xs
xsm
sm
md
lg

“ไทยออยล์” รักษาสัดส่วนกำไรจากไฟฟ้า 15% หลังปรับโครงสร้างธุรกิจ

เผยแพร่:



“ไทยออยล์” ลั่นคงสัดส่วนกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าอยู่ที่ 15% หลังปรับโครงสร้างธุรกิจไฟฟ้าขายหุ้น GPSC จำนวน 8.91% ให้ ปตท. และรับโอนกิจการทั้งหมดของ TP

นางสาวภัทรลดา สง่าแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านการเงินและบัญชี บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2563 โดยขายหุ้นบริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) จำนวน 8.91% ให้บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เป็นมูลค่า 16,882 ล้านบาท และรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัทไทยออยล์ เพาเวอร์ จำกัด (TP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่ถือหุ้นอยู่ 74% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และ ปตท.ถือหุ้นในสัดส่วนที่เหลือ 26% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยจะเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทเพื่ออนุมัติในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ หากที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการปรับโครงสร้างธุรกิจไฟฟ้าดังกล่าว ทางไทยออยล์จะดำเนินธุรกรรมขายหุ้น GPSC 8.91% ให้ ปตท.แล้วเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ และต้นปี 2564 บริษัทจะรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท ไทยออยล์ เพาเวอร์จำกัด

การเข้าทำธุรกรรมการขายหุ้น GPSC จะทำให้บริษัทได้รับกระแสเงินสดภายหลังจากการเข้าทำธุรกรรมการขายหุ้นและธุรกรรมการรับโอนกิจการทั้งหมดเป็นจำนวนประมาณ 5,900 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องและฐานะการเงินแข็งแกร่งขึ้น รวมถึงเพิ่มเงินทุนเพื่อรองรับการลงทุนในอนาคตของบริษัท

นางสาวภัทรลดากล่าวว่า หลังปรับโครงสร้างธุรกิจไฟฟ้าดังกล่าวแล้ว ไทยออยล์จะถือหุ้น GPSC ทางตรง 20.78% จากปัจจุบันไทยออยล์ถือหุ้น GPSC ในสัดส่วน 8.91% ขณะที่ TP ถือหุ้น GPSC ในสัดส่วน 20.78% ซึ่งเมื่อไทยออยล์รับโอนกิจการทั้งหมดของ TP ก็จะดำเนินการเลิกบริษัท TP ไป ทำให้ไทยออยล์เป็นผู้ถือหุ้น GPSC โดยตรงแทนและรับรู้กำไรจากธุรกิจไฟฟ้าประมาณปีละ 3,000 ล้านบาท โดย GPSC มีการลงทุนเพิ่มและสร้างรายได้เติบโตขึ้น ทางไทยออยล์ก็จะรับรู้กำไรเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ทั้งนี้ ไทยออยล์ได้กำหนดโครงสร้างกำไรของบริษัทในอนาคตมีสัดส่วนมาจากธุรกิจไฟฟ้า 15% ธุรกิจการกลั่นและปิโตรเคมี 80% และอื่นๆ อีก 5%
กำลังโหลดความคิดเห็น