xs
xsm
sm
md
lg

ก.พลังงานเร่งเคาะเกณฑ์โรงไฟฟ้าชุมชน 150 MW เปิดแข่งขันราคา

เผยแพร่:



กระทรวงพลังงานเร่งวางเกณฑ์ฯ โรงไฟฟ้าชุมชน วางเป้ารับซื้อ 150 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล 75 เมกะวัตต์ และก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงาน 75 เมกะวัตต์ เน้นพืชพลังงานปลูกใหม่เท่านั้น เปิดประมูลแข่งขันราคา ด้านวิสาหกิจชุมชนแนะให้แยกประเภทโรงไฟฟ้า เชื้อเพลิงในการแข่งขัน กกพ.เร่งหาช่องดึง SPP Hybrid Firm ที่เหลือ 100 MW โยกมาเป็นโรงไฟฟ้าชุมชน

แหล่งข่าวจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน
เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างหลักเกณฑ์และรูปแบบการจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อจะเร่งสรุปให้สามารถเปิดรับซื้อไฟฟ้าได้ภายในสิ้นปีนี้ กำหนดเป้าหมายการรับซื้อไว้ที่ 150 เมกะวัตต์ แยกเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล (Biomass) 75 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงาน (Biogas) 75 เมกะวัตต์ กำหนดปริมาณการขายไฟฟ้าไม่เกิน 3 เมกะวัตต์/แห่ง ใช้วิธีคัดเลือกด้วยการเปิดให้แข่งขันราคาในการขายไฟ (Competitive Bidding)

โดยคุณสมบัติเบื้องต้นผู้ยื่นข้อเสนอโรงไฟฟ้าชีวมวลที่จะเข้าร่วมโครงการต้องใช้เชื้อเพลิงจากการปลูกใหม่เท่านั้น เช่น ไม้โตเร็ว ไผ่ รวมถึงเพิ่มการใช้หญ้าเนเปียร์สำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวล และเชื้อเพลิงกำหนดให้ผู้ประกอบการทำเกษตรพันธสัญญา (Contract farming) กับเกษตรกรตาม พ.ร.บ.พันธสัญญา (ไม่กำหนดว่าต้องร่วมกับวิสาหกิจชุมชน 200 ครัวเรือนขึ้นไป) โดยกำหนดสัดส่วนการจัดหาเชื้อเพลิงแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่

1. 80% ผ่าน Contract Farming โดยข้อนี้เพื่อเป็นการยืดหยุ่นกรณีเหตุสุดวิสัยเกษตรกรไม่สามารถจัดหาเชื้อเพลิงได้ให้ผู้ประกอบการสามารถจัดหาได้เอง (มีหน่วยงานมากำกับดูแลและตรวจสอบ) 2. สัดส่วน 20% ให้โรงไฟฟ้าจัดหาได้เองและให้ผู้ประกอบการวางแบงก์การันตีเพื่อเป็นหลักประกันให้เกษตรกรกรณีหยุดรับซื้อไม่เป็นไปตามสัญญา เพื่อให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนไปปลูกพืชชนิดอื่น ส่วนแนวทางการจัดสรรผลประโยชน์คืนสู่ชุมชน เช่น อาจแบ่งกำไร 10% ให้ชุมชนยังไม่ได้ข้อสรุป

ม.ร.ว.วรากร วรวรรณ ประธานที่ปรึกษาวิสาหกิจชุมชน กลุ่มรักษ์ช้างรักษาป่าตะวันออก (ปม.) กล่าวว่า แนวทางการรับซื้อไฟฟ้าควรจะแยกการแข่งขันตามประเภทของโรงไฟฟ้า (Biomass, Biogas) และเชื้อเพลิง (ไม้โตเร็ว, หญ้าเนเปียร์ และอื่นๆ) เพื่อที่จะทำให้การแข่งขันอยู่บนพื้นฐานที่เป็นธรรม

รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2563 ได้เร่งรัดให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ไปพิจารณายกเลิกสัญญากับผู้ประกอบการโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรูปแบบ SPP Hybrid Firm ปี 2560 ที่ไม่สามารถลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement หรือ PPA) กับการไฟฟ้าได้ทัน 13 ธันวาคม 2562 ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 100 เมกะวัตต์ เพื่อนำโครงการดังกล่าวมาจัดทำโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนแทน ซึ่งจะช่วยให้โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเดินหน้าได้ทันทีเพราะไม่ต้องรอแผนพีดีพี 2018 (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1) ผ่าน ครม.แต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น