xs
xsm
sm
md
lg

SCB PRIVATE BANKING ปลื้มปี 63 ผลตอบแทนลงทุน 14%

เผยแพร่:



SCB PRIVATE BANKING (เอสซีบี ไพรเวท แบงกิ้ง) ประกาศความสำเร็จด้านการให้บริการด้านการเงินการลงทุนส่วนบุคคลแก่กลุ่มลูกค้าไพรเวท แบงกิ้ง ที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (High Net Worth) ผสานพลังทีมที่ปรึกษาด้านการเงินการลงทุนส่วนบุคคลระดับมืออาชีพ Chief Investment Office (SCBS CIO Office) จาก บล.ไทยพาณิชย์ ล่าสุด เผยผลงานเด่นปี 2563 ในการให้คำแนะนำด้านกลยุทธ์และการบริหารพอร์ตการลงทุนแก่กลุ่มลูกค้าไพรเวท แบงกิ้ง จนสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้สูงถึง 14.90% ในระยะเวลา 1 ปี โดยนับเป็นอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่ากองอื่นๆ ในการลงทุนประเภทความเสี่ยงปานกลางตามนิยามของ AIMC* โดยค่ากลางของกลุ่มดังกล่าวอยู่ที่ -1.06%** และเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนหุ้นในประเทศ (SET TRI Index) จะได้รับผลตอบแทนเพียง -5.24% พร้อมเปิดลิสต์ 5 กองทุน Mega trends (เมกะ เทรนด์) ยอดนิยมที่ลูกค้าไพรเวท แบงกิ้งเลือกลงทุนในปี 2563 ที่ผ่านมา

นางเมธินี จงสฤษดิ์หวัง รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Private Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดีว่าตลาดการเงินการลงทุนทั่วโลกเผชิญความผันผวนอย่างสูงจากสาเหตุของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งธนาคารได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่องแก่ลูกค้าในด้านกลยุทธ์การบริหารและปรับพอร์ตการลงทุน โดยในปีที่ผ่านมา (1 ม.ค.-31 ธ.ค.2563) พอร์ตการลงทุนประเภทความเสี่ยงปานกลาง (Moderate Asset Allocation) สามารถทำผลตอบแทนจากการลงทุนได้ถึง 14.90% ในระยะเวลา 1 ปี โดยนับเป็นอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่ากองอื่นๆ ในการลงทุนประเภทความเสี่ยงปานกลางตามนิยามของ AIMC* โดยค่ากลางของกลุ่มดังกล่าวอยู่ที่ -1.06%** และเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนหุ้นในประเทศ (SET TRI Index) จะได้รับผลตอบแทนเพียง -5.24% โดยพอร์ตการลงทุนนี้เป็นการลงทุนแบบผสมในผลิตภัณฑ์ทั้งจากบริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Group) และจากบริษัทพันธมิตรรายอื่นๆ ในรูปแบบของ Open Architecture โดยไทยพาณิชย์ได้ดำเนินนโยบายเรื่องดังกล่าวมาแล้วกว่า 5 ปี

"สภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา โดยพอร์ตการลงทุนประเภทความเสี่ยงปานกลางที่เราแนะนำมีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนทั้งกองทุนตราสารหนี้ กองทุนตราสารทุน และกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก ทำให้พอร์ตมีความยืดหยุ่นสูงเหมาะกับสภาวะตลาดที่มีความผันผวน ผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่นที่ผสมอยู่ในพอร์ตในปีที่ผ่านมาจะเป็นกองทุนตราสารทุน และกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น กองทุน SCBGOLD ที่เน้นลงทุนในทองคำ กองทุน KFACHINA ที่เน้นลงทุนในหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ (A Shares) กองทุน PRINCIPAL GOPP เน้นลงทุนในหุ้นเติบโตทั่วโลก ในขณะที่กองทุนตราสารหนี้ที่ผสมอยู่ในพอร์ตทำหน้าที่ลดความผันผวนของพอร์ตและสร้างความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตการลงทุน" นายศรชัย สุเนต์ตา CFA กรรมการผู้จัดการ Chief Investment Office บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS CIO) กล่าวเสริม

สำหรับพอร์ตการลงทุนในปี 2564 ทางไทยพาณิชย์แนะนำให้ลูกค้ามีการจัดพอร์ตการลงทุนที่เน้นกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม โดยพอร์ตประเภทความเสี่ยงปานกลาง แนะนำแบ่งเป็นสัดส่วนหุ้นต่อตราสารหนี้ไว้ในสัดส่วน 60% ต่อ 40% ซึ่งเป็นไปตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่จะทยอยปรับตัวดีขึ้นภายหลังจากการกระจายวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชากรทั่วโลก

นางเมธินี กล่าวอีกว่า ในปี 2564 นี้ SCB PRIVATE BANKING ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการให้คำปรึกษาเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้แก่ลูกค้า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันธุรกิจไพรเวท แบงกิ้ง หนึ่งในธุรกิจหลักที่เป็นยุทธศาสตร์องค์กรที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดย SCB PRIVATE BANKING มีทีมที่ปรึกษาด้านการเงินและการลงทุนส่วนบุคคลระดับมืออาชีพทั้งที่ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ เพื่อพร้อมให้คำแนะนำด้านการลงทุนที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ (Personalized Investment Portfolios) สอดคล้องกับความต้องการและระดับความเสี่ยงในการลงทุนของลูกค้าแต่ละท่าน
กำลังโหลดความคิดเห็น