xs
xsm
sm
md
lg

ก.พลังงานหวังราคาแอลพีจีตลาดโลกลด ลุ้น กบง.สิ้น มี.ค.ตรึงต่อหรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ก.พลังงานลุ้นราคาแอลพีจีตลาดโลกจะลดลงในช่วงเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศแถบตะวันตกช่วง มี.ค.นี้ หลังราคาพุ่งหนักจนทำให้กองทุนน้ำมันบัญชีแอลพีจีติดลบทะลุหมื่นล้านบาทแล้วจากมาตรการตรีงราคา 318 บาทต่อถัง 15 กก.ถึงสิ้น มี.ค.นี้ จับตา กบง.สิ้น มี.ค.จะตรึงต่อหรือไม่หรือรอขยับราคา

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ตลาดโลกใกล้ชิดเนื่องจากระดับราคาได้ปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาตะวันออกกลาง (CP) แตะ 600 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบัญชีแอลพีจีต้องอุดหนุนราคาขายปลีกไม่เกิน 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (กก.) เป็นวงเงินไปแล้วถึง 10,277 ล้านบาท อย่างไรก็ตามยังคาดหวังว่าในเดือนมีนาคมนี้ประเทศแถบตะวันตกจะผ่านพ้นฤดูหนาวที่ปกติจะทำให้ราคาแอลพีจีกลับมาลดลงได้อีกครั้งและจะส่งผลให้การอุดหนุนราคาแอลพีจีลดลงตามไปด้วย

“กระทรวงพลังงานติดตามสถานการณ์ดังกล่าวใกล้ชิด และยังคาดหวังว่าตั้งแต่เดือนมีนาคมจะผ่านพ้นฤดูหนาวไปแล้วราคาแอลพีจีโลกจะลดลงและมีผลทำให้ราคาคำนวณในไทยลดลงด้วย ซึ่งมาตรการดูแลแอลพีจีภาคครัวเรือนที่คงไว้ 318 บาทต่อถัง 15 กก. จะสิ้นสุด 31 มี.ค. 64 จากนั้นจะต้องสิ้นสุดการตรึงราคา ส่วนจะมีการปรับขึ้นหรือตรึงต่อไปหรือไม่อย่างไรเรื่องนี้ยังมีเวลาในการพิจารณาความเหมาะสม” นายกุลิศกล่าว

ทั้งนี้ ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 14 ก.พ. 64 กองทุนน้ำมันมีสินทรัพย์รวม 59,874 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 34,735 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันสุทธิ 35,416 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมัน 25,139 ล้านบาท และบัญชีติดลบ 10,277 ล้านบาท โดยกระทรวงพลังงานต่ออายุมาตรการดูแลราคาขายปลีกแอลพีจี โดยคงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นซึ่งไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 14.3758 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) หรือราคาขายปลีกอยู่ที่ 318 บาทต่อถัง 15 (กก.) ออกไปอีก 3 เดือน หรือมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 2564 จากที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2563 เพื่อลดค่าครองชีพประชาชนจากผลกระทบโควิด-19 และขยายกรอบวงเงินกองทุนน้ำมันดูแลราคาแอลพีจีเป็นไม่เกิน 15,000 ล้านบาท

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อ 21 ธ.ค. 2563 สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) รายงานมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. ซึ่งมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงานเป็นประธาน รับทราบแนวทางบริหารราคาแอลพีจีและสถานการณ์กองทุนน้ำมันฯ ในภาพรวมหลังจากขยายระยะเวลาการคงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นแอลพีจีที่ 14.3758 บาทต่อ กก.ต่อไปอีก 3 เดือน (วันที่ 1 ม.ค. 64-31มี.ค. 64) หลังจากนั้นให้ทยอยปรับขึ้นราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นแอลพีจี 3 ครั้ง โดยปรับขึ้นไตรมาสละ 0.9346 บาทต่อ กก. ซึ่งไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อลดภาระหนี้สินกองทุนน้ำมันฯ โดยให้หารือ กบง.อีกครั้งก่อนขยับราคา

ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวเป็นข้อเสนอจากสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เพื่อให้สอดคล้องกับแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงและแผนยุทธศาสตร์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจาก สกนช. กังวลว่าการตรึงราคาแอลพีจีไว้ไม่เกิน 318 บาทต่อถัง 15 กก.ต่อไปแต่ข้อเท็จจริงมีเหตุการณ์ที่ทำให้ราคาขายปลีกในประเทศสูงขึ้นแต่ไม่ถึง 363 บาทต่อถัง 15 กก. (โดยอยู่ในช่วง 318 -362 บาทต่อถัง 15 กก.) จะทำให้เกิดสภาวะที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์วิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจะไม่สามารถใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น