xs
xsm
sm
md
lg

“อิชิตัน” ลุยเครื่องดื่มวิตามินซี เร่งฟื้นกำไร-เป้ากลุ่มนอนที 40%

เผยแพร่:



ผู้จัดการรายวัน 360 - “อิชิตัน” เดินหน้าลุยนอนที (Non Tea) สร้างการเติบโต ปั้นสินค้าใหม่เสริมพอร์ต ลุยเครื่องดื่มวิตามินซี น้ำด่างผสมวิตามิน

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดรวมน้ำดื่มในประเทศไทยช่วง 8 เดือนแรกปี 2563 (มกราคมถึงสิงหาคม) มีมูลค่ารวม 18,956 ล้านบาท ตกลง 6.3% โดยแยกเป็นกลุ่มน้ำแร่มีมูลค่ารวม 2,381 ล้านบาท สัดส่วนตลาด 7.7% ตกลงมากที่สุดถึง 24.2% ส่วนน้ำเปล่าที่มีรสชาติและกลิ่นมีมูลค่า 1,203 ล้านบาท สัดส่วน 6.7% เติบโตมากถึง 75.1% ส่วนน้ำเปล่า 15,371 ล้านบาท สัดส่วนมากที่สุด 85.5% ตกลง 3% ขณะที่ตลาดรวมชาเขียวไม่ได้เติบโตมากนัก

“ตลาดตกจากผลกระทบปัจจัยทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อ แต่อีกด้านหนึ่งพบว่าตลาดเครื่องดื่มผสมวิตามินเป็นเพียงแคทิกอรีเดียวที่เติบโตสวนกระแส มากถึง 75% และยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ตามเทรนด์ผู้บริโภคที่ให้ความสนใจดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ และยอมจ่ายเพื่อซื้อสินค้าที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย” 
 


จากแนวโน้มดังกล่าว อิชิตันจึงได้มองตลาดน้ำดื่มที่มีเฟลเวอร์ (Flavoured) และวิตามินและเข้าสู่ตลาดนี้ ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “อิชิตัน วิตามิน วอเตอร์ ซี พลัส อี” (ICHITAN Vitamin Water C Plus E) เครื่องดื่มวิตามินซี 200% ผสมกับวิตามินอี 40% และไม่เติมน้ำตาล บรรจุในขวด PET สีเขียวเข้ม คือ 550 ML ราคา 20 บาท และ 350 ML ราคา 10 บาท เจาะตลาดทั้ง Modern Trade และ Traditional Trade 

นอกจากนั้นยังวางตลาดพอร์ตวิตามินวอเตอร์ด้วย อิชิตัน วิตซีซี (ICHITAN Vitt CC) เครื่องดื่มวิตามินซีสูง 200% พร้อมกัน 2 รสชาติ คือ รสออเรนจ์ และรสเลมอน ด้วยขนาด 280 ML ราคา 15 บาท วางขายผ่าน Traditional Trade และ MAKRO หลังจากที่เมื่อกลางปีได้ส่ง อิชิตัน น้ำด่าง 8.5 ผสมวิตามินบีรวม (ICHITAN PH PLUS 8.5) เข้าสู่ตลาดเครื่องดื่มผสมวิตามิน ซึ่งได้รับกระแสตอบรับในทิศทางที่ดีส่งผลบวกต่อผลกำไรให้มีการเติบโต และสนับสนุนภาพรวมผลประกอบการของอิชิตันให้ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดมากนัก 


“กลยุทธ์ Non-Tea จะเติมเต็มฤดูการขายของอิชิตันให้สมบูรณ์ ในขณะที่ชาพร้อมดื่มทำหน้าที่เพิ่มความสดชื่นในหน้าร้อน ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Non-Tea ประเภทเครื่องดื่มผสมวิตามินจะเข้ามาเติมฤดูกาลขายในหน้าฝน และหน้าหนาว ซึ่งเป็นฤดูกาลที่สภาพอากาศส่งผลต่อสุขภาพของคนไทยและเป็นไปตามกลยุทธ์ของอิชิตันที่จะเดินหน้าธุรกิจด้วย สินค้าชาเขียวใหม่ สินค้าที่ไม่ใช่ชาเขียว และธุรกิจใหม่ ซึ่งธุรกิจใหม่นี้อยู่ระหว่างการเจรจาการศึกษากับหลายราย แต่ยังไม่ใช่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ โดยจะเน้นไปที่ 3B กลุ่มสินค้าคือ เกี่ยวกับเด็ก (Baby), เกี่ยวกับสุขภาพร่างกาย (Body) และเกี่ยวกับความงาม (Beauty)” นายตันกล่าว

โดยวางเป้าหมายพอร์ตสินค้าประเภท Non-Tea อันประกอบไปด้วย อิชิตัน น้ำด่าง 8.5, อิชิตัน วิตามิน วอเตอร์ ซี พลัส อี และ อิชิตัน วิตซีซี ไว้ที่ 400 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 7% ของทั้งพอร์ต หรือ 1,000 ล้านบาท ภายใน 12 เดือน หรือมีสัดส่วน 19% ขณะที่มูลค่าตลาดรวมเป็น 3,500 ล้านบาท วอเตอร์ซีพลัสเราจะก้าวขึ้นเป็นที่หนึ่งโดยชูจุดเแตกต่างเรื่องราคาที่เรามีขายแบบ 10 บาท ซึ่งแบรนด์อื่นทำไม่ได้หรือทำได้แต่ไม่คุ้มค่า เพราะเรามีฐานผลิตและมีกำลังผลิตมากพอ จากปัจจุบันที่ผลิตเพียง 50% ของกำลังผลิตรวมที่มี 1,500 ล้านขวดต่อปี และตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากนอนทีในช่วง 3 ปีจากนี้ประมาณ 30-40%




กำลังโหลดความคิดเห็น