xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” ลงนาม “อาร์เซ็ป” ความตกลงการค้าเสรีใหญ่ที่สุดในโลก หลังใช้เวลาเจรจาเกือบ 8 ปี

เผยแพร่:



“จุรินทร์” ลงนามความตกลง “อาร์เซ็ป” ผ่านทางไกล มีผู้นำร่วมเป็นสักขีพยาน เผยเป็นการประกาศความสำเร็จการทำเอฟทีเอขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หลังใช้เวลาเกือบ 8 ปี คาดจะส่งเสริมการค้าการลงทุน ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ระบุความตกลงจะบังคับใช้ เมื่ออาเซียน 6 ประเทศ และคู่เจรจา 3 ประเทศให้สัตยาบัน ยันเปิดทางให้อินเดียกลับเข้าร่วมวงได้ตลอดในฐานะผู้ก่อตั้ง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรืออาร์เซ็ป ครั้งที่ 4 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ซึ่งเวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2563 ว่าการประชุมครั้งนี้ถือเป็นการประกาศความสำเร็จของการเจรจาความตกลงอาร์เซ็ป หลังจากความพยายามทุ่มเทเกือบ 8 ปี โดยผู้นำอาร์เซ็ปได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงอาร์เซ็ป แสดงถึงความมุ่งมั่นของสมาชิกที่จะสนับสนุนการค้าและการลงทุนที่เปิดกว้าง ครอบคลุม เป็นไปตามกฎกติกาของโลก เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ให้กับประชาชน และสร้างความแข็งแรงให้กับห่วงโซ่การผลิตในภูมิภาค โดยความตกลงอาร์เซ็ปจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ผ่านกระบวนการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดที่เข้มข้น และทำให้ทุกประเทศในภูมิภาคเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ เพื่อให้ความตกลงมีผลใช้บังคับและสามารถใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ผู้นำอาร์เซ็ปได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เร่งกระบวนการภายในสำหรับการให้สัตยาบันความตกลง เพื่อให้ความตกลงมีผลใช้บังคับโดยเร็ว ซึ่งความตกลงจะมีผลใช้บังคับเมื่อสมาชิกอาเซียน 6 ประเทศ และประเทศคู่เจรจา 3 ประเทศให้สัตยาบันความตกลง ในขณะเดียวกัน สมาชิกอาร์เซ็ปยังคงเปิดโอกาสให้อินเดียกลับมาเข้าร่วมความตกลงในฐานะที่เป็นสมาชิกดั้งเดิม และมีบทบาทสำคัญในการเจรจาอาร์เซ็ปตั้งแต่ปี 2555

สำหรับความตกลงอาร์เซ็ปเป็นความตกลงการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ ที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดที่ริเริ่มโดยอาเซียน ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความเป็นแกนกลางของอาเซียนในเวทีระดับภูมิภาค และสร้างความเข้มแข็งให้แก่ความร่วมมือของอาเซียนกับหุ้นส่วนของภูมิภาค โดยประกอบด้วย 20 บท ถือเป็นความตกลงที่ทันสมัย ครอบคลุม คุณภาพสูง และได้รับผลประโยชน์ร่วมกันจากการเปิดเสรีการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน อีกทั้งมีการเพิ่มความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้นจากเอฟทีเอของอาเซียนกับคู่เจรจาที่มีอยู่ก่อนหน้า เช่น พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ทรัพย์สินทางปัญญา การแข่งขันทางการค้า ตลอดจนมีเรื่องใหม่ๆ อาทิ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ ซึ่งจะสร้างโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ให้กับธุรกิจในภูมิภาคได้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ

ข้อมูลทางการค้าในปี 2562 ความตกลงอาร์เซ็ปครอบคลุมตลาดที่มีประชากรรวมกัน 2.2 พันล้านคน หรือเกือบ 30% ของประชากรโลก มี GDP รวมกันกว่า 26.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 817.7 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 30% ของ GDP โลก และมีมูลค่าการค้ารวมกว่า 10.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 326 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 28% ของมูลค่าการค้าโลก
กำลังโหลดความคิดเห็น