xs
xsm
sm
md
lg

บ้านปูขอ 2 ปีตัดสินใจโครงการใหม่ในมองโกเลีย

เผยแพร่:



บ้านปูชะลอการตัดสินใจลงทุนโครงการต่อยอดจากถ่านหินเป็นน้ำมันดีเซลหรือเคมิคอลออกไปก่อน 1-2 ปีนี้ หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้บริษัทปรับแผนการทำธุรกิจสู่โหมดตั้งรับ

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการลงทุนในมองโกเลียว่า บริษัทได้ชะลอการตัดสินใจตั้งโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ที่ต่อยอดจากถ่านหินออกไปก่อน เนื่องจากบริษัทยังไม่พร้อมลงทุนเพราะเข้าสู่โหมดการตั้งรับ (Defensive Mode) ในช่วงปี 2563-64 หลังสิ้นสุดการใช้เงินลงทุนก้อนใหญ่เข้าซื้อแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ (Barnett) ในสหรัฐอเมริกามูลค่า 570 ล้านเหรียญสหรัฐที่ได้ปิดดีลในวันที่ 1 ต.ค.นี้ รวมทั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้มองไม่เห็นการโตของเศรษฐกิจโลกในช่วง 1-2 ปีนี้

แม้ว่าบ้านปูจะไม่มีแผนการลงทุนใหม่ในช่วงนี้ แต่ยังวิจัยและพัฒนา (R&D) การต่อยอดถ่านหินผลิตเป็นน้ำมันดีเซล (Coal to Liquid) หรือผลิตเป็นเคมิคอล (Coal to Chemicals) โดยยอมรับว่าการลงทุนทั้ง 2 โครงการนี้จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง ทำให้ต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ

ทั้งนี้ บ้านปูมีปริมาณสำรองถ่านหินในแหล่งผลิตถ่านหินที่มองโกเลีย แต่ไม่มีแนวคิดที่จะผลิตถ่านหินขึ้นมาเพื่อส่งออกไปจีน เนื่องจากมีต้นทุนการขนส่งค่อนข้างสูงไม่คุ้มค่า เพราะราคาถ่านหินในปัจจุบันอ่อนตัวลงมาจากต้นปีนี้อยู่ที่ระดับ 70 เหรียญสหรัฐ/ตัน มาอยู่ที่ราคาเฉลี่ย 60 เหรียญสหรัฐ/ตัน ดังนั้น การนำถ่านหินมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์อื่นที่มีมูลค่าเพิ่มดูจะเป็นทางเลือกที่มีความเหมาะสมมากกว่า

ทั้งนี้ เมื่อปี 2554 บ้านปูได้เข้าไปซื้อหุ้นบริษัท Hunnu Coal Limited ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย โดยมีแหล่งถ่านหินที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจำนวนหลายแห่งในมองโกเลียซึ่งเป็นประเทศที่มีถ่านหินจำนวนมากและมีความได้เปรียบเพราะมีตลาดจีนอยู่ใกล้เคียง

จากสถานการณ์ราคาถ่านหินที่ต่ำในช่วงนี้ ทำให้บริษัทรักษาระดับการผลิตและจำหน่ายถ่านหินอยู่ที่ 42 ล้านตันต่อปีต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568
กำลังโหลดความคิดเห็น