xs
xsm
sm
md
lg

ลุ้น OR เทรดหุ้นวันแรก 11 ก.พ. แนะนักลงทุนมองธุรกิจระยะยาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ผู้บริหาร OR แนะนักลงทุนมองธุรกิจระยะยาว ชี้บริษัทมีการลงทุนและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอมรับหุ้น OR มีจำนวนมาก คาดเดาราคาหุ้นลำบาก โดยหุ้น OR เทรดวันแรก 11 ก.พ.นี้

นายพิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารการเงิน บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า วันนี้ (11 ก.พ.) หุ้น OR เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ คงตอบไม่ได้ว่าราคาจะขึ้นไปเหนือจองหรือไม่ แต่อยากให้นักลงทุนมั่นใจ และมองธุรกิจของบริษัทในระยะยาว ซึ่ง OR มีแผนการลงทุนและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน OR ส่วนแบ่งทางการตลาดค้าปลีกน้ำมันผ่านสถานีบริการของพีทีที สเตชั่น อันดับ 1 มายาวนาน ส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (นอนออยล์) ก็ยังเติบโตต่อเนื่องทุกปี

ขณะเดียวกัน ด้านกระแสเงินสดของบริษัทยังแข็งแกร่ง และมีแผนการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยแผนลงทุน 5 ปีนี้ (ปี 2564-2568) จะมีการลงทุนทั้งธุรกิจน้ำมันและนอนออยล์เพิ่มขึ้น โดยบริษัทตั้งงบลงทุนในช่วง 5 ปี อยู่ที่ประมาณ 7.46 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนในธุรกิจน้ำมัน 34.6% ธุรกิจค้าปลีกและบริการอื่นๆ (Non-Oil) 28.6% ธุรกิจต่างประเทศ 21.8% และธุรกิจอื่นๆ 15% ที่เป็นการเปิดโอกาสในธุรกิจใหม่

“อยากให้นักลงทุนดูหุ้นระยะยาว เนื่องจากหุ้น IPO ที่เข้าตลาดใหม่มักมีความผันผวนสูง เนื่องจากนักลงทุนบางรายก็ขาย บางรายก็ถือระยะยาว แต่เนื่องจากหุ้น OR มีจำนวนหุ้นเยอะจึงเดายาก ตอนนี้รายย่อยถือรวมประมาณ 800-900 ล้านหุ้น ซึ่งนักลงทุนไม่อยากให้ราคาหุ้นผัวผวนมากนัก” นายพิจินต์กล่าว

ส่วนความคืบหน้าการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ได้นำร่องติดตั้งในสถานีบริการพีทีที สเตชั่น แล้ว 25 แห่ง เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าฟรี และมีแผนติดตั้งอีก 4 แห่งในปีนี้ ซึ่งจะเป็นรูปแบบ Quick Charge ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้ได้ และในอนาคตมีแผนเพื่อเปลี่ยนสถานีชาร์จเป็นรูปแบบ Quick Charge ทั้งหมด

OR มีสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น กว่า 1,900 แห่งทั่วประเทศ ด้วยส่วนแบ่งการตลาดถึง 38.9% และมีธุรกิจร้านกาแฟคาเฟ อเมซอน ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในประเทศไทยกว่า 3,100 สาขา นับเป็นแบรนด์ร้านกาแฟที่มีจำนวนสาขามากเป็นอันดับ 6 ของโลก รวมถึงได้รับสิทธิอนุญาตแต่ผู้เดียวในประเทศไทยในการดำเนินธุรกิจร้านค้าภายใต้แบรนด์ “เท็กซัส ชิคเก้น” และได้รับสิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์ของธุรกิจอาหารแบรนด์ “ฮั่วเซ่งฮง ติ่มซำ” รวมทั้งยังมีพันธมิตรธุรกิจทั้งแบรนด์ระดับโลก และแบรนด์ไทยชั้นนำอีกมากมาย

OR เสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 2,610 ล้านหุ้น (ไม่รวมกรีนชู) และมีกรีนชูอีก 390 ล้านหุ้น โดยจัดสรรให้รายย่อยประมาณ 595 ล้านหุ้น โดยเปิดให้ประชาชนจองหุ้น IPO ที่ราคา 18 บาทต่อหุ้น โดยสร้างประวัติศาสตร์ เป็นหุ้นที่มีประชาชนจองสูงสุดผ่านช่องทางการจองซื้อที่สาขา และช่องทางออนไลน์ รวมกว่า 530,000 รายการ
กำลังโหลดความคิดเห็น