xs
xsm
sm
md
lg

“หยวนดิจิตอล”อาวุธลับดับอิทธิพลบิ๊กเทค จีนฝันหวานฝ่าด่านดอลลาร์ขึ้นสกุลเงินโลก

เผยแพร่:


จีนหวังสกุลเงินดิจิตอลแห่งชาติส่งเสริมหยวนท้าทายอิทธิพลดอลลาร์
จีนฝันลั่นกระสุนนัดเดียวได้นกสามตัว ใช้หยวนดิจิตอลท้าทายอำนาจอเมริกาในระบบการเงินโลก กระชับการควบคุมวิธีใช้จ่ายเงินของประชาชน และสกัดอิทธิพลบิ๊กไฮเทคในประเทศ แต่ฝันนี้จะเป็นจริงได้หรือไม่

หลังจากเตรียมการมานาน ต้นปีนี้จีนเริ่มทดสอบเงินหยวนดิจิตอลครั้งใหญ่ ปัจจุบันมีโครงการริเริ่มใน 4 เมือง มูลค่าธุรกรรมรวมกว่า 2,000 ล้านหยวน (300 ล้านดอลลาร์) ซึ่งถ้าขยายโครงการนี้ทั่วประเทศ จีนจะกลายเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจรายแรกของโลกที่นำเสนอสกุลเงินดิจิตอลแห่งชาติ แซงหน้าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่กำลังปลุกปั้นยูโรดิจิตอลอยู่เช่นเดียวกัน

ปักกิ่งป่าวประกาศว่า หยวนดิจิตอลเป็นสกุลเงินแห่งอนาคตที่จะทำให้การจับจ่ายสะดวกสบายและปลอดภัยขึ้น ทั้งยังเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงบัญชีธนาคารหรือบริการทางการเงินทั่วไปอื่นๆ

แม้เกือบพูดได้เต็มปากว่า จีนใช้ระบบไร้เงินสดโดยสิ้นเชิง แต่ธุรกรรมเหล่านั้นทำผ่านแอปและแพลตฟอร์มของบริษัทเอกชนที่อยู่นอกเหนืออำนาจการสอดส่องของรัฐบาล

แต่ด้วยเงินหยวนดิจิตอล ปักกิ่งจะสามารถเข้าถึงข้อมูลการใช้จ่ายและตำแหน่งแห่งที่ของประชาชนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งตรงข้ามกับเจตจำนงดั้งเดิมของเงินดิจิตอลที่อิงกับระบบบล็อกเชนแบบกระจายศูนย์เพื่อไม่ให้มีบุคคลหรือองค์กรใดมีอำนาจควบคุมระบบ

แฟรงก์ สี ศาสตราจารย์ธุรกิจของมหาวิทยาลัยเซาธ์ แคโรไลนา ไอเคน ชี้ว่า เงินหยวนดิจิตอลจะช่วยให้ปักกิ่งสอดส่องและควบคุมเศรษฐกิจและสังคมแน่นหนาขึ้น

ทางการจีนยังระบุว่า การใช้เงินหยวนดิจิตอลอย่างกว้างขวางอาจช่วยทำลายการผูกขาดของดอลลาร์และทำให้หยวนมีอิทธิพลบนเวทีโลกมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แผนการทั้งหมดนี้ยังมีอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการควบคุมระบบการเงินภายในประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์เองที่อาจขัดขวางเป้าหมายการทำให้หยวนเป็นสกุลเงินโลก

ซีเอ็นเอ็น บิสเนสรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลของแบงก์ชาติจีนว่า การผลักดันโครงการเงินดิจิตอลแห่งชาติเริ่มต้นขึ้นในปี 2014 และใช้เวลา 6 ปีในการวิจัยก่อนเปิดตัวโครงการนำร่องในปีนี้ที่เซินเจิ้น ซูโจว เฉิงตู และซีอาน

เงินหยวนดิจิตอลมีองค์ประกอบบางอย่างของเทคโนโลยีบล็อกเชนเช่นเดียวกับคริปโตสกุลต่างๆ เช่น ธุรกรรมทั้งหมดจะได้รับการบันทึกในบัญชีธุรกรรมดิจิตอลที่สามารถติดตามย้อนกลับได้ และจะใช้แทนเงินสด

แต่ที่มากกว่านั้นคือ ความสามารถในการติดตามย้อนกลับได้อย่างง่ายดายจะช่วยให้จีนจัดการปริมาณเงินอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งยังตอบสนองความต้องการของปักกิ่งในการจำกัดอิทธิพลที่เพิ่มพูนของบริษัทไฮเทคเอกชนและบริการชำระเงินระบบดิจิตอลของบริษัทเหล่านั้น อาทิ อาลีเพย์ของแอนต์ กรุ๊ป และวีแชต เพย์ของเทนเซ็นต์

ตัวอย่างเช่น ในปี 2013 อาลีเพย์เปิดตัวกองทุนตลาดเงิน “หยูเอ๋อ เป่า” ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจนกระทั่งผู้คุมกฎต้องเข้าไปแทรกแซงและบังคับให้ลดขนาดลง เพราะกลัวว่า ถ้ากองทุนใหญ่ขนาดนี้ล่มไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม เศรษฐกิจจีนจะพลอยวุ่นไปด้วย

ตัวอย่างล่าสุดคือเมื่อเดือนที่แล้วที่รัฐบาลจีนเบรกการทำไอพีโอในตลาดเซี่ยงไฮ้และฮ่องกงของแอนต์ กรุ๊ปที่เป็นที่ตั้งตารอคอยของนักลงทุนในนาทีสุดท้าย

เจมส์ กิลลิงแฮม ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งฟิงซ์โฟล บริษัทโบรกเกอร์คริปโตในสิงคโปร์ ชี้ว่า การตัดสินใจดังกล่าวยืนยันว่า ไม่มีนิติบุคคลรายใดได้รับอนุญาตให้มีอำนาจควบคุมตลาดมากเกินไปโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้ร่วมมือกับรัฐบาลจีน

กิลลิงแฮมเสริมว่า ปักกิ่งยังกังวลเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายเงินออกนอกประเทศ โดยพรรคคอมมิวนิสต์เชื่อมานานแล้วว่า การควบคุมระบบเศรษฐกิจ การเงิน และสังคมอยู่หมัดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการคงการควบคุมเสถียรภาพและการเมือง และให้เครดิตนโยบายเหล่านี้สำหรับความสำเร็จในการปกป้องประเทศจากวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ในเอเชียและทั่วโลกหลายครั้งที่ผ่านมา

เขาสำทับว่า การออกเงินหยวนดิจิตอลจะทำให้ปักกิ่งควบคุมเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ด้าน สี ศาสตราจารย์ธุรกิจของมหาวิทยาลัยเซาธ์ แคโรไลนา มองว่า หยวนดิจิตอลเป็นหมากตัวสุดท้ายในระบบสอดแนมของพญามังกรเพื่อรวบรวมข้อมูลมากมายมหาศาลของพลเมือง เพิ่มเติมจากเทคโนโลยีต่างๆ เช่น การตรวจจับใบหน้าและกล้องวงจรปิด

แบงก์ชาติจีนระบุว่า หยวนดิจิตอลมีคุณลักษณะ “การไม่เปิดเผยตัวตนแบบควบคุมได้” หรืออีกนัยหนึ่งคือ แม้ผู้ทำธุรกรรมแต่ละฝ่ายไม่สามารถล่วงรู้ตัวตนของกันและกัน หรือไม่เป็นที่ล่วงรู้ของสาธารณชน แต่แบงก์ชาติจีนยังสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคนหรือองค์กรเหล่านั้นได้อยู่ดี

แอนดรูว์ ทิลตัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำเอเชียของโกลด์แมน แซคส์ ระบุในรายงานการวิจัยที่เผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ว่า คุณลักษณะสำคัญของหยวนดิจิตอลคือ ธนาคารกลางจีนสามารถติดตามการใช้จ่ายได้โดยตรง

ทว่า ไม่ได้มีแค่หยวนดิจิตอลเท่านั้น ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยอมรับว่า โครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนยูโรดิจิตอลควรถูกควบคุม ตัวเลือกหนึ่งคือ การบันทึกการทำธุรกรรมทั้งหมดในบัญชีธุรกรรมดิจิตอลของอีซีบี อย่างไรก็ตาม คริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบี ยืนยันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ไม่ต้องการให้ยุโรปเคลื่อนไหวเร็วเกินไป และย้ำว่า การปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญ

การสร้างเงินหยวนดิจิตอลยังช่วยให้จีนขจัดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากสถานการณ์ตึงเครียดกับอเมริกา

แอนโทนี ชาน หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนประจำเอเชียของยูบีพีซึ่งเป็นธนาคารสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ยกตัวอย่างว่าถ้าอเมริกาห้ามแบงก์จีนใช้สวิฟต์ หรือบริการรับส่งข้อความเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายเงินในระบบการธนาคารทั่วโลก บุคคลและบริษัทจีนสามารถใช้หยวนดิจิตอลในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนแทน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า เป้าหมายสูงส่งที่สุดของปักกิ่งคงไม่เกิดขึ้นง่ายๆ เพราะเงินหยวนตอนนี้คิดเป็นเพียงกว่า 4% ของการทำธุรกรรมระหว่างประเทศเท่านั้น ขณะที่สัดส่วนของดอลลาร์สูงถึง 88%

สก็อตต์ เคนเนดี้ ที่ปรึกษาอาวุโสของศูนย์เพื่อการศึกษากลยุทธ์และการระหว่างประเทศ ย้ำว่า คงอีกนานกว่าที่จีนจะทำให้เงินหยวนได้รับการยอมรับทั่วโลกได้

นอกจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า ผู้บริโภคจีนเองจะยอมรับหยวนดิจิตอลตั้งแต่แรก

ศูนย์ข้อมูลเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจีนคาดว่า ประชาชนกว่า 800 ล้านคนในจีน หรือ 86% ของผู้ใช้เน็ตผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ใช้บริการการชำระเงินบนมือถือ เช่น บริการของอาลีเพย์และวีแชต เพย์ ซึ่งแม้ไม่มีการรับประกันจากแบงก์ชาติ แต่สะดวกสบายพอกับเงินหยวนดิจิตอล

สีสำทับว่า การขาดความเป็นส่วนตัวในการทำธุรกรรมอาจทำให้คนจีนลังเลที่จะใช้เงินดิจิตอลแห่งชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำธุรกรรมขนาดใหญ่หรือการซื้อสินทรัพย์หากต้องการย้ายไปอยู่ประเทศอื่น
กำลังโหลดความคิดเห็น