xs
xsm
sm
md
lg

Huawei ยังไหว ยืนยันมีสต๊อกอุปกรณ์สื่อสารเพียงพอ

เผยแพร่:


กัว ผิง (Guo Ping) ประธานหัวเว่ย
ประธานหัวเว่ย ยืนยันบริษัทยังมีสต๊อกสินค้าในคลังที่เพียงพอสำหรับธุรกิจอุปกรณ์สื่อสารอยู่ ระบุพร้อมซื้อสินค้าจากผู้ผลิตอเมริกันทุกรายที่ยื่นมือช่วยบริษัทให้พ้นวิกฤติสงครามการค้า ยอมรับกำลังมองหาชิปสำหรับสมาร์ทโฟนหลังจากถูกสหรัฐฯ สั่งแบน เรียกร้องสหรัฐฯ คิดใหม่อีกรอบเรื่อง "โจมตี" ซัปพลายเชนทั่วโลก

กัว ผิง (Guo Ping) ประธานหัวเว่ย กล่าวในงาน Huawei Connect 2020 ที่เซี่ยงไฮ้เมื่อ 23 กันยายนที่ผ่านมา ว่าบริษัทมีสินค้าคงคลังที่เพียงพอสำหรับทำธุรกิจอุปกรณ์สื่อสาร โดยขยายความว่าเพียงพอที่จะให้บริการแก่หน่วยงานองค์กรและผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม ขณะนี้บริษัทกำลังพัฒนาอุปกรณ์สำหรับผู้บริโภคแนวใหม่เพื่อชดเชยรายได้ที่หดหายไปในธุรกิจสมาร์ทโฟน

การเป็นศูนย์กลางของความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน ทำให้หัวเว่ยเดินหน้าพยายามจัดหาชิปสมาร์ทโฟน ที่อยู่ใต้คำสั่งห้ามของรัฐบาลสหรัฐฯ เบื้องต้น กัว ผิง กล่าวกับผู้สื่อข่าวในเซี่ยงไฮ้ว่า ยังคงประเมินผลกระทบของบัญชีดำอย่างต่อเนื่อง หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ พยายามเพิ่มข้อจำกัดทางธุรกิจไม่ให้ซัปพลายเออร์อเมริกันทำการค้ากับหัวเว่ย


สำหรับคำสั่งแบนของรัฐบาลสหรัฐฯ นั้นมีผลโดยตรงกับบริษัทที่จัดหาเทคโนโลยีอเมริกันให้แก่หัวเว่ย ตัวคำสั่งมีผลบังคับใช้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตัดเส้นทางซื้อชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซอฟต์แวร์ และส่วนประกอบอื่นที่เป็นกุญแจสำคัญในสินค้ากลุ่มโทรศัพท์มือถือ และสถานีฐาน 5G

รายงานระบุว่า ซัปพลายเออร์หลายรายรวมถึงควอลคอมม์ (Qualcomm Inc.) ได้ยื่นขอใบขออนุญาตเพื่อดำเนินธุรกิจให้บริษัทจีนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่ากระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาจะออกใบอนุญาตที่จำเป็นหรือไม่ เนื่องจากหัวเว่ยเป็นเป้าหมายสำคัญในแคมเปญของสหรัฐฯ เพื่อต่อต้านจีนไม่ให้มีอำนาจในโลกเทคโนโลยี ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชูเป็นแคมเปญสำคัญในการหาเสียงเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน

ประเด็นนี้ทำให้ประธานหัวเว่ยเรียกร้องผ่านเวที Huawei Connect 2020 ขอให้รัฐบาลสหรัฐฯ คิดใหม่ทำให้เรื่องการโจมตีซัปพลายเออร์ระดับโลก เนื่องจากคำสั่งห้ามของสหรัฐฯ ทำให้เกิดปัญหาอย่างมากในการดำเนินการและการผลิตของโลก พร้อมยืนยันว่าหัวเว่ยจะสนับสนุนห่วงโซ่การผลิตของตัวเองอย่างเต็มที่ ทั้งด้านบุคลากร เทคโนโลยี และมาตรฐาน เพื่อช่วยหาทางออกข้อจำกัดที่มีในปัจจุบัน


นอกจากสหรัฐอเมริกา วันนี้หัวเว่ยยังถูกโทษแบนในประเทศอื่นด้วย ทั้งญี่ปุ่นและออสเตรเลียที่ได้เข้าร่วมมาตรการคว่ำบาตรกับสหรัฐฯ ในขณะที่อังกฤษมีแผนห้ามผู้ประกอบการโทรคมนาคมในประเทศ ไม่ซื้ออุปกรณ์ของหัวเว่ยในปีหน้า โดยหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน "เมิ่ง หวางโจว" (Meng Wanzhou) ยังคงถูกกักบริเวณในแคนาดา และกำลังต่อสู้กับคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนของสหรัฐฯ ในข้อหาละเมิดการคว่ำบาตรทางการค้า

การเรียกร้องให้สหรัฐฯ พิจารณาข้อจำกัดทางการค้า ซึ่งกำลังทำร้ายซัปพลายเออร์ทั่วโลก เกิดขึ้นในช่วงที่มีข่าวว่าอินเทล (Intel) ได้รับใบอนุญาตในการจัดหาผลิตภัณฑ์บางอย่างให้แก่หัวเว่ยแล้ว โดยกัว ผิง หวังว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะพิจารณานโยบายของตัวเองเสียใหม่ ซึ่งหากรัฐบาลสหรัฐฯ อนุญาต หัวเว่ยก็ยังยินดีที่จะซื้อผลิตภัณฑ์จากบริษัทสัญชาติอเมริกัน

หัวเว่ยยอมรับว่าตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา บริษัทได้หยุดการผลิตชิปที่รุ่นล่าสุดภายใต้สายผลิตภัณฑ์ Kirin ซึ่งเป็นตัวประมวลผลในโทรศัพท์ระดับไฮเอนด์รุ่นใหญ่ของหัวเว่ย นักวิเคราะห์คาดว่าชิป Kirin ที่หัวเว่ยมีอยู่ในคลังจะหมดลงในปีหน้า ทำให้มีความกังวลว่าหัวเว่ยอาจยุบแผนกโทรศัพท์มือถือ จนทำให้ราคาเครื่องหัวเว่ยมีความผันผวนสูงในตลาดขณะนี้

สำหรับ 5G หัวเว่ยยืนยันว่า ยังไม่เห็นผลกระทบใดต่อธุรกิจ 5G ทั่วโลก จากคำสั่งแบนของสหรัฐอเมริกา


กำลังโหลดความคิดเห็น