xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) ALLY กระเป๋าแบรนด์ไทยราคาหลักแสน ผลงานนิสิตรั้ว DPU โด่งดังในจีน ขนาดก็อปวางขายทั่วจีนและไทย

เผยแพร่:





ปัจจุบัน กระเป๋าหนังจากดีไซน์แบรนด์ไทยหลายแบรนด์ ได้รับการยอมรับจากทั้งลูกค้าคนไทย และลูกค้าต่างประเทศ วันนี้ เรากำลังพูดถึง ความสำเร็จของกระเป๋าหนังจากดีไซน์เนอร์แบรนด์ไทย ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าคนจีน ขนาดมีการก็อปขายกันเกลื่อน ทั้งในประเทศจีนและ ส่งกลับมาขายที่ประเทศไทย กระเป๋าหนังแบรนด์ไทยที่กล่าวถึงในครั้งนี้ หลายคนรู้จักเขาในชื่อว่า ALLY BAG

 ภาณุพัฒน์ แสวงหอม” หรือ  “เอ” เจ้าของแบรนด์ ALLY
กระเป๋าแบรนด์ไทย ไม่ได้มาจากดีไซน์เนอร์ชื่อดังประสบความสำเร็จได้

สำหรับกระเป๋าหนังแบรนด์ ALLY ไม่ได้เป็นกระเป๋าหนังจากดีไซน์เนอร์ชื่อดังจากที่ไหน แต่เป็นผลงานการออกแบบ และตัดเย็บของ อดีตนักศึกษาจากรั้วมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ชื่อว่า “ภาณุพัฒน์ แสวงหอม” “เอ” ซึ่งเขาได้สร้างแบรนด์ ALLY BAG ตั้งแต่เรียนในระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต และประสบความสำเร็จมีคนกล่าวถึง แบรนด์ALLY ตั้งแต่ปีแรกที่เขาได้เริ่มทำตลาด จากการที่ได้เห็นดาราชื่อดัง หลายๆ คนถือ เช่น “พลอย เฌอมาลย์” หรือแม้แต่ จ้าวแม่แฟชั่น อย่าง “ม้า อรนภา” ยังไม่นับรวม ดาราซุปเปอร์สตาร์ อย่าง “อั้ม พัขราภา” เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 7-8 ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เป็นทราบกันดีว่า ในช่วงนั้นโลกโซเชียล ยังไม่ได้เข้ามามีบทบาท ต่อการดำเนินชีวิตของคนไทยมากนัก อินสตาแกรม หรือ แม้แต่เฟสบุ๊ก หรือ ไลน์ ก็ยังไม่ได้รับความนิยมมาก การโพสต์ของเหล่าดารา หรือ เซเลบริตี้ ผ่านอินสตราแกรมก็ยังไม่มี ทำให้การที่แฟนคลับจะได้เห็นดาราที่เขาชื่นชอบ แค่ผ่านนิตยสาร หรือ สื่อทีวี เป็นส่วนใหญ่ และเหล่าดาราชื่อดังทั้งหลาย เวลาถือกระเป๋าสักใบก็จะเป็นแบรนด์ดังระดับโลก โอกาสที่จะมาถือกระเป๋าจากดีไซน์เนอร์คนไทยเป็นไปได้ยาก แต่ครั้งนั้น เหล่าซุปเปอร์สตาร์ ยอมถือกระเป๋าแบรนด์ ALLY BAG ดีไซน์เนอร์คนไทยที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงการ ซึ่งแบรนด์นี้จะต้องไม่ธรรมดาในสายตาของผู้พบเห็นในเวลานั้น


กระเป๋าแบรนด์ไทย ที่ถูกก็อปมากที่สุดแบรนด์หนึ่ง

หลังจากที่หลายคนสะดุดตากับความน่ารักของกระเป๋า ที่ไม่เหมือนใคร ที่เหล่าดาราชื่อดังถือ จึงเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ยอดขายแบรนด์ ALLY BAG ก็ปังไม่หยุดมาจนถึงวันนี้ ผ่านมาเกือบ 9 ปี ดังขนาดต่างประเทศ และห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ยังต้องก็อป รูปแบบกระเป๋าทรงกลม รูปนกเพนกวิน วางขายในห้างสรรพสินค้า แต่การก็อปของคนไทยด้วยกัน ไม่ได้น่ากลัวอะไร สำหรับเจ้าของแบรนด์ “ภาณุพัฒน์” เป็นเรื่องน่ารักดี เพราะขายราคาใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่ทำให้ “เอ” กังวลมากที่สุด ไม่ใช่การก็อปของคนไทยแต่เป็นการที่เขาโดนตลาดจีนก็อป เพราะด้วยราคาแตกต่างกันมาก แต่ก็อปออกมาได้เกือบ 100% ส่งมาขายเต็มประตูน้ำ และ ที่เชียงใหม่ ทำให้เขาสะดุดไปพักหนึ่ง และกังวลมากๆ กับทิศทางการทำตลาดต่อจากนั้นเป็นต้นมา

แต่สุดท้าย หนุ่มในวัยเพียง 20 ปีต้นๆ ตอนนั้นเรียนชั้นปีที่ 4 เขาก็ต้องผ่านไปให้ได้ “เอ” บอกว่า “ครั้งนั้น เป็นเรื่องที่แย่ที่สุดสำหรับคนตั้งใจทำงานอย่างเรา แต่เรื่องที่แย่และกังวลที่สุดในตอนนั้น ก็มีเรื่องดีๆเข้ามา ส่วนหนึ่ง คือ การได้กำลังใจจากคนรอบข้าง ทำให้เราสู้และเดินต่อมาได้จนถึงทุกวันนี้ โดยการมองเรื่องแย่ด้านลบให้เป็นเรื่องดีๆ และเป็นบวก เพราะเรื่องแย่ในครั้งนั้นเป็นแรงผลักดันให้เราต้องพัฒนาสินค้าของเราให้ดีมากขึ้น จนสินค้าก็อปก็ไม่สามารถทำได้ดีเท่ากับของแท้ พร้อมกับการมีใบรับรอง หรือ ใบเซอร์ (Certificated) ที่ออกให้กับลูกค้า และบวกกับการทำตลาดแบบเข้าถึงลูกค้า แบบเสิร์ฟกระเป๋ากันถึงที่ด้วยตัวเอง


“อย่างไรก็ตาม คุณภาพสิ่งสำคัญที่ใครก็ไม่สามารถก็อปออกมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการตัดเย็บที่เราใส่ใจทุกขั้นตอน หรือ วัสดุที่เลือกนำมาประกอบกระเป๋า แต่ละชิ้นเลือกสิ่งที่ดีที่สุด และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกดีได้ มาจากกำลังใจ ของ “พี่แอน ทองประสม” หนึ่งในดาราชื่อดังที่เคยถือกระเป๋าของเรา ที่บอกกับเรา ว่า การที่สินค้าของเราถูกก็อป เพราะของเราผ่านไปถึงขั้นที่มีคนก็อป เราต้องภูมิใจมากกว่าที่จะรู้สึกไม่ดี แสดงว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว เขาถึงเลือกที่จะก็อปสินค้าของเราออกมาขาย”

ส่วนการทำตลาดในประเทศจีน เริ่มมาจากในช่วงที่เริ่มเปิดตัว สินค้าของเราได้รับความนิยมในประเทศไทย และมีเหล่าดารา เซเลบริตี้ ถือกันเยอะ ตัวแทนจากประเทศจีน สนใจมีการสั่งซื้อสินค้าของเราเข้าไปจำหน่าย ไม่เฉพาะประเทศจีน ประเทศอื่น ไต้หวัน ญี่ปุ่น และอเมริกา หรือประเทศเพื่อนบ้าน ลาว และกัมพูชา แต่หลักคือส่งออกไปจีน เดือนหนึ่งหลักล้านบาท มีตัวแทนจำหน่ายหลายราย แต่พอเจอปัญหาก็อปปี้ การสั่งซื้อสินค้าจากจีนลดลง เราลดตัวแทนจำหน่ายลงเหลือหลักเพียง 2รายเท่านั้น ที่ยังทำตลาดในจีนให้กับเรา




จุดเริ่มต้นALLY BAG มาจากเด็กหนุ่มชอบการออกแบบ วัยเพียง 20 ปี

สำหรับจุดเริ่มต้นของ “ภาณุพันธ์” หรือ “เอ” ในการสร้างแบรนด์ ALLY นั้น เริ่มต้นมาจาก เขาชื่นชอบการคิดออกแบบมาตั้งแต่เด็ก และทุกครั้งที่โรงเรียนจัดการประกวดด้านการออกแบบ เขาไม่พลาดที่จะเข้าไปประกวด และได้คว้ารางวัลเยาวชนในระดับประเทศมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการประกวด การออกแบบกล่องนมหนองโพ เป็นต้น ผ่านการประกวดมานับครั้งไม่ถ้วน จนมาถึงการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย เป้าหมายหนึ่ง ของ เอ ภาณุพันธ์ คนนี้ คือ การเลือกมหาวิทยาลัย ที่ช่วยให้เขาโดดเด่น ด้านการประกวด แบบไร้คู่แข่ง

ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจเรียนที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ซึ่งตอนนั้นมี มหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่งที่เขาสามารถเลือกเข้าไปเรียนได้ แต่เป้าหมายของเขาชัดเจน คือ การต้องโดดเด่น เรื่องงานประกวดการออกแบบ ทำให้เขาคิดว่าการเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังเหล่านั้น ทำให้เขาต้องไปเจอคู่แข่งที่เป็นตัวท็อปเยอะ การที่เขาจะขึ้นเป็นตัวท็อปในการประกวดก็จะยากขึ้น ดังนั้น เขาจึงเลือกมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต

“ภาณุพันธ์” บอกว่า ที่เขาเลือกมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ในครั้งนี้ มองว่า เป็นมหาวิทยาลัยระดับกลางๆ คู่แข่งในสายประกวดน่าจะไม่มาก โอกาสที่เราจะขึ้นเป็นตัวท็อปในสายประกวดก็มากขึ้น แต่พอเลือกมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต สิ่งที่เราได้ คือ ไม่ใช่แค่แนวคิดในการออกแบบ แต่สิ่งที่ได้มากกว่านั้น คือ การได้รู้จักการทำธุรกิจ เพราะงานออกแบบที่ดี ไม่ได้ตอบโจทย์ในเรื่องของธุรกิจเสียทั้งหมด ทางมหาวิทยาลัยเขาไม่ได้ให้ออกแบบผลิตภัณฑ์อย่างเดียวแล้วจบ แต่เราจะนำผลิตภัณฑ์นั้นออกไปสำรวจความต้องการของตลาดด้วยว่า ผลิตภัณฑ์ที่เราออกแบบตรงใจกับความต้องการของผู้บริโภคหรือไม่ ทั้งหมดเป็นเหตุผลที่เราคิดไม่ผิดที่เลือกเรียนที่นี่ และเป็นเหตุผลที่ทำให้เราสามารถสร้างแบรนด์กระเป๋า และเป็นเจ้าของแบรนด์ ALLY BAG ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ




จุดขายของ ALLY แปลกใหม่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

ทั้งนี้ จุดเริ่มต้น เริ่มมาจากการ “เอ” ได้เรียนในวิชาที่ชื่นชอบ พอเราได้เรียนในสิ่งที่ชื่นชอบ ทำให้ได้ทำในสิ่งที่เราชอบ นั้นคือ งานออกแบบ และที่เลือกออกแบบกระเป๋า เพราะส่วนตัวชื่นชอบกระเป๋าอยู่แล้ว และกระเป๋าสิ่งที่ทำและขายได้ง่ายกว่างานแฟชั่น อย่างเสื้อผ้า หรือ รองเท้า โดยสิ่งแรกที่ “เอ” คิด ในการสร้างแบรนด์กระเป๋าของเรา คือ ต้องแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แตกต่างจากในท้องตลาด และมาจบลงที่ตัวนกเพนกวิน เพราะชอบนกเพนกวิน แต่ไม่เคยเห็นนกเพนกวินตัวจริงเป็นอย่างไร จนวันหนึ่งได้ไปเจอ ร้านกาแฟร้านหนึ่งในประเทศลาว มีของที่ระลึกนกเพนกวินขาย ก็ซื้อมา ชื่นชมนกเพนกวินตัวนั้นอยู่นาน และคิดว่าจะออกแบบกระเป๋าเป็นรูปนกเพนกวิน เป็นกระเป๋าทรงกลม เพราะในช่วงนั้นกระเป๋าทรงกลมมีในตลาดน้อยมาก

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญงานออกแบบเพื่อขาย ไม่ได้แค่เห็นว่า แปลกใหม่ น่ารักอย่างที่เราชอบเท่านั้น แต่กระเป๋าใบนั้นจะต้องใช้งานได้จริง ส่วนที่มาของแบรนด์ ตอนเรียนอาจารย์สอนว่า การสร้างแบรนด์สิ่งสำคัญ คือ ชื่อ จะต้องจำง่าย ตอนนั้นคิดไว้หลายชื่อมีชื่อเยอะมาก แต่สุดท้ายคิดว่า ชื่อสั้น จดจำง่ายและเป็นตัวตนของเรามากที่สุด คือ เอลี่ ALLY และ ชื่อในเฟสบุ๊กของเราใช้ชื่อว่าเอลี่อยู่แล้ว ก็เลยมาลงตัวที่ชื่อ ALLY BAG ชื่อสั้นๆ จดจำง่าย และเป็นตัวตนของเราที่สุด

สำหรับกระเป๋าที่ทำออกมาจำหน่ายในครั้งนั้น เลือกที่จะตอบโจทย์ ลูกค้าทุกวัย และประโยชน์ใช้สอยครบ เพราะมีกระเป๋าให้เลือกตั้งแต่ใบเล็กสุด กระเป๋าสตางค์เล็ก ไปจนถึงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ส่วนกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราเป็นระดับตลาดบน เพราะด้วยงานออกแบบ การตัดเย็บที่เลือกใช้ของคุณภาพดี หนังที่ใช้หลักจะเป็นหนังวัวและหนังแกะ การประดับตกแต่งอะไรเข้าไป ก็ให้ความสำคัญตามหลักของศาสตร์ความเชื่อ




การขายกระเป๋าราคาหลักหมื่น หลักแสน งานบริการมาก่อน

ส่วนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 25,000 บาท ไปจนถึงแพงสุด 2 แสนกว่าบาท และการที่ทำราคาค่อนข้างสูง มาตั้งแต่แรก การให้บริการเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งบริการก่อนและหลังการขาย เราจะนำกระเป๋าไปส่งลูกค้าด้วยตัวเอง ถ้ามีเวลาพอ จุดเริ่มที่เลือกที่จะไปส่งลูกค้าด้วยตัวเอง เพราะส่วนหนึ่ง คือ เราไม่มีหน้าร้าน เดิมเคยเปิดหน้าร้านจตุจักร เปิดได้เฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ ทำให้ช่วงที่ร้านไม่เปิดมีเวลา และเดินทางไปส่งลูกค้าด้วยตัวเองด้วยการแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ และเอกลักษณ์ที่แสดงความเป็นตัวตนว่า เป็นเอ ของจริง คือ ต้องใส่หมวกมิกกี้เม้าท์ เป็นจุดขายอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เรามีลูกค้าประจำอยู่ค่อนข้างเยอะ หลายคนก็ชื่นชอบในความเป็นตัวตนของเรา และเลยกลายมาเป็นลูกค้าประจำกัน

“ การให้บริการถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับราคาสินค้าระดับนี้ ซึ่ง“ภาณุพันธ์” บอกกับเราว่า เขาให้ความสำคัญกับการให้บริการค่อนข้างมาก ลูกค้าของเราทุกคน ให้บริการเท่าเทียมกันหมด ไม่ว่ากระเป๋าใบนั้นจะราคาเท่าไหร่ ทุกคนเราต้องให้ความสำคัญเท่ากันหมด เราจะต้องไม่เลือกปฏิบัติ และธุรกิจจะไปได้ยาว เพราะทุกวันนี้ในโลกโซเชียล ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปมากเราก็จะต้องตามให้ทัน จากเดิมไม่ได้ให้ความสำคัญกับโซเชียล แต่พอเข้ามาเราจะไม่ให้ความสำคัญและมองข้ามไม่ได้ ปัจจุบันต้องยอมรับว่า ลูกค้าใหม่ของเอ ส่วนหนึ่งมาจากโซเชียล แต่หลักก็ยังคงเป็นการบอกกันแบบปากต่อปากมากกว่า”


ที่ผ่านมา ลูกค้าใหม่ทักเข้ามาซื้อทางออนไลน์ บอกว่า ทำไมแพงจัง แต่เราก็จะบอกลูกค้าเสมอว่า ลูกค้าต้องมาได้เห็นและสัมผัส กระเป๋าของเราก่อน เราเชื่อว่า ถ้าลูกค้าได้เห็นกระเป๋าของเรา เขาจะไม่บอกว่ากระเป๋าของเราแพง ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อกระเป๋าของเรา เขาจะบอกว่า ชอบงานออกแบบ ชอบในคุณภาพของกระเป๋า และลูกค้ากลุ่มหนึ่ง เขาหนีงานกระเป๋าแบรนด์เนมแพงๆ และหันมาซื้อของเรา เพราะมั่นใจว่า เวลาถือไปไหนก็จะไม่ไปซ้ำหรือไปชนกับใครแน่นอน เพราะเราจะทำออกแบบแบบเดียว ใบเดียว เป็นงานเทดเลอร์แฮนด์เมด

“เราอย่าไปมองแค่ตัวเงินเป็นที่ตั้ง เราจะทำทุกอย่างเป้าหมาย คือ เงิน ซึ่งทำให้เราสะดุดกลางทางไปไม่ถึงเป้าหมาย งานออกมาไม่ดีเท่าที่ควร แต่ถ้าเรามองเป้าหมายความสุขที่มอบให้กับคนที่รับ คือ ลูกค้า เรามีความสุขในการทำ ลูกค้ามีความสุขเมื่อได้รับของ ความสำเร็จก็จะมาเอง หลายคนกังวล การทำแบรนด์ไทยให้คนยอมรับเป็นสิ่งที่ยาก โดยส่วนตัวว่ามันยาก แต่ถ้าเราของคุณภาพ ไม่ต้องกังวล ก่อนทำเราอาจจะต้องศึกษาคู่แข่งในตลาดได้ แต่เราอย่าไปโฟกัส กับคู่แข่งมากนัก เราทำของๆ เราให้ดีก่อน เราแข่งกับตัวเองและให้ลูกค้าเป็นคนกระจายและบอกต่อสินค้าของเราดีกว่า” ภาณพันธ์ กล่าวในที่สุด



ติดต่อ โทร.08-9151-9419 IG : ally_bag






* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
กำลังโหลดความคิดเห็น