โพลชี้พี่น้องจีน 66% เตรียมช้อปแบรนด์ท้องถิ่นใน “วันคนโสด” และ 57% มีแผนลดการซื้อแบรนด์อเมริกัน แต่โดยรวมแล้วมีแนวโน้มว่า ยอดขายในมหกรรมลดแหลกของอาลีบาบาจะทำลายสถิติเดิม เนื่องจากผู้บริโภคจีนกลับมาใช้จ่ายกันตามปกติอีกครั้งหลังถูกล็อกดาวน์สกัดโควิดเมื่อต้นปี
อัลวิน หลิว ประธานธุรกิจนำเข้าและส่งออก ทีมอลล์ของอาลีบาบา ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซีเมื่อไม่กี่วันมานี้ว่า นักช้อปจีนที่ปกติจะช้อปแบรนด์ต่างชาติระหว่างเที่ยวเมืองนอกขณะนี้หันมาจับจ่ายทางออนไลน์แทนเนื่องจากการเดินทางระหว่างประเทศส่วนใหญ่ยังถูกจำกัด ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์นำเข้ามีแนวโน้มขายดีในวันคนโสดปีนี้
ทั้งนี้ ทีมอลล์คือแพลตฟอร์มหลักของอาลีบาบาในจีนที่ลูกค้าสามารถซื้อหาได้ทุกสิ่ง ส่วนวันคนโสดคือวันที่บริษัทอี-คอมเมิร์ซจีนตั้งแต่อาลีบาบาไปจนถึงเจดีดอทคอม ขายสินค้าออนไลน์แบบลดกระหน่ำตลอด 24 ชั่วโมง โดยยอดขายสินค้าออนไลน์ของอาลีบาบาเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่เกือบ 40,000 ล้านดอลลาร์
สำหรับปีนี้ อาลีบาบาพยายามดึงแบรนด์ต่างชาติมาร่วมมหกรรมวันคนโสดมากขึ้น โดยทีมอลล์จะเพิ่มแบรนด์ใหม่จากเมืองนอกกว่า 2,600 แบรนด์
อย่างไรก็ตาม ความต้องการของผู้บริโภคจีนอาจสวนทางกับความพยายามของทีมอลล์
ผลสำรวจของบริษัทที่ปรึกษาระดับโลก เอลิกซ์พาร์ตเนอร์ส ที่จัดทำขึ้นเป็นครั้งที่ 3 เกี่ยวกับมหกรรมวันคนโสดของอาลีบาบาที่จัดกันทุกวันที่ 11 พฤศจิกายน พบว่า ผู้บริโภคจีน 66% จะเลือกซื้อแบรนด์ในประเทศมากกว่าแบรนด์นอก
การสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคจีนวัยผู้ใหญ่ 2,029 คนนับจากวันที่ 30 กันยายนจนถึง 6 ตุลาคมยังพบว่า 62% ระบุเหตุผลที่ซื้อแบรนด์ท้องถิ่นคือ “ความรักชาติ” เทียบกับปีที่แล้วที่มีคนตอบแบบนี้ 51% โดยขณะนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอเมริกาและออสเตรเลียตึงเครียดมากขึ้นอย่างชัดเจน
สำหรับยอดการใช้จ่ายโดยรวมในปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ 11 ของมหกรรมวันคนโสดของอาลีบาบานั้น คาดว่า จะลบทุกสถิติที่ผ่านมาเนื่องจากผู้บริโภคจีนฟื้นตัวเต็มที่จากการล็อกดาวน์ระหว่างไวรัสโคโรนาระบาดเมื่อต้นปี โดยยอดขายวันคนโสดหรือ 11-11 ปีที่แล้วสูงกว่า 38,000 ล้านดอลลาร์
ผู้บริโภคจีน 39% มีแผนเพิ่มงบช้อปปิ้งวันคนโสดเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว มีแค่ 15% ที่คาดว่า จะช้อปน้อยลง โดยส่วนใหญ่บอกว่า กังวลกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด
เอลิกซ์พาร์ตเนอร์สยังพบว่า ผู้บริโภคจีน 57% มีแผนซื้อผลิตภัณฑ์ของอเมริกาน้อยลงในปีนี้ และ 39% เล็งลดการใช้จ่ายกับแบรนด์จากยุโรป
เดวิด การ์ฟิลด์ กรรมการผู้จัดการเอลิกซ์พาร์ตเนอร์ บอกว่า ที่ผ่านมาแบรนด์อเมริกันมักได้คะแนนสูงมาก แต่ตอนนี้ผู้บริโภคจีนรู้สึกมากขึ้นว่า สามารถหาของดีมีคุณภาพได้จากที่อื่น ไม่จำเป็นต้องง้ออเมริกา และความรู้สึกนี้เป็นสิ่งที่นอกเหนือไปจากการเจรจาทางภูมิรัฐศาสตร์หรือผลกระทบด้านกระแสการค้า
แต่สำหรับหลิวไม่เชื่อว่า จะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมาจริงๆ เพราะผู้บริโภคจีนยังคงต้องการผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากเมืองนอก แต่ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า ปีนี้ทีมอลล์มีแบรนด์ท้องถิ่นมากมายมานำเสนอเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกัน ขณะที่การเดินทางระหว่างประเทศยังหยุดชะงักเป็นส่วนใหญ่ ผู้บริโภคจีนที่มีสตางค์กำลังจับจ่ายอย่างเพลิดเพลินกับสินค้าหรูภายในประเทศ จากผลสำรวจของเอลิกซ์พาร์ตเนอร์สพบว่า จีนเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำในหมู่ลูกค้าที่ชอบสินค้าหรูคือ 43% ตามด้วยญี่ปุ่น 30% ขณะที่อเมริกาไม่ติด 4 อันดับแรก
การ์ฟิลด์มองว่า ข้อมูลนี้สะท้อนความคืบหน้าอย่างแท้จริงของผู้ผลิตสินค้าหรูจีน อีกทั้งยังมีนัยสำคัญสำหรับแบรนด์อเมริกัน ซึ่งรวมถึงในหมวดหมู่สินค้าหรูที่พึ่งพิงการใช้จ่ายของผู้บริโภคจีนมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากยอดขายจากนักท่องเที่ยวของบริษัทอย่างเมซี่ส์และทิฟฟานีที่ดิ่งลงรุนแรงในช่วงโรคระบาด