นพบว่า พืชเกือบทุกชนิดสามารถปลูกได้ ถ้าดินได้ผ่านการดูแลและปรุงดินอย่างดี พืชทุกชนิดสามารถขึ้นได้ แม้แต่พืชสายพันธุ์จากต่างประเทศ ซึ่งก่อนหน้านั้นดินที่ไร่ของเธอ ไม่ได้สมบูรณ์ และที่สำคัญเป็นดินลูกรัง ต้องใช้การปรับสภาพดิน และดูแลดินอยู่หลายเดือน ลองผิดลองถูก จนปัจจุบัน ดินบนที่ดินของU-Farm สามารถปลูกพืชผักได้เกือบทุกชนิด เพียงแต่ต้องเรียนรู้ว่า พืชแต่ละชนิดชอบแบบไหน อย่าง พาสลี่ย์ หลายคนบอกว่าปลูกยาก แต่พอเราได้เรียนรู้ว่า ต้องให้น้ำอย่างไร ชอบอะไร สุดท้ายสิ่งสำคัญของการทำเกษตร คือ การดูแลเอาใจใส่
ต่อยอดจากแปลงผักให้เช่า สู่กิจการร้านอาหาร
บัวระวงษ์ เล่าว่า เนื่องจากที่ดินของตนเอง อยู่ค่อนข้างไกล ห่างจากถนนใหญ่เข้าไปค่อนข้างลึก แต่ที่เลือกที่ดินตรงจุดนี้ เพราะชอบตรงที่ดูสงบเงียบ ห่างจากผู้คน เอาไว้พักผ่อน หลังจากทำงานในกรุงเทพฯ แต่พอเปิดแบ่งแปลงผักให้เช่า ก็คิดว่าจะมีใครเข้ามาเยี่ยมชมแปลงผักของเราไหม แต่พอได้ทำจริง ลูกค้ากว่า 50% แวะเข้ามาชมแปลงผักที่เขาเช่าไว้ ทำให้เราต้องต่อยอด ทำร้านอาหารเพิ่มขึ้นมา เพื่อเอาไว้ต้อนรับลูกค้า และสร้างกิจกรรมให้ลูกค้าได้เก็บผลผลิตที่ไร่แบบสดๆมาให้เราทำอาหารเสิร์ฟให้ลูกค้า
สำหรับ U-Farm ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ พื้นที่ด้านหลังจะเป็นภูเขา เนื่องจากพื้นที่อยู่ห่างจากชุมชน และพื้นที่การทำเกษตรของชาวบ้าน ทำให้มั่นใจได้ว่า ปลอดภัยจากสารพิษได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญ คือ มีบ่อน้ำธรรมชาติของเราเอง เพราะการทำเกษตรแบบออร์แกนิก สิ่งสำคัญ คือ ต้องมีบ่อน้ำธรรมชาติที่เป็นส่วนตัว ไม่ใช้ร่วมกับคนอื่น
การทำเกษตรแบบออร์แกนิก ทุกคนทำได้เพียงแค่ใส่ใจ
บัวระวงษ์ เล่าว่า การทำเกษตรแบบออร์แกนิก ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยาก หรือ ง่าย อย่างที่บอก คือ ต้องดูแลเอาใจใส่ ซึ่งบัวเองก็จะไปอยู่ที่ไร่ สัปดาห์ละ 3-4 วัน เนื่องจากตนเองและสามียังต้องทำที่กรุงเทพฯ สามีทำโปรดักส์ชั่นเฮ้าส์ และตนเองก็ทำงานเป็นทนายความ แต่ในช่วงโควิด ทำให้เรามีเวลาว่าง และที่บริษัทบัวทำงาน เขาก็อนุญาตให้เราทำงานที่บ้านได้ เพราะทุกอย่างเป็นระบบออนไลน์ หมดแล้ว ก็เลยมีเวลาไปอยู่ที่ ไร่ มากขึ้น และลูกก็ไม่ได้ไปโรงเรียนช่วงนั้น ด้วย ทำให้เรามีเวลาคิดออกแบบฟาร์มของเรามากขึ้น ในช่วงโควิดระลอก 2 ซึ่งผ่านมาไม่กี่เดือน หลังจากที่ได้เปิดเพจ แนะนำ U-Farm ให้ทุกคนรู้จัก มีลูกค้าเข้ามาจำนวนหนึ่ง หลังจากนั้น เกิดการบอกกันแบบปากต่อปาก จนวันนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับเกินคาด ตั้งเป้าไว้ว่า จะมีรายได้ตรงนี้ปีละ 1ล้านบาท
“ทั้งนี้ ลูกค้าต้องเข้าใจว่า การที่มาเช่าพื้นที่ U-Farm ปลูกผัก และให้ทางเราดูแลบริหารจัดการให้ ซึ่งเราดูแลให้อย่างดี แต่ด้วยเป็นพืช เราไม่สามารถควบคุมได้ว่าลูกค้าจะได้ผลผลิตตามที่ต้องการ เพราะสภาพอากาศในแต่ละเดือนไม่เหมือนกัน การเติบโตของพืชในแต่ละแปลงก็ออกมาไม่เหมือนกัน ซึ่งจากที่ผ่านมา ต้องบอกว่า ค่าเช่าทำแปลงผัก กับการซื้อผักในซุปเปอร์มาร์เก็ต ราคาไม่ได้ต่างกันมาก บางครั้ง ราคาของเราแพงกว่าในซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วยซ้ำ แต่ลูกค้าได้ความมั่นใจ ว่า เราเป็นออร์แกนิก และได้ผักที่สด ได้ทำกิจกรรมในการเดินทางมาดูแลแปลงผัก อยู่กับธรรมชาติ ให้ลูกได้ทำกิจกรรมอยู่กับธรรมชาติเช่นเดียวกับครอบครัวของเรา และส่วนตัว มองว่าต่อไปการทำเกษตรของเกษตรกรไทยจะทำแบบดั้งเดิมไม่ได้อีกต่อไป ทุกคนจะต้องหันมาทำเกษตรสมัยใหม่ คือ นอกจากประยุกต์เทคโนโลยีเข้าร่วมกับการเกษตรแล้ว ยังสามารถทำเกษตรเพื่อการท่องเที่ยวได้อีกด้วย อย่างเช่น U-FARM กำลังทำอยู่ขณะนี้” บัวระวงษ์ กล่าวในที่สุด
ติดต่อ FB: U-Farm , www.farmfarang.com
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *
SMEs manager
