xs
xsm
sm
md
lg

ดันแผนฟื้นฟู ขสมก.ชง ครม.เคาะใน พ.ย.-“นายกฯ” ไฟเขียวมอบรถเก่าให้ ก.ศึกษาฯ ทำรถโรงเรียน

เผยแพร่:



“ศักดิ์สยาม” มั่นใจแผนฟื้นฟู ขสมก.เข้า ครม.ไม่เกินกลางเดือน พ.ย. อยู่ระหว่างสอบถามความเห็นสภาพัฒน์ สำนักงบ ตามขั้นตอน เผย “นายกฯ” รับทราบ ก.ศึกษาฯ ขอรถ ขสมก.เก่า 2,500 คันไปปรับปรุงเพื่อใช้เป็นรถโรงเรียน ประหยัดงบซื้อใหม่

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่า คาดว่าจะสามารถนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน พ.ย. โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสอบถามความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง โดยหลังจาก ครม.อนุมัติ ขสมก.จะเข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคาจัดหารถตามแผนได้ทันที เนื่องจากขณะนี้ได้มีการจัดทำร่างทีโออาร์คู่ขนานไว้แล้ว ซึ่งตามแผนงาน รถชุดแรก 400 คันจะเริ่มเข้ามาภายในเดือน มี.ค. 2564

ทั้งนี้ ช่วงเช้าวันที่ 28 ต.ค. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เชิญตน และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ไปหารือร่วมกันในกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการจะขอนำรถโดยสาร ขสมก.ประมาณ 2,500 คันที่จะมีการปลดระวาง หลังจากที่ ขสมก.มีรถโดยสารชุดใหม่เข้ามาทดแทนเพื่อนำไปใช้เป็นรถโรงเรียน โดยกระทรวงศึกษาฯ จะรับผิดชอบในการปรับปรุงสภาพรถโดยสารขสมก.ให้เหมาะสมกับการใช้งานในรูปแบบรถโรงเรียน

เรื่องนี้ไม่มีปัญหา เพราะเป็นระเบียบ ขสมก.อยู่แล้ว กรณีที่รถเก่า หรือไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้วสามารถส่งมอบให้ทางกระทรวงศึกษาฯ ได้ ซึ่งจะเกิดประโยชน์และประหยัดงบประมาณภาครัฐไปด้วย โดยจะมอบให้ปลัดกระทรวงคมนาคมและปลัดกระทรวงศึกษาธิการหารือในรายละเอียดร่วมกัน ภายหลังจาก ครม.ได้พิจารณาอนุมัติแผนฟื้นฟู ขสมก.แล้ว

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2563 ได้เข้าหารือกับ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรื่องแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.เพื่อแก้ปัญหาหนี้สินกว่า 1.2 แสนล้านบาท โดยภาพรวมทาง รมว.คลังไม่มีข้อท้วงติงใดๆ แล้ว

“คงเข้า ครม.ไม่เกิน 2 สัปดาห์นี้ ซึ่งผมได้แจ้งถึงความจำเป็นในการเร่งรัดต่อเลขาฯ ครม.แล้ว ว่า แต่ละวัน ขสมก.มีภาระขาดทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งหลัง ครม.อนุมัติ ขสมก.จะนำร่างทีโออาร์จัดหารถขึ้นเว็บไซต์เพื่อรับฟังคำวิจารณ์ได้ทันที

สำหรับแผนฟื้นฟู ขสมก.มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการ และการบริหารจัดการองค์กรให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ไม่เป็นภาระของภาครัฐ โดยพัฒนาเป็น ขสมก.โฉมใหม่ (New BMTA) ได้แก่
1. การเช่ารถโดยสารปรับอากาศไฟฟ้า (EV) แบบชานต่ำ จำนวน 2,511 คัน ซึ่งเมื่อรวมกับรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คันที่ ขสมก.จัดซื้อไว้เดิม จะทำให้ ขสมก.มีรถโดยสารปรับอากาศให้บริการประชาชนจำนวน 3,000 คัน
2. เมื่อ ขสมก.สามารถจัดเช่ารถโดยสารปรับอากาศไฟฟ้าได้ครบตามจำนวนแล้ว ก็จะปลดระวางรถโดยสารปรับอากาศเครื่องยนต์ดีเซล และรถโดยสารธรรมดาทั้งหมด ทำให้ในอนาคต ขสมก.จะมีแต่รถโดยสารปรับอากาศใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อให้บริการประชาชน
3. การนำระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ โดยการติดตั้งเครื่องอ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์บริเวณประตูรถโดยสาร เพื่อให้ผู้ใช้บริการแตะบัตรโดยสารที่เครื่องดังกล่าว แทนการแตะบัตรที่เครื่อง EDC ของพนักงานเก็บค่าโดยสาร
4. การจัดเก็บค่าโดยสารในอัตรา 30 บาท/คน/วัน ไม่จำกัดจำนวนเที่ยวและจำนวนเส้นทาง เหมาะสำหรับประชาชนที่ใช้บริการรถโดยสารวันละหลายๆ เที่ยวเพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนประชาชนที่ใช้บริการเพียงวันละ 1 เที่ยว ขสมก.จะจัดเก็บค่าโดยสารเพียงเที่ยวละ 15 บาทเท่านั้น
5. การปรับปรุงเส้นทางเดินรถไม่ให้ทับซ้อนกัน และเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ จำนวน 162 เส้นทาง แบ่งเป็นเส้นทางของ ขสมก. 108 เส้นทาง และเส้นทางของเอกชน 54 เส้นทาง โดย ขสมก.และผู้ประกอบการเอกชนจะนำรถมาวิ่งให้บริการประชาชนใน 4 รูปแบบ คือ Feeder, Liner, Circle และ Express
6. การพัฒนาอู่บางเขน และอู่มีนบุรีในเชิงธุรกิจ เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ ขสมก.
7. เมื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการ สำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จะรับภาระยอดหนี้คงค้าง ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 ของ ขสมก.
8. เมื่อ ขสมก.ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการได้อย่างสมบูรณ์แล้ว จะทำให้ ขสมก.มี EBITDA กลับมาเป็นบวกภายในปี 2572
กำลังโหลดความคิดเห็น