เมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการนำเสนอผ่านสื่อหลายช่อง เกี่ยวกับ ร้านเนื้อย่าง ร้านหนึ่งที่ชื่อว่า “คงกระพันเนื้อย่าง” ความน่าสนใจร้านนี้ คือ การนำไอเดียความเชื่อศรัทธาของคนในหลายรูปแบบมาใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งร้าน เขาเริ่มโด่งดังหลังจากได้มีการแนะนำร้านผ่านทางช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ก่อนที่สื่อหลายสำนักเดินทางไปสัมภาษณ์
อดีตนิสิตจากรั้ว สจล.กับไอเดียร้านปิ้งย่าง..
หลังจากได้เดินทางไปสัมผัสที่ร้านจริง ต้องบอกว่า ไอเดียการตกแต่งร้านในลักษณะศาลเจ้าไม่ได้มาก หรือ เหมือนศาลเจ้าอย่างที่หลายคนบอกแต่อย่างไร เป็นร้านเล็กที่เปิดอยู่ในอาคารพาณิชย์ ในซอยลาดกระบัง 54/3 เจ้าของร้านบอกว่าที่เขามาตั้งร้านอยู่ที่นี่ ก็เพราะเรียนจบที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งมีความคุ้นเคยกับที่ตั้งย่านนี้เป็นอย่างดีจึงได้เลือกเปิดร้านที่แห่งนี้
นายณัฐภาสน์ คุ้มกลาง และนายพรศักดิ์ ศิริสุนทร เจ้าของที่เป็นหุ้นส่วน คงกระพันเนื้อย่าง ได้มาบอกเล่าถึงที่มาของร้าน คงกระพันเนื้อย่าง ว่า เริ่มมาจากทั้งสองคนเรียนจบมา ยังไม่ได้ทำงานประจำ ทำให้พอมีเวลาว่างอยู่บ้าง จึงได้คิดว่าต้องการจะเปิดร้านอาหาร เพราะก่อนที่ทั้งสองจะเรียนจบ ก็ได้มีวางแผนกันไว้บ้างว่าอยากจะเปิดร้านอาหาร แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะเปิดร้านอาหารในลักษณะไหนดี
ด้าน“พรศักดิ์” เล่าว่า ที่มาลงตัวเอาที่เปิดร้านปิ้งย่าง เพราะคิดว่าน่าจะตอบโจทย์คนในยุคนี้ และไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ทุกอย่างสามารถเตรียมได้ง่าย แต่การเปิดร้านของเราทั้งสองคนจะธรรมดาแบบคนอื่นไม่ได้ ซึ่งตนเองเรียนจบมาทางด้านนิเทศศิลป์ภาพยนตร์ ก็เลยเป็นคนชอบคิดออกแบบเหมือนเป็นครีเอทีฟของร้าน ดังนั้นทุกอย่างภายในร้านส่วนใหญ่ ผมจะเป็นคนคิดเกือบทั้งหมด แต่หน้าที่การคิดสูตรหรือ ทำอาหารก็เป็นหน้าที่ของ “ณัฐภาสน์” สุดท้ายก็เลยออกมาเป็นร้าน คงกระพันเนื้อย่าง และที่มาลงตัวตรงที่เนื้อย่าง เพราะวันหนึ่งพี่ที่รู้จัก อยู่นครสวรรค์เอาเนื้อมาฝาก รู้สึกว่าเนื้ออันนี้อร่อยมาก น่าจะนำมาต่อยอดทำอะไรได้ ก็เลยคิดว่า ถ้าอย่างนั้น เปิดร้านปิ้งย่าง ลงทุนไปประมาณ 4 แสนบาท เปิดมาได้ประมาณ 7 เดือน
สร้างจุดขาย..ไอเดียศาสตร์ความเชื่อ
นายพรศักดิ์ เล่าว่า สำหรับจุดขายของร้านคงกระพัน เนื้อย่าง การนำเสนอรูปแบบของร้านที่นำศาสตร์ของความเชื่อมาเป็นไอเดียในการทำร้าน การตั้งชื่อเมนูอาหาร รวมถึง การตั้งชื่อร้าน ส่วนรูปแบบของร้านที่เป็นสีแดงเหมือนศาลเจ้า เพราะสีแดงมีข้อดี คือ ทำให้รู้สึกอยากรับประทานอาหาร แต่มีข้อเสียเป็นสีที่มีความร้อนแรงทำให้โมโหง่ายถ้าได้อาหารช้า แต่จุดขายอย่างหนึ่งของสี คือ ทำให้คนจดจำได้ง่าย เช่น บริษัทชั้นนำต่างๆ ก็ยังต้องมีสีประจำเพื่อให้คนจดจำ และปัจจุบันคนทั่วไปผู้บริโภคจะแยกแบรนด์จากสีที่แตกต่าง
อย่างไรก็ตาม การนำศาสตร์ของความเชื่อ มาเล่นในครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการจะลบหลู่อะไร แต่ต้องการจะสื่อให้เห็นว่า ศาสตร์ของความเชื่อเหล่านี้มันอยู่ในคนไทย หรือ คนหลายชาติก็จะมีศาสตร์ของความเชื่อ ถ้านำมาเป็นไอเดียในการทำร้านทำให้เข้าถึง ลูกค้าได้ง่าย และที่สำคัญมีความแปลก เพราะยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน เพราะในเวลานี้ ถ้าเราเปิดตัวร้านปิ้งย่างด้วยไอเดียธรรมดา โอกาสที่จะแจ้งเกิดและเป็นที่รู้จักในวงกว้างในเวลาอันรวดเร็วจะเป็นไปได้ยาก
การออกแบบเมนู สอดรับกับศาสตร์ความเชื่อ
นอกจากการตกแต่งร้าน เมนูอาหารภายในร้านการนำเสนออาหาร นำศาสตร์ของความเชื่อมาใช้เช่นกัน เมนูเด่นของที่ร้าน ได้แก่ หนุมานคลุกฝุ่น คงกระพันเนื้อย่าง หนุมานถวายแหวน ไหสวรรคพันประการ เป็นต้น ซึ่งบางเมนูเราก็นำชื่อ ลายสักยันต์ มาใช้ตั้งเป็นชื่อเมนูอาหาร นอกจากนี้ ชื่อ คงกระพันเป็นชื่อ ที่มีความเป็นไทย ล้อไปกับลายสักยันต์ คงกระพันชาตรี แต่ยาวไปก็เลยตัดเหลือ คงกระพัน ทำให้จำได้ง่าย เพราะในท้องตลาด ร้านปิ้งย่าง ก็จะมีชื่อเป็นเกาหลี ญี่ปุ่น แต่เราอยากจะใช้ชื่อให้มันเป็นไทย เข้ากันและไปด้วยกันได้ดีกับ เนื้อย่าง ออกมาเป็นคงกระพันเนื้อย่าง
ไอเดียศาสตร์ความเชื่อมาจาก.. ความไม่เชื่อ
“ที่ร้านเราทำเกี่ยวกับความเชื่อ เกิดมาจากผมเป็นคนไม่ค่อยเชื่อในความเชื่อเสียเท่าไหร่ ผมรู้สึกของพวกนี้มัน อยู่รอบๆ ตัวคน ตั้งแต่ตื่นตอนเช้า ตื่นมาก็เป็นความเชื่อไปหมดแล้ว เช่น ต้องทำสิ่งนั้นก่อนออกจากบ้าน ต้องทำแบบนี้ หรือ เคารพอะไรบางอย่าง ก่อนการเริ่มต้นอะไรสักอย่าง เป็นความเชื่อที่อยู่กับทุกคนมานาน และถ้าผมแก่นเล็กๆ ความเชื่อและศรัทธาตรงนี้มาใส่ในไอเดียทำร้านเนื้อย่างของเรา ก็น่าจะทำให้คนหันมาศรัทธาและรัก ร้านเนื้อย่างของผมได้เช่นกัน ซึ่งก็เป็นความเชื่อของผม” พรศักดิ์ กล่าวถึงที่มาของการนำความเชื่อและศรัทธา ไอเดียในการทำร้าน
สำหรับการทำร้าน คงกระพันเนื้อย่างในครั้งนี้ ของ ทั้งสองหนุ่ม เกิดขึ้นมาหลังจากที่สถานการณ์ล็อกดาวน์ประเทศไทยในช่วงโควิด สิ้นสุดลง เพราะเขาได้เริ่มเปิดร้านวันแรก ตอนเดือนพฤษภาคม 2563 ตอนนั้น เป็นช่วงที่นักศึกษาหยุดจากการเรียนออนไลน์ และคนเริ่มออกจากบ้านได้ ทุกคนก็เริ่มมองหาร้านอาหาร และเขาเปิดช่วงนั้น เป็นเหตุผลที่ทำให้ร้านของเขาได้รับการตอบรับดีมาก จากน้องๆ นักศึกษา และคนในละแวกนั้น ด้วยเป็นร้านเปิดใหม่ และมีไอเดียการจัดร้านและเมนูอาหารที่ดึงดูดลูกค้า
โลกโซเชียลบวกไอเดีย ช่วยร้านเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว
ณัฐภาสน์ เล่าว่า ในส่วนเมนูของทางร้าน แม้ว่าจะตั้งชื่อว่าเป็นร้านเนื้อย่าง แต่เราก็มีเมนูหมูเสิร์ฟอยู่ด้วยเช่นกัน เพราะลูกค้าบางคนไม่กินเนื้อ จะได้มากินที่ร้านของเราได้ เราก็เลยต้องมีเมนูหมูเข้ามาเสิร์ฟอยู่ด้วย ซึ่งแต่ละเมนูของร้าน หลักผมจะเป็นคนคิด ถ้าต้องใส่ใจกับการออกแบบแต่ละเมนู เพราะเราไม่ต้องการให้มันออกมาเหมือนกับร้านปิ้งย่างทั่วไป จริงการคิดออกแบบเมนูอาหาร หลักไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก เพียงแค่เติมส่วนผสมบางอย่างที่ร้านอื่น ก็อาจจะไม่มีลงไป ก็เกิดเป็นเมนูใหม่ขึ้นมาได้
ทั้งนี้ ในส่วนการแนะนำร้าน เป็นส่วนสำคัญ โชคดี ที่ร้านเราเปิดตัวด้วยคอนเซ็ปต์ความเชื่อ ศรัทธา ทำให้เรามีลูกเล่น ที่เรานำมาเล่นได้อีกมาก พอเราแนะนำร้านของเราลงในช่องทางโซเชียล มีการแชร์ต่อๆ กัน ทำให้เราเป็นที่รู้จักในวงกว้างภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว และไอเดียคอนเซ็ปต์ของร้านที่ไม่เหมือนใคร นี่เอง ทำให้สื่อทีวีหลายๆ รายการสนใจ นำเรื่องราวของเราไปนำเสนอ และเป็นรู้จักมากขึ้นไปอีก
ตั้งเป้าขยายสาขาในแบบแฟรนไชส์ 100 สาขา
ปัจจุบันมีคนสนใจที่ต้องการจะมาซื้อแฟรนไชส์ ของเราเป็นจำนวนมาก แต่เราก็ต้องเบรกไว้ก่อน เพราะต้องการจะเซ็ทระบบ และราคาให้ลงตัวก่อน แต่ก็ได้มีการขายไปบ้างแล้ว 2 สาขา ที่บางแสน และหนองจอก เป็นคนรู้จัก ที่ต้องการจะทำร้านแบบเราบ้าง เราก็เลยแนะนำไป ก็ยังไม่เป็นระบบแฟรนไชส์ เท่าไหร่ เพราะตอนนั้นเหมือนขายไอเดีย ขายแบรนด์ และสอนสูตรการทำอาหารเท่านั้น ส่วนอื่น ๆ ที่เจ้าของร้านดำเนินการเอง โดยใช้แบรนด์ “คงกระพันเนื้อย่าง” เหมือนกัน โดยเราได้คิดราคาแฟรนไชส์ อยู่ที่ 50,000 บาท แต่ในอนาคตมีแผนที่จะทำแฟรนไชส์ให้เป็นระบบมากกว่านี้ ตอนนี้อยู่ในระหว่างการพัฒนาสูตรซอส และ หาแหล่งซื้อ เนื้อคุณภาพในราคาไม่แพง เพื่อจะได้มาตรฐานเหมือนกันทุกร้าน
นายพรศักดิ์ เล่าถึงแผนการขยายตลาดในรูปแบบของแฟรนไชส์ ว่า การขายแฟรนไชส์ เกิดขึ้นมาตั้งแต่แรกที่เริ่มเปิดร้าน แต่ไม่คิดว่าร้านจะประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้มีคนสนใจอยากที่จะทำร้านคงกระพันเนื้อย่างเหมือนกับเรา เข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังจากเซ็ทระบบหลังบ้าน เตรียมทุกอย่างพร้อม ตั้งเป้าเปิดขายแฟรนไชส์ในปี 2564 นี้ได้เลย ปีแรกตั้งเป้าไว้ ประมาณ 10-20 สาขา แต่แพลนวางไว้ อยากจะขยายให้ได้ ถึง 100 สาขา ในอนาคต
สำหรับยอดขายของทางร้าน ถ้าเป็นช่วงขายดี จะขายได้สูงสุดประมาณ วันละ 15,000 บาท แต่ถ้าเป็นช่วงวันปกติทั่วไปอยู่ที่วันละ 6,000 ถึง 7,000 บาทลูกค้าที่มากิน จะเป็นกลุ่มนักศึกษา และคนทำงาน ส่วนวันหยุด จะได้คนที่กินเป็นครอบครัว ช่วงที่ลูกค้ามากินส่วนใหญ่จะเลือกมากินช่วงมื้อเย็น หรือ ดึก ส่วนการดึงดูดลูกค้า มีการจัดกิจกรรมของทางร้าน ให้เข้ากับตรีมของร้าน เช่น การเสี่ยงเซียมซี โดยการหยิบเซียมซียักษ์ และมีส่วนลดให้คนที่หยิบเสี่ยมซีได้ตรงตามเบอร์ที่เราตั้งไว้ เป็นต้น การจัดกิจกรรมต่างๆ ก็ช่วยดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการซ้ำอีกในครั้งต่อไป แต่สุดท้ายลูกค้าจะกลับมาใช้บริการอีกหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับรสชาติของอาหารเป็นสำคัญ
ติดต่อ FB: คงกระพันเนื้อย่าง
** * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า"SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุดและร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
SMEs manager
