xs
xsm
sm
md
lg

จากลูกจ้างแรงงานขั้นต่ำ สู่นักธุรกิจสาวไฟแรง “มาดาม ดา” สร้างแบรนด์เครื่องสำอางส่งออกทั่วโลก ด้วยยอดขาย 1 ล้านชิ้นต่อเดือน มูลค่า 600 ล้านบาทต่อปี

เผยแพร่:





นักธุรกิจสาวชาวกัมพูชาที่เติบโตมาจากการเป็นลูกจ้างแรงงานขั้นต่ำที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยสู่การเป็นนักธุรกิจสาวไฟแรง สร้างผลิตภัณฑ์สินค้าความงามและเครื่องสำอางแบรนด์ “มาดาม ดา” จนกลายเป็นที่รู้จักอย่างมากในโลกออนไลน์ โดยเริ่มจากการไลฟ์สดขายจากกำไรไม่กี่บาทสู่การเป็นเศรษฐีนีในเวลาเพียงไม่กี่ปี ปัจจุบันสามารถสร้างยอดขายทั่วโลกกว่า 1 ล้านชิ้นต่อเดือน และรายได้รวม 600 ล้านบาทต่อปี

นางสาวโสลีดา เซียน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาดาม ดา (ไทยแลนด์) จำกัด เจ้าของและผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ มาดามดา
นางสาวโสลีดา เซียน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาดาม ดา (ไทยแลนด์) จำกัด เจ้าของและผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ มาดาม ดา เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์ที่กว่าจะเกิดเป็นแบรนด์ มาดาม ดา นั้นเริ่มต้นจากการที่ธุรกิจส่วนตัวที่ประเทศกัมพูชาล้มละลาย จากนั้นตนจึงตัดสินใจเข้ามาทำงานที่ประเทศไทยซึ่งงานที่ตนทำมีหลากหลายรูปแบบด้วยค่าแรงขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด แต่ถึงกระนั้นการที่ตนเข้ามาทำงานในประเทศไทยนั้น ตนมีความคิดที่จะสร้างตัวและสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ตนเริ่มจากการนำเอาสินค้าในร้านสะดวกซื้อมาไลฟ์สดขายและให้ลูกค้าสั่งซื้อ โดยมีลูกค้าชมการไลฟ์สดประมาณ 3-5 คน ได้กำไรร้อยกว่าบาทในเวลา 1 ชั่วโมง ต่างจากการทำงานทั้งวันแต่รายได้ 300 กว่าบาท เมื่อมีลูกค้าสนใจและสั่งซื้อจริง ตนจึงเกิดแนวคิดที่ว่าการไลฟ์สดขายของเป็นสิ่งที่สร้างกำไรและได้เงินมากกว่าเป็นลูกจ้าง หลังจากนั้นจึงตัดสินใจที่จะสร้างธุรกิจขายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผิวกาย รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ


ทั้งนี้ ด้วยจุดเริ่มต้นที่เริ่มจากติดลบ เจ้าของแบรนด์ให้ข้อมูลว่ากว่าจะประสบผลสำเร็จได้นั้น ตนถูกหลอกมามากมายไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิตสินค้าที่ไม่ทำตามสัญญาที่ตั้งไว้ นำสินค้าของตนไปขายในขณะที่ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง ซึ่งตนนั้นดิ้นรนต่อสู้กับโรงงานเหล่านี้อยู่ประมาณ 5-6 โรงงาน หลังจากนั้นจึงได้ทำการค้นหาข้อมูลและศึกษาอย่างรอบคอบเพื่อหาแหล่งผลิตสินค้าที่ไว้ใจได้และได้มาตรฐาน จนไปเจอกับ บริษัท รีโว่เมด ประเทศไทย จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตสินค้าที่หลายคนทราบกันดี เนื่องจากได้มาตรฐานความปลอดภัยและมาตรฐานอื่นๆ มากมาย ตนจึงตัดสินใจขอเข้าเจรจาเพื่อร่วมลงทุนในการผลิตสินค้าให้แก่ตน

นางสาววาสนา อินทะแสง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท รีโว่เมด ประเทศไทย จำกัด
นอกจากนี้หลังจากเจรจาร่วมลงทุนธุรกิจกับ บริษัท รีโว่เมด ประเทศไทย แล้วนั้น ด้านนางสาววาสนา อินทะแสง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท รีโว่เมด ประเทศไทย จำกัด เผยว่าตนรู้สึกยินดีที่ได้ร่วมและเป็นพันธมิตรกับ มาดาม ดา เนื่องจากจากวันที่ มาดาม ดา เข้ามาขอเจรจาธุรกิจด้วยนั้น ทำให้ซาบซึ้งใจในการพูดคุยและสัมผัสได้ถึงความตั้งใจในการทำธุรกิจ โดยทางรีโว่เมดเองได้ร่วมคิดค้นสูตรและรับหน้าที่เป็นผู้ผลิตให้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่กำลังผลิตและที่กำลังวางแผนผลิตในอนาคตอันใกล้ สำหรับ รีโว่เมด เองเป็นบริษัทที่ทำหน้าที่ให้บริการแบบ One Stop Solution อยู่แล้วซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ รับจ้างผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามสำหรับแบรนด์ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศพร้อมทั้งช่วยเหลือและให้คำปรึกษาในการค้าธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบผลสำเร็จของลูกค้าแบบครบวงจร โดยเริ่มตั้งแต่การคิดคอนเซ็ปต์สินค้า การออกแบบ การผลิต การปล่อยสินค้าออกสู่ตลาดและสนับสนุนหลังการขายซึ่ง มาดาม ดา ก็เป็น 1 ในกลุ่มลูกค้าที่ รีโว่เมด ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีเสมอมา ปัจจุบันมีทั้งหมด 2 โรงงานในพื้นที่บางบัวทอง และได้วางแผนขยายโรงงานเพิ่มในอนาคตอีกด้วย


ปัจจุบันแบรนด์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อาหารเสริม มาดาม ดา มีสินค้าทั้งหมดกว่า 50 รายการและสินค้า 3 อันดับที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ ดา คอลล่าซี บอดี้โลชั่น และเซรั่ม และกลยุทธ์ในการทำการตลาดของ มาดาม ดา นั้น ในกลุ่มนักธุรกิจแบรนด์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะนิยมโปรโมทสินค้าตนเองผ่านช่องทางการโฆษณาในแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายในโลกออนไลน์ แต่ มาดาม ดา กลับคิดต่างใช้วิธีไลฟ์สดเพียงอย่างเดียวในการกระจายสินค้าและโปรโมทสินค้าของตนเอง ในการไลฟ์สด 1 ครั้งสามารถมีผู้ชมและผู้ติดตามกว่า 30,000 ราย อย่างที่ทราบกันดีว่าในยุคปัจจุบันเครื่องมือสื่อสารและโลกโซเชียลสามารถเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของคนเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นการโปรโมทสินค้าในช่องทางเหล่านี้จึงดึงดูดลูกค้าได้เป็นจำนวนมากบวกกับราคาของสินค้าเริ่มต้นที่หลักร้อย ลูกค้าจึงสามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีกำลังซื้ออย่างแน่นอน


ทั้งนี้เดิมที มาดาม ดา ตีตลาดในประเทศกัมพูชาและต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ในประเทศไทยเพิ่งเริ่มต้นเข้ามาได้ประมาณ 2-3 เดือน หรือในช่วงโควิดที่ผ่านมา และนี่เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลายธุรกิจจำเป็นต้องปิดตัวลงเนื่องจากขาดทุนและไม่มีลูกค้า ทำให้ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ แต่ มาดาม ดา กลับสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อสินค้า เพราะว่าสินค้าทุกประเภทได้ถูกสต็อกเอาไว้ในแต่ละประเทศที่ส่งออก

นอกจากนี้ มาดาม ดา ยังได้มีการเปิดสอนเทคนิคการขาย ให้กับผู้ที่สนใจจะเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย โดยจะเป็นการให้ข้อมูลและเทคนิคต่างๆ ในการขายและดึงดูดลูกค้าโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนคุณสมบัติของผู้ที่สนใจเข้าร่วมนั้นเพียงแค่มีความขยันและต้องการสร้างตัวตนให้เป็นผู้ขายที่ดี ไม่จำกัดเพศ อายุ หรือการศึกษาเพราะตัว มาดาม ดา เองก็เริ่มจากจุดที่ติดลบ ตนจึงต้องการมอบโอกาสเหล่านี้ให้แก่กลุ่มคนที่ต้องการพัฒนาตัวเองให้ไปในทางที่ดีขึ้นและเติบโตได้ในที่สุด ปัจจุบันมีผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 5,000 รายสำเร็จไปแล้วกว่า 2,000 ราย และตัวแทนทั่วโลกกว่า 50,000 ราย


ในปีที่ผ่านมา มาดาม ดา สามารถสร้างยอดขายได้เดือนละ 1 ล้านชิ้น 50 ล้านบาทต่อเดือน และ600 ล้านบาทต่อปี ซึ่งในปีนี้ได้ตั้งเป้าการเติบโตที่เพิ่มขึ้น 5 เท่าเพราะ มาดาม ดา เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในประเทศกัมพูชาและต่างประเทศ ในกัมพูชามีผู้ติดตามประมาณ 3 แสนคน คิดเป็นสัดส่วนกับประเทศไทยประมาณ 60% ในไทย 15-20% ส่วนที่เหลือเป็นสัดส่วนของลูกค้าต่างประเทศ ถึงแม้จะเพิ่งเริ่มต้นตีตลาดในประเทศไทยเพียงไม่กี่เดือน แต่ผลตอบรับที่ได้นั้นเกินคาด ในขณะที่ตัวสินค้าเองก็สามารถวางขายตามโมเดิร์นเทรดและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ยอดขายในไทยในตอนนี้อยู่ที่หลักหมื่นและหลักแสนและคาดว่าในอนาคตจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวหรือมากกว่า 

ทั้งนี้จุดเด่นและความพิเศษของแบรนด์ มาดาม ดา อยู่ตรงที่สินค้าเป็นสินค้าที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี สินค้าแต่ละประเภท มาดาม ดา ได้ทำการศึกษาว่าแต่ละประเทศในเขตภูมิภาคนั้นๆ ขาดแคลนสิ่งใด มาดาม ดา จะทำการป้อนสินค้าที่คนในพื้นที่ขาดไปให้ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทำให้ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดีทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ในอนาคตข้างหน้า มาดาม ดา ได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการแตกไลน์การผลิตที่ร่วมกับรีโว่เมด คือ การผลิตกระเป๋า และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เป็นแบรนด์ของกัมพูชารวมถึงวางแผนตีตลาดในดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

อย่างไรก็ตาม สินค้าทุกประเภทของ มาดาม ดา ที่ผลิตในประเทศไทยได้ชื่อว่าเมดอินไทยแลนด์ ทำให้เมื่อส่งออกต่างประเทศแล้วลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี เพราะสินค้าจากประเทศไทยได้รับการไว้วางใจ เชื่อใจจากลูกค้า รวมถึงการปรับตัวให้เข้ากับยุค New Normal โดยก่อนที่โควิด-19 จะระบาดหนักนั้น ทางแบรนด์ได้ทำการส่งของไปยังประเทศต่างๆ เพื่อสต็อกสินค้าเอาไว้ ทำให้สามารถขายได้ตลอดเวลา รวมถึงเริ่มผลิตรายการที่ส่งต่อความสำเร็จให้กับกลุ่มคนที่ต้องการโอกาสให้เติบโตไปในทางที่ดีมากขึ้น พร้อมพัฒนาสินค้าและปรับปรุงแบรนด์ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มั่นคง และยั่งยืนต่อไป บวกกับการสนับสนุนจาก รีโว่เมด และตัวตนของ มาดาม ดา ที่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า จึงทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็วภายใน 1-2 ปี นอกจากนี้ยังตั้งเป้าให้สินค้าของ มาดาม ดา เติบโตไปยังทั่วโลก รวมถึงสร้างอาชีพให้คนอื่นได้อีกด้วย

ติดต่อเพิ่มเติม

Facebook : Madam Da Society
Line : @madamda
Tel. 061-5808037, 061-5808309

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *

กำลังโหลดความคิดเห็น