จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีหลายผลิตภัณฑ์ที่ออกมาเพื่อดูแลสุขอนามัย นอกจากหน้ากากอนามัยแล้ว ยังมีของใช้ส่วนตัว และของใช้ในครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์เจล แอลกอฮอล์สเปรย์ น้ำยาฆ่าเชื้อโรค สเปรย์ปรับอากาศ หรือแม้กระทั่งผงซักฟอกสำหรับซักผ้า ก็มีสูตรฆ่าเชื้อไวรัสวางจำหน่ายเพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภค
ผลิตภัณฑ์ผงซักฟอกอย่างน้อย 2 แบรนด์ ชูคุณสมบัติฆ่าเชื้อไวรัส พร้อมแข่งขันด้วยการจัดกิจกรรมการตลาด ไม่ว่าจะเป็น คาโอ (ประเทศไทย) ออกผลิตภัณฑ์ "แอทแทค 3D ไวรัส คิลเลอร์" ผงซักฟอกสูตรเพื่อสุขอนามัยขั้นสุด ฆ่าเชื้อไวรัส 99.9% ปะทะกับ ไลอ้อน (ประเทศไทย) พัฒนาผลิตภัณฑ์ "เปา ซิลเวอร์นาโน เอ็กซ์เพิร์ท" ฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ถึง 99.99%
เริ่มจาก "แอทแทค 3D ไวรัส คิลเลอร์" วางจำหน่ายขนาด 750 กรัม คิดค้นและพัฒนาจากแนวคิดที่ว่า ทุกคนมีโอกาสสัมผัสเชื้อโรคและสิ่งสกปรกได้ทุกวัน จึงจำเป็นต้องดูแลรักษาความสะอาดของเสื้อผ้า ซึ่งผงซักฟอกสูตรนี้มีกลไกการทำงานโดยเทคโนโลยี 3D จะเข้าไปทำลายเปลือกหุ้มของไวรัสทำให้เชื้อไวรัสหมดฤทธิ์และถูกกำจัดออกไปในที่สุด
โดยผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการของหน่วยงานทดสอบในประเทศญี่ปุ่น ด้วยเชื้อ Influenza A virus ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย 99.9% และผลการทดสอบบนผ้าคอตตอน ในห้องปฏิบัติการของ บริษัท คาโอ ประเทศญี่ปุ่น ด้วยเชื้อ Moraxella osloensis มีส่วนช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับ กลิ่นเหงื่อบนผ้าระหว่างวัน พร้อมขจัดคราบฝังแน่นลึกถึงใยผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับวิธีการใช้เพื่อฆ่าเชื้อไวรัสและยับยั้งแบคทีเรีย ละลายผงซักฟอก 40 กรัม (1 ช้อนพูน) ต่อน้ำ 40 ลิตร แช่ผ้าทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้นนำไปซักด้วยเครื่องตามปกติ ส่วนวิธีใช้เพื่อขจัดครบสกปรกฝังแน่น ให้แยกผ้าขาว ผ้าสี และผ้าสีตกออกซักต่างหาก ละลายผงซักฟอกในน้ำ แช่ผ้าก่อนการซัก 15 นาที โดยขึ้นอยู่กับจำนวนผ้าที่ซัก
ส่วน "เปา ซิลเวอร์นาโน เอ็กซ์เพิร์ท" เป็นสูตรที่พัฒนามาจากเปา ซิลเวอร์ นาโน ผงซักฟอกสูตรซักกลางคืน สำหรับตากในที่ร่ม ตากตอนฝนตก หรือซักกลางคืน ที่พัฒนาร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อ 11 ปีก่อน ซึ่งมีไม่บ่อยนักที่นำนวัตกรรมขั้นสูงมาใช้ในสินค้าแมส มาคราวนี้พัฒนาสูตรใหม่ ชูคุณสมบัติฆ่าเชื้อไวรัสได้ถึง 99.99%
จากผลการทดสอบประสิทธิภาพ Virucidal Activity กับเชื้อ Influenza A H1N1 ฆ่าเชิ้อไวรัสได้ 99.99% ในห้องปฏิบัติการของหน่วยงานทดสอบในประเทศไทย เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ผลการทดสอบประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย S.aureus, K.pneumoniae และ E.coli ได้ 99.9% ในห้องปฏิบัติการของหน่วยงานทดสอบในประเทศไทย เมื่อเดือนกันยายน 2563
นอกจากนี้ ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย เพิ่มประสิทธิภาพ ขจัดสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็น ต้นเหตุกลิ่นอับ คราบเหงื่อไคลสะสม แบคทีเรีย คราบไขมัน ความชื้น พร้อมเพิ่มแคปซูลน้าหอม แตกตัวกระจายกลิ่นหอมทุกครั้งที่สัมผัส และถุงซิปล็อคใหม่ สะดวกใช้งาน วิธีใช้เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ใช้ผงซักฟอก 1 ช้อน ต่อน้ำ 1/2 กะละมังและผ้า 15 ชิ้น แช่ผ้าทิ้งไว้ 15 นาทีก่อนซัก
ปัจจุบันตลาดผงซักฟอกมีมูลค่า 1.9 หมื่นล้านบาท โดยมีผู้ประกอบการ 2-3 รายที่เป็นเจ้าตลาด ได้แก่ ยูนิลีเวอร์ ไลอ้อน และคาโอ ที่ผ่านมามักจะชูความเป็นผงซักฟอกสูตรเข้มข้น เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการซักสะอาด ขจัดคราบสกปรกหมดจด นอกนั้นเป็นเฮ้าส์แบรนด์และแบรนด์ขนาดเล็ก ที่ใช้กลยุทธ์ด้านราคาเพื่อช่วงชิงผู้บริโภคที่มักจะติดยี่ห้อนั้นๆ
คุณสมบัติฆ่าเชื้อไวรัสของผงซักฟอก จึงเข้ากับกระแสผู้บริโภคที่ต้องการความสะอาด มั่นใจ ในสถานการณ์โควิด-19 แม้โดยทั่วไปแล้วผงซักฟอกสามารถทำความสะอาดได้ ไม่เกิดการแพร่เชื้อโรค ไม่จำเป็นต้องแยกซักก็ตาม ถึงกระนั้น ควรศึกษาวิธีการใช้ และในกรณีที่เคยแพ้ผงซักฟอกหรือมีบาดแผลที่มือ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงโดยสวมถุงมือยางทุกครั้ง
(เกาะกระแสธุรกิจ เศรษฐกิจสดใหม่ เรื่องราวการตลาดที่ใกล้ชิดผู้บริโภค กับ Ibusiness Review ที่นี่ที่เดียว! ทางเฟซบุ๊ก Ibusiness และเว็บไซต์ ibusiness.co)