xs
xsm
sm
md
lg

“บี เฮิร์บ” ข้าวเคลือบสมุนไพรหลากสี โดนใจกลุ่มรักสุขภาพ ตั้งเป้าต่อยอดผลิตภัณฑ์ด้วยงานวิจัย

เผยแพร่:





ตลาดอาหารสำหรับกลุ่มคนรักสุขภาพยังได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคมักค้นหาอาหารที่ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ และยังอิ่มท้องอีกด้วย ข้าวเคลือบสมุนไพร “บี เฮิร์บ” ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มอาหารที่ผู้บริโภคหลายท่านกำลังมองหา ซึ่งนอกจากจะเป็นข้าวที่ทุกคนกินกันอยู่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้วยังมีความพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาคือได้รับสารอาหารจากสมุนไพรอีกด้วย ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี


นายวิชัย พจนสุวรรณกุล เจ้าของผลิตภัณฑ์ ข้าวเคลือบสมุนไพร แบรนด์ บี เฮิร์บ เล่าว่า ข้าวเคลือบสมุนไพรเริ่มมาจาก ก่อนหน้านี้เป็นเพียงผู้ประกอบการ ค้าข้าว แต่การค้าข้าวในประเทศมีการแข่งขันในตลาดที่สูงมาก จึงคิดต่อยอดไปว่าหากว่าต้องการได้สารอาหาร และคุณค่าทางโภชนาการที่มากกว่าการกินข้าวแบบธรรมดาจะต้องทำอย่างไร และเล็งเห็นว่าสมุนไพรมีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก จึงเริ่มนำสมุนไพรมาผสมกับข้าวเพื่อที่ผู้บริโภคเมื่อกินข้าวแล้วจะได้รับประโยชน์จากสมุนไพรไปด้วย

อีกทั้งข้าวยังถือได้ว่าเป็นอาหารหลัก ส่วนสมุนไพรก็มีประโยชน์เป็นอย่างมาก หลังจากนั้นจึงได้เริ่มวิจัยกับทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลังจากที่สำเร็จแล้วจึงจดอนุสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อย








ซึ่งนอกจากข้าวเคลือบสมุนไพรแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีก เช่น ข้าวปลอดสารพิษ, ข้าวเหนียวสมุนไพร, ข้าวกล้องงอกสมุนไพร, ข้าวญี่ปุ่นสมุนไพร, ข้าวสมุนไพร, ข้าวกล้องงอกปลอดสารพิษ รวมไปถึง ธัญพืช, สมุนไพรอบแห้งอีกด้วย และยังมีอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสำหรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายทางอายุคือ ข้าวบดเคลือบสมุนไพร

ข้าวบดสมุนไพร เป็นผลิตภัณฑ์ที่ง่ายต่อการนำไปปรุงอาหารเป็นอย่างมาก ใช้เวลาในการปรุงเพียงไม่นานก็สามารถได้เป็นมื้ออาหารแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่นำไปปรุงในทารกกิน ได้ทั้งสารอาหารที่ครบถ้วนจากข้าวทั้งยังได้ประโยชน์จากสมุนไพรอีกด้วย อีกกลุ่มคือกลุ่มผู้สูงอายุที่ชื่นชอบในข้าวบดสมุนไพร ผลตอบรับถือได้ว่าเป็นไปในทางที่ดี เนื่องจากตลาดส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เริ่มดูแลสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ยิ่งช่วงหลังๆ จะเริ่มเติบโตเร็วเป็นพิเศษ

ปัจจุบันข้าวเคลือบสมุนไพร มีให้เลือกหลากหลาย เช่น ข้าวเคลือบอัญชัน, เคลือบขมิ้นชัน, เคลือบกระเจี๊ยบ และเคลือบใบเตย เป็นต้น ซึ่งแต่ละสมุนไพรที่เลือกมาก็จะให้คุณค่าสารอาหารที่แตกต่างกันตามวัตถุดิบสมุนไพรต่างๆ




“ถ้าพูดถึงประโยชน์ก็ขึ้นอยู่กับสมุนไพรแต่ละชนิด ซึ่งก็จะมีประโยชน์ต่างกัน ตัวข้าวเองของเราก็คือข้าวหอมมะลิ ที่เราใช้ ส่วนตัวสมุนไพรอย่างขมิ้นชันก็จะมีสรรพคุณที่ช่วยในระบบย่อยอาหาร ส่วนอัญชันก็จะมีสารที่ช่วยในเรื่องผม รากผม บำรุงสายตา เป็นต้น คือสมุนไพรแต่ละอย่างก็จะมีสรรพคุณที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ในตัวเองอยู่แล้ว”

สำหรับสมุนไพรที่เลือกใช้ จะเลือกเป็นสมุนไพรที่อยู่ในประเทศไทยทั้งหมด เพื่อเป็นการส่งเสริมให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีก ข้าวก็ต้องเลือกเป็นข้าวที่ปลูกในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ส่วนสมุนไพรก็จะได้มาจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มสหกรณ์ ที่ได้รับมาตรฐานในการปลูก

ในอนาคตได้มีแผนในการวิจัยผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม ต้องการสร้างโรงงานผลิตที่ดี เน้นในงานวิจัยให้มากขึ้น สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งอาจจะเพิ่มสรรพคุณในการป้องกันไวรัสให้เพิ่มขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์สังคมมากขึ้น อีกหนึ่งอย่างที่ต้องการพัฒนาคือการส่งเสริมแหล่งปลูก เพิ่มเติมจากกลุ่มวิสาหกิจที่มีอยู่ และแผนที่สำคัญในอนาคตคือการหาคู่ค้าในธุรกิจเพื่อการพัฒนาที่พร้อมมากกว่าปัจจุบัน

สนใจติดต่อ เว็บไซต์ : b-herb.com

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
กำลังโหลดความคิดเห็น