กัลฟ์ฯ ลั่นไม่กระทบการก่อสร้างโรงไฟฟ้าไอพีพีตามแผนงานฯ เช่นเดียวกับ PTTGC พบว่าโรงงานทั้ง 20 โรงในระยองมีการผลิตและขนส่งสินค้าได้ตามปกติ หลังประกาศให้ระยอง-ชลบุรีเป็นพื้นที่ควบคุมระดับสูงสุด ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19
น.ส.ยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยกรณีการประกาศยกระดับ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง เป็นพื้นที่ควบคุมระดับสูงเพื่อป้องกันแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเข้าพื้นที่ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP) ขนาดกำลังการผลิตรวม 5,000 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง เนื่องจากมีบุคลากรประจำอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว
โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าจะยังคงสามารถทยอยจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ตามแผน ซึ่งจะเริ่มทยอย COD โรงไฟฟ้า GSRC อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 2,500 เมกะวัตต์ ทยอย COD ยูนิตที่ 1 จำนวน 625 เมกะวัตต์ในวันที่ 1 มี.ค. 2564 และยูนิตที่ 2 จำนวน 625 เมกะวัตต์ COD ในเดือน ต.ค. 2564 รวมเป็น 1,250 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือของ GSRC อีก 1,250 เมกะวัตต์ (จำนวน 4 ยูนิต) COD ในปี 2565 ขณะที่โรงไฟฟ้า GPD จ.ระยอง กำลังการผลิต 2,500 เมกะวัตต์ ทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบปี 2566-67
ด้านแนวโน้มผลประกอบการปี 2564 บริษัทคาดว่ามีรายได้อยู่ในระดับ 54,000-55,000 ล้านบาท เนื่องจากจะทยอยรับรู้รายได้จากการ COD โครงการโรงไฟฟ้า IPP และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Makong ในประเทศเวียดนามจะCODในเดือน มี.ค. 2564 ราว 30 เมกะวัตต์ และในเดือน ต.ค. 2564 อีก 98 เมกะวัตต์ รวมกำลังการผลิต 128 เมกะวัตต์ รวมถึงจะได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้เต็มปีของโครงการ BKR2 เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล (Offshore Wind Farm) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 464.8 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในทะเลเหนือ (North Sea) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเยอรมนี โดย GULF มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ราว 50%
น.ส.ยุพาพิน ยังกล่าวถึงราคาก๊าซธรรมชาติเหลว ตลาดจร (SPOT LNG) ที่ในขณะนี้ ขยับขึ้นมาสูงกว่า 12 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู ว่าทางกัลฟ์ติดตามสถานการณ์ว่าทิศทางราคาจะเป็นอย่างไร จะกระทบต่อแผนการนำเข้าที่กลุ่มกัลฟ์ตั้งใจนำเข้ามาล็อตแรกในกลางปีนี้หรือไม่ เพราะตามเป้าหมายคือการนำเข้ามาเพื่อให้ต้นทุนผลิตไฟฟ้าต่ำที่สุด คาดว่าราคาน่าจะขยับเป็นการชั่วคราวในช่วงหน้าหนาว และกัลฟ์ไม่มีแผนที่จะนำเข้าแอลเอ็นจีมาจำหน่ายแก่ภาคอุตสาหกรรมทั่วไปแต่อย่างใด และการนำเข้าก็จะไม่กระทบต่อสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติที่ทำไว้กับ บมจ.ปตท.แต่อย่างใด
ทั้งนี้ กัลฟ์ได้ใบอนุญาตประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (shipper) นำเข้า 3 แสนตันต่อปี โดยใช้สำหรับไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) จำนวน 19 โครงการของกลุ่มกัลฟ์ และบริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (HKH) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่ GULF ถือหุ้น 49% กับบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 51% ได้รับใบอนุญาตนำเข้า 1.4 ล้านตันต่อปี เพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า
PTTGC ยันไม่กระทบการผลิต-ขนส่ง
ด้านนายปฏิภาณ สุคนธมาน ดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC กล่าวว่า บริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบด้านการขนส่งและการผลิตสินค้าจากกรณีที่ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ถูกประกาศยกระดับเป็นพื้นที่ควบคุมระดับสูงเพื่อป้องกันแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งบริษัทปฏิบัติตามหลักของรัฐบาล มีการกรอกเอกสาร และขนส่ง โดยจีซี โลจิสติกส์ โซลูชั่น ซึ่งไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีโรงงานผลิตทั้งหมดในระยองกว่า 20 แห่ง ก็เดินเครื่องตามปกติ โดยการดำเนินการได้ใช้รูปแบบการดูแลป้องกันโควิด-19 ในปีที่แล้วมาปรับใช้ และเข้มข้นขึ้นด้วยการตรวจโควิด-19 ของพนักงานที่ทำงานในห้องควบคุม หรือคอนโทรลรูม ทั้งหมดกว่า 300 ราย โดยพนักงานกลุ่มนี้มีการล็อกอัพให้นอนในพื้นที่กำหนด คือ ในโรงแรมที่บริษัทเช่าไว้ในระยอง 4-5 แห่ง ส่วนพนักงานในกลุ่มส่วนอื่นๆ ก็ให้เข้มงวดและพนักงานออฟฟิศก็ให้ทำงานที่บ้านเป็นหลัก
สำหรับรายได้ในปีนี้ก็คงขึ้นอยู่กับทิศทางราคาน้ำมันที่ ปีนี้มีแนวโน้มจะสูงขึ้นและไม่ผันผวนเหมือนปีที่แล้ว ซึ่งทางกลุ่ม ปตท.ประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้ที่ประมาณ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตภาพรวมปีนี้จะสูงกว่าปีที่แล้ว เพราะโรงงานใหม่ 3 โรงได้ก่อสร้างทยอยแล้วเสร็จ ได้แก่ โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต Olefins Reconfiguration Project (ORP), โครงการโพรพิลีนออกไซด์ (Propylene Oxide : PO) และโครงการโพลีออลส์ (Polyols)