ดีลขายธุรกิจติ๊กตอก (TikTok) ในสหรัฐอเมริกาให้แก่ยักษ์ใหญ่อย่างออราเคิล (Oracle) และวอลมาร์ท (Walmart) อาจถูกยกเลิกหลังอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ลาตำแหน่ง แหล่งข่าววงในมองดีลมีโอกาสไม่เกิดสูงเพราะติดโรคเลื่อนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง แต่ยังลุ้นว่า TikTok อาจยึดแผนเดิมเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้แดนลุงแซม
ปีที่แล้ว อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐฯนั้นเรียกร้องให้บริษัทแม่ของ TikTok อย่างไบต์แดนซ์ (ByteDance) ยุติการดำเนินงานในสหรัฐฯ เนื่องจากหวั่นใจเรื่องปัญหาด้านความมั่นคงของชาติ เส้นตายที่รัฐบาลทรัมป์ขีดไว้คือ 12 พฤศจิกายนซึ่งขยายไปแล้ว 2 ครั้งถ้วน ทุกครั้งไม่มีการออกมาให้ความคิดเห็นว่าเป็นเพราะสาเหตุใด และการเลื่อนกำหนดเส้นตายออกไปล้วนเป็นสัญญาณถึงการผ่อนปรนให้ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนมีพื้นที่ยืดหยุ่นตัวเองได้มากขึ้น
รายงานระบุว่า Oracle และ Walmart ได้เปิดฉากเจรจากับ TikTok ตั้งแต่เดือนกันยายน เพื่อสรุปว่าภายใต้ข้อตกลงจะมีการโอนถ่ายทรัพย์สินรายการใดบ้าง เป็นการเปลี่ยนหน่วยงานใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสั่งแบนบริการในสหรัฐอเมริกา ซึ่งล่าสุด สื่อใหญ่ทั้งวอลสตรีทเจอร์นัล (Wall Street Journal) และรอยเตอร์ (Reuters) ต่างรายงานว่าข้อตกลงดังกล่าวสามารถยกเลิกได้ แม้ว่าจะยังไม่มีบริษัทใดที่เกี่ยวข้องออกมาแสดงความคิดเห็น
ฝั่ง Reuters นั้นรายงานว่า รัฐบาลโจ ไบเดน ชุดใหม่ของสหรัฐฯ จะลุยทบทวนนโยบายจีนของทรัมป์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจกินเวลาหลายเดือนจนไม่มีตารางกำหนดเวลาที่เฉพาะเจาะจงว่าจะตรวจสอบหรือปฏิบัติตามนโยบายเดิมถึงช่วงใด โดยล่าสุดยังไม่มีการออกคำสั่งใหม่ใดเพิ่มขึ้นเป็นกรณีพิเศษ
หอมกลิ่นสันติ
นักสังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว รัฐบาลใหม่ของโจ ไบเดน อาจใช้ไม้อ่อนกับจีนในการลดความเสี่ยงด้านความมั่นคง ซึ่งท่าทีนี้อาจทำให้การตัดสินใจขายแพลตฟอร์มไวรัลวิดีโออย่าง TikTok ในสหรัฐฯ นั้นมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยลง จุดนี้ นักวิเคราะห์การลงทุนมองว่าดีลนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับนโยบายของสหรัฐฯ ในอนาคต รวมถึงนโยบายของ ByteDance เองว่าจะวางตัวอย่างไรในสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
นักวิเคราะห์เชื่อว่า บอร์ด ByteDance อาจตัดสินใจดำเนินการกับดีลขาย TikTok ต่อไป การใช้จุดยืนยอมทำตามคำเรียกร้องของรัฐบาลอเมริกันถือว่าสามารถฟอกตัวและขจัดความกังวลด้านความปลอดภัยที่ยังคงอยู่รอบแพลตฟอร์ม TikTok ได้ดี ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทพยายามปฏิเสธมาโดยตลอดว่ารัฐบาลจีนจะไม่สามารถบังคับ TikTok ให้เปิดเผยข้อมูลผู้ใช้กว่า 100 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาได้ โดยย้ำว่าข้อมูลดังกล่าวถูกเก็บไว้ในสหรัฐอเมริกาและสิงคโปร์ และอีกหลายประเทศที่ให้บริการผู้ใช้ TikTok ที่มีจำนวนมากกว่า 800 ล้านคนทั่วโลกในขณะนี้