“อมตะ คอร์ปอเรชัน” ชะลอการลงทุนโครงการพัฒนานิคม YASEC ที่เมียนมาหลังเกิดรัฐประหารในเมียนมาทำให้ลูกค้าต่างชาติเบรกการลงทุน พร้อมจับตาสถานการณ์การเมืองใกล้ชิด เผยบริษัทได้รับผลกระทบ จากเดิมวางเป้าหมายทำรายได้จากการให้เช่าที่ดินนิคมฯ ในเมียนมาปีนี้ราว 100-200 ไร่
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาดบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) AMATA เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ตัดสินใจชะลอการลงทุนโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอมตะย่างกุ้ง (Yangon Amata Smart & Eco City : YASEC) ที่เมียนมาออกไปก่อนจนกว่าสถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้น และยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะกลับมาลงทุนต่อเมื่อใด สืบเนื่องจากเกิดการรัฐประหารเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ในเมียนมาก็เพิ่มสูงขึ้น โดยบริษัทกังวลว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงเหมือนในอดีตได้ ดังนั้นบริษัทจะติดตามสถานการณ์และประเมินสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะย่างกุ้งจากรัฐบาลเมียนมาในการประกอบกิจการนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เมืองย่างกุ้ง บนพื้นที่ประมาณ 2,000 เอเคอร์ หรือ ประมาณ 5,000 ไร่ โดยปัจจุบันได้มีการพัฒนาพื้นที่ในระยะแรกแล้ว โดยใช้งบลงทุนประมาณ 140 ล้านบาท ประมาณ 200 เอเคอร์ หรือประมาณ 500 ไร่ ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้นย่อมส่งผลกระทบทำให้ลูกค้าต่างชาติที่มีแผนเตรียมจะเข้ามาลงทุนในนิคม YASEC ต้องชะลอออกไป
ส่งผลโครงการพัฒนานิคม YASEC ต้องล่าช้าออกไป รวมถึงเป้าหมายการรับรู้รายได้จากการให้เช่าที่นิคม YASEC ในปีนี้ไม่เกิดขึ้น จากเดิมที่วางเป้าหมายในปีนี้ราว 100-200 ไร่
“ความรู้สึกส่วนตัวแล้ว การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจะไม่ทำให้ต้องหยุดโครงการนิคม YASEC เพราะเป็นโครงการที่สร้างความเจริญให้แก่ประเทศเมียนมา แต่ยอมรับว่าทางยุโรปและสหรัฐฯ อาจจะมีมาตรการตอบโต้ เช่น การบอยคอตทางการค้า การลงทุนใหม่น้อยลง ทำให้กระทบต่อเศรษฐกิจเมียนมา รวมถึงบริษัทที่จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน”