xs
xsm
sm
md
lg

“เฮียนพ” หมูปิ้งนมสด ขายวันละแสนไม้ รายได้กว่า 200 ล้านบาทต่อปี

เผยแพร่:


ชวพจน์ ชูหิรัญ หรือ เฮียนพ


หมูปิ้งเมนูอาหารเช้า ที่มีการรับประทานกันทั่วทุกภาคของประเทศไทย การที่ผู้ประกอบการยกระดับหมูปิ้ง ให้ออกมาในรูปของอุตสาหกรรม เพื่อให้สามารถส่งหมูปิ้งไปขายทั่วประเทศ ถือว่าเป็นช่องว่างทางการตลาด ที่ เฮียนพ “ ชวพจน์ ชูหิรัญ” อดีตหมูปิ้งรถเข็น ย่านปากเกร็ด นนทบุรี คิดเช่นกัน


เฮียนพ เล่าว่า ที่มาของการมาทำโรงงานหมูปิ้ง ในครั้งนี้ เกิดขึ้นมาจาก เรามองว่าหมูปิ้งของเรารสชาติอร่อย แต่ทำไมขายได้เฉพาะที่ปากเกร็ด ทำไมเราไม่มีโอกาสไปขาย ที่จังหวัดอื่นๆ ได้บ้าง เป็นที่มาการทำโรงงานหมูปิ้ง และปัจจุบันส่งหมูปิ้งออกไปขายได้ทั่วประเทศ


มาทำความรู้จักกับ “เฮียนพ หมูปิ้งเงินล้าน”

เฮียนพ “ชวพจน์” เล่าว่า เรียนจบแค่ มัธยมศึกษาปีที่ 3 ผมได้ผ่านการทำงานมาหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น กรรมก ร ทำงานโรงงาน ขายของมาสารพัดอย่าง ไม่ว่าจะขายน้ำยาล้างจาน ขายไอศกรีม เสื้อผ้าเด็ก ต้นไม้มงคล เป็นรปภ. ขับแท็กซี่ และมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หลังจากที่เป็นหนุ่มโรงงานกว่า 10 ปี ชีวิตของเฮียนพก็ดีขึ้น มีทั้งบ้าน รถยนต์ และลูกน้อยในวัยกำลังซน แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลกกับชีวิตเฮียนพ เพราะช่วงชีวิตหลังจากนี้มีแต่อุปสรรค ช่วงปี 2554 วิกฤตเศรษฐกิจ ทางโรงงานที่ทำอยู่ประสบปัญหาการเงิน ทำให้เฮียนพต้องถูกจ้างออก พร้อมได้เงินก้อนอีก 2-3 หมื่นบาท เพื่อเป็นทุนต่อชีวิต


หลังจากสิ้นสุดชีวิตหนุ่มโรงงาน เขาก็เริ่มเป็นนายจ้างตัวเอง ทำอีกหลายอาชีพสารพัด ตั้งแต่ขายต้นไม้มงคล ที่ทำไปสักพักก็ไม่รุ่ง แล้วหันไปขายเสื้อผ้าเด็กแทน แต่ก็ไม่ดีอีกเช่นเคย จากนั้นก็ไปเรียนทำน้ำยาล้างจาน เพื่อที่จะมาทำขายให้ร้านอาหาร ก็ไม่มีใครซื้ออีก เพราะไม่มีแบรนด์ แล้วหันมาขายไอติมกะทิสดก็ไม่ประสบความสำเร็จอีกเช่นเคย จนมาลงเอยที่การเป็น รปภ. เคราะห์ซ้ำกรรมซัดยังไม่พอ บ้านของเฮียนพก็ถูกยึดแบบไม่ทันตั้งตัว จนต้องระเห็ดไปอาศัยนอนเปลที่ร้านอาหารตามสั่งของน้องสาวที่โรงพักปากเกร็ด ส่วนภรรยาและแฟนต้องย้ายไปเช่าบ้านใหม่ที่ย่านสะพานใหม่ และด้วยรายได้ไม่พอจุนเจือ เขาก็เริ่มไปขับแท็กซี่กะกลางคืนควบไปด้วย แต่ก็ไม่รอด แล้วหันไปขับวินมอเตอร์ไซค์แทน ซึ่งจุดนี้เองทำให้เขาได้เจอกับแสงสว่างในชีวิตอย่าง “ฮั่ว อักษร” แม่บ้านตำรวจที่ทำหมูปิ้งไปด้วย

ฮั้ว คนนี้เองที่เป็นคนสอนสูตรหมูปิ้งให้น้องสาวของเฮียนพทำขาย ซึ่งทำไปทำมาขายได้วันละ 200-300 ไม้ จากนั้นน้องสาวจึงได้ชักชวนเขาให้ไปช่วยทำ โดยตัวเองเป็นคนทำส่งอย่างเดียว ส่วนน้องมีหน้าที่ขาย จากนั้นก็มีป้ารับไปขายอีกแห่ง ซึ่งที่ร้านป้านี่เองมีลูกค้ามาถามว่า “ใครเป็นคนทำ เขาจะรับไปขาย” จึงได้มาติดต่อที่เฮียนพ ซึ่งวันแรกก็สั่งไปกว่า 1,000 ไม้ ทำให้เขาเห็นลู่ทางขยายธุรกิจ จึงไปติดต่อแม่ค้าตามตลาดให้รับหมูปิ้งไปขาย หลายเจ้าเห็นว่าหมูปิ้งเฮียนพขายดี มีกำไร ก็มียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีรายได้เป็นหลักล้านบาท มีได้จ้างพนักงานมาช่วยทำอีกกว่า 40 ชีวิต




จากนั่งเสียบไม้ริมถนน สู่โรงงานหมูปิ้งแห่งแรกไทย 

ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นของการมีโรงงาน เกิดขึ้นมาจาก คำแนะนำของคู่ค้า ถ้าธุรกิจจะเติบโตต้องทำให้ถูกต้องได้มาตรฐาน จะมานั่งเสียบหมูปิ้งอยู่ริมถนนในห้องแถว หรือใต้ถุนบ้าน แบบนี้ไม่ได้ ในปี 2557 ผมจึงได้ตั้งโรงงาน และเราเป็นโรงงานผลิตหมูปิ้งโรงงานเดียว ในประเทศไทยในขณะนั้น ซึ่งการทำโรงงาน ไม่ได้จะนำผลกำไรที่ได้มาทำเสียทีเดียว ซึ่งก็ต้องบอกทำไม่ได้ต้องอาศัยแหล่งเงินทุน ได้รับเงินกู้จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME D BANK) ธนาคารไม่ได้ช่วยแค่ให้เงินเรามาและจบแค่นั้น แต่ธนาคารยังส่งทีมงานช่วยเหลือให้ความรู้ คำแนะนำต่างๆในการทำธุรกิจ ทำให้เรามีวันนี้ได้




กลุ่มลูกค้าหมูปิ้งทั้ง 4 กลุ่มของ เฮียนพ

สำหรับลูกค้าของเฮียนพ มีด้วยกัน 4 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก คือ กลุ่มที่ซื้อเพื่อไปขายปลีก กลุ่มนี้จะเป็นชาวบ้าน พ่อค้า แม่ค้าทั่วไป ที่ซื้อแล้วนำไปขายต่อเลย ผมมองว่าถ้าเราขายแค่กลุ่มนี้ จะทำให้สินค้าเราเข้าถึงยาก คนต่างจังหวัดจะซื้อของเราไม่ได้เลย เพราะค่าใช้จ่ายในการขนส่งค่อนข้างมากมาก จึงตัดสินใจจับ กลุ่มที่สอง กลุ่มที่เป็นตัวแทนจำหน่าย เป็นศูนย์กระจายสินค้าในแต่ละจังหวัด คนอยู่ภาคใต้ก็ไปซื้อของจากตัวแทนที่สุราษฏ์ธานี คนอีสานก็ไปซื้อที่อุดรธานี โยปัจจุบันเรามีตัวแทนมากกว่า 20 ราย ทำให้คนเข้าถึงสินค้าได้ง่าย




และ กลุ่มที่ สาม กลุ่มที่ซื้อไปเพื่อทำแบรนด์ตัวเอง กลุ่มนี้จะสั่งปริมาณมากๆ แล้วเอาไปกระจายต่อในแต่ละสาขาเอง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ตามในห้างสรรพสินค้าหรือปั๊มน้ำมัน ทางโรงงานเราจะทำเป็นถุงสูญญากาศแบบใสไม่ติดยี่ห้อ คนที่ซื้อไปก็แค่เอาสติ๊กเกอร์แบรนด์ตัวเองไปติดก็ขายได้เลย ไม่จำเป็นต้องมีโรงงานของตัวเอง และกลุ่มที่สี่ คือ กลุ่ม Modern trade กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เราเพิ่งเริ่มทำตลาด เพราะเป็นกลุ่มที่ไม่มีโรงงานหมูปิ้งไหนสามารถทำได้ เนื่องจากทางห้างฯ มีข้อจำกัดเยอะ โรงงานต้องได้มาตรฐาน กำลังการผลิตต้องมีมากเพียงพอความต้องการ อีกอย่างหนึ่งคือ เรามองว่าต่อให้คุณผลิตเก่งแค่ไหน แต่ถ้าคุณไม่มีที่ขายก็จบ การขายห้างฯ ถึงแม้กำไรจะน้อยกว่าขายทั่วไป แต่เราขายปริมาณมากและไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับการเก็บเงิน ซึ่งปัจจุบันยอดขายจาก ทั้ง 4 กลุ่มอยู่ที่มากกว่าวันละ 150,000 ไม้ หรือ มีรายได้มากกว่า 200 ล้านบาท ต่อปี




เคล็ดลับการขายหมูปิ้งให้รวย

สำหรับเคล็ดลับการขายหมูปิ้งให้ได้กำไรและรวย เฮียนพ บอกว่า หมูปิ้งเป็นอาหารที่รับประทานได้ง่าย ในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยเฉพาะตอนเช้าคนทำงานก็จะซื้อหมูปิ้งกิน เพราะหาซื้อได้ง่าย กินง่าย และอร่อยรสชาติถูกปากคนไทย ซึ่งการขายหมูปิ้งให้ได้เงินเยอะ อันดับแรก คือ ต้องขายช่วงเช้า จะดีกว่า การขายตอนเย็น จากประสบการณ์จะเห็นว่า คนขายช่วงเช้า กว่า 90% จะประสบความสำเร็จมากกว่าการขายช่วงเย็น

อันดับที่ สอง คือ กำไรชัดเจน คุณได้กำไรจากการขายหมูและข้าวเหนียวเป็นกำไรสองทาง มีการอธิบายชัดเจน ควบคุมต้นทุนได้ ราคาส่งไม้ละ 6 บาท ขาย 10 บาทได้ทันทีเลย 4 บาท ไม่มีการสูญเสียระหว่างทาง ถ้าทำก๋วยเตี๋ยวใส่เส้น ผัก ถั่วงอก คุณคำนวณต้นทุนไม่ได้เว้นแต่จะขายหมด ถามว่าก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่งได้กำไรกี่บาท คนขายตอบไม่ได้หรอก แต่หมูปิ้งตอบได้ และข้าวเหนียวปริมาณ 1 กิโลกรัม หลังจากนึ่งคุณจะได้ 1.5 กิโลกรัม ซื้อมา 30 บาท จะขายได้มากถึง 75 บาท เท่ากับกำไรกว่า 100 เปอร์เซนต์

อันดับที่ สาม คือ กลุ่มผู้ซื้อหลากหลาย สินค้าอะไรก็ตามหากมีลูกค้าแค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คุณจบเลย อย่างสุกี้บางคนกินไม่เป็น ซื้อไปฝากเพื่อนยังไม่กินเลยแต่หมูปิ้งถามหน่อยในเมืองไทยใครกินไม่เป็น นี่คือจุดขาย ลูกค้ามีทุกกลุ่มตั้งแต่คนจนยันคนรวย


ความสำเร็จ ในวันนี้ มาจาก 3 ถึง 
ชวพจน์ เล่าว่า ความสำเร็จของผมในวันนี้ มาจาก เราจะต้องมี 3 ถึง คือ ตาถึง มือถึง และใจถึง ตาถึง หมายความว่า เราต้องมองตลาดให้ออกว่า ลูกค้ามองหาอะไร มองเห็นในสิ่งที่คู่แข่งมองไม่เห็น ถ้าเราทำในสิ่งที่คู่แข่งมองไม่เห็นหรือยังไม่ทำ ย่อมหมายถึงเรามีโอกาสที่ดีกว่า  มือถึง หมายความว่า เราต้องรู้จริงในสิ่งที่เราทำ ต้องลงมือทำอย่างจริงจัง เรียนรู้อยู่ตลอด และต้องมี Connection ที่ดี ต่อให้คุณมองเห็นโอกาสใตลาด แต่ถ้าคุณไม่จริงจังในการทำ ก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จ สุดท้ายคือ ใจถึง หมายความว่า คุณต้องกล้าตัดสินใจ ต้องเด็ดขาดในเวลาที่ถูกที่ควร รวมไปถึงกล้าเสี่ยงที่จะทำในสิ่งที่คนอื่นยังไม่ทำ แต่อยู่บนพื้นฐานที่ผ่านการคิดวิเคราะห์มาอย่างดีแล้ว

ติดต่อ FB:หมูปิ้งเฮียนพ



* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
SMEs manager

กำลังโหลดความคิดเห็น