xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป) ครั้งแรกของ "ชากะเพรา" สร้างมูลค่าเพิ่มผักพื้นบ้าน ส่งออกหลายประเทศ

เผยแพร่:





ปัจจุบัน เห็นการเปลี่ยนแปลงของเกษตรกรในยุค 4.0 มากขึ้น โดยเฉพาะSME ด้านการเกษตร เพราะธุรกิจที่ยั่งยื่นในสถานการณ์แบบนี้ ก็คงจะต้องยกให้กับ ธุรกิจด้านการเกษตร วันนี้ มีผู้ประกอบการธุรกิจด้านการเกษตร และเจ้าของสวนกล้วยหอมทอง และเจ้าของโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตร ที่ได้นำเทคโนโลยีนวัตกรรมเข้ามาช่วยยกระดับสินค้าเกษตรให้สามารถตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุและกลุ่มคนรักษ์สุขภาพ

นายพารณ แก้วประกายแสงกุล ผู้จัดการฝ่ายผลิต


จากโรงงานรับจ้างผลิต สู่เจ้าของแบรนด์ โก เซ็น กะ

สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ด้านการเกษตร ที่นำเสนอในครั้งนี้ คือ บริษัท ไบโอฟาร์มอินเตอร์เนชั่ลแนล จำกัด เป็นโรงงานผลิตและแปรรูปสินค้าเกษตรในรูปแบบของการอบแห้งเป็นชิ้น และการทำเป็นผง และยังเป็นเจ้าของสวนกล้วยหอมทอง ที่จังหวัดปทุมธานี

นายพารณ แก้วประกายแสงกุล ผู้จัดการฝ่ายผลิต บริษัท ไบโอฟาร์มอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ทายาทรุ่นที่ 2 เล่าว่า บริษัทของเรา เป็นโรงงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการแปรรูปพืชผลทางการเกษตร ในรูปแบบของการอบแห้ง และการทำเป็นผง โดยเฉพาะการทำเป็นผลิตภัณฑ์ผง เรามีความถนัดมาก ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ เราทำได้ทั้งหมด ที่ผ่านมา รับจ้างผลิตให้กับเกษตรกร และผู้ประกอบการหลายรายทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนล่าสุด คิดว่า ควรที่จะมีผลิตภัณฑ์ของเราเอง จนได้โปรดักส์ออกมา 2 ตัว นั่นคือ กล้วยหอมทองผง และ ชากะเพรา




สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิตการเกษตรคัดทิ้ง

ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นของการมาทำกล้วยหอมทองผง ในครั้งนี้ เริ่มมาจาก เราทำสวนกล้วยหอมทองมาก่อนหน้านี้แล้ว และปัญหาของการขายกล้วยหอม จะขายดีในช่วงเทศกาล การขายผลในช่วงเทศกาลจะขายได้เฉพาะผลที่สวยๆ ผลใหญ่เท่านั้น ส่วนที่เหลือผลที่เล็ก พอหมดเทศกาลตลาดไม่รับซื้อ ถูกตีกลับ เราสูญเสียตรงนี้ไปเยอะมากในแต่ละปี ซึ่งต้องหาวิธีลดการสูญเสียตรงนี้ให้ได้ โดยต้องหาทางแปรรูป

โดยได้เข้าไปปรึกษา ทางสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ซึ่งอาจารย์แนะนำให้ร่วมกับ โครงการITAP ไอแทป เพื่อช่วยหาทางในการแปรรูปกล้วยหอมทองในส่วนที่ต้องถูกคัดทิ้งในครั้งนี้ และจากงานวิจัย อาจารย์ และทีมITAP พบว่ากล้วยหอมทองมีส่วนผสมของแป้งอยู่เยอะมาก น่าจะทำนำมาทำแป้งที่ใช้แทนแป้งสาลีที่ใช้ในวงการอุตสาหกรรมเบเกอรี่ได้ ซึ่งทางทีมอาจารย์จาก สจล. ได้ร่วมกันพัฒนาอยู่ถึง 3 เดือน กว่าจะได้ผงกล้วยหอมทองที่ดี และมีแป้ง และโภชนาการอยู่ครบ มีน้ำตาล และแคลอรี่ต่ำ


หลังจากที่ได้ผลิตภัณฑ์ผงแป้งกล้วยหอมทอง ได้นำไปให้ทางโรงแรม ได้ทดลองทำเบเกอรี่ ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ แต่ปัญหา ที่ไม่สามารถทดแทนแป้งสาลีในระดับอุตสาหกรรมได้ เพราะราคาผงแป้งกล้วยหอมทองราคาสูงกว่าแป้งสาลีมาก ถ้านำไปทำเบเกอรี่ ต้นทุนก็จะสูงมาก แต่ยังมีช่องว่างทางการตลาดอยู่ที่ จุดเด่นของผงแป้งกล้วยหอมทอง มีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติก คือ เป็นอาหารที่ช่วยในการย่อยทำให้ระบบขับถ่ายดี ซึ่งคนที่แพ้กลูเตนในแป้งสาลีก็จะสามารถรับประทานได้ และดีต่อสุขภาพเพราะมีน้ำตาลและแคลอรี่ต่ำ ไม่มีกลูเต็น จึงเหมาะกับคนที่ต้องการทำเบเกอรี่เพื่อคนรักษ์สุขภาพ หรือ ผู้บริโภคที่แพ้กลูเตนในแป้งสาลีก็จะรับประทานได้ ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่จำนวนไม่น้อย




ครั้งแรก การนำ กะเพราผักสมุนไพรพื้นบ้านมาทำ “ชา”

นอกจากผงแป้งกล้วยหอมทอง บริษัทไบโอฟาร์มอินเตอร์เนชั่นแนล ยังมีผลิตภัณฑ์ “ชากะเพรา” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรก ที่บริษัทเริ่มทำผลิตภัณฑ์แบรนด์ของตัวเอง  เพราะด้วยกะเพราเป็นพืชผลการเกษตรที่พบได้ทั่วไป ที่ไหนก็ปลูกกะเพรา เป็นวัตถุดิบที่หาง่าย และด้วยคุณสมบัติทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพของกะเพรา เป็นเหตุผลที่เราเลือกที่จะลองทำกะเพราอบแห้ง และเราก็ได้ ชากะเพรา ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกของโรงงาน ผลตอบรับออกมาค่อนข้างดี ได้มีการดิวกับลูกค้าใน 3 ประเทศ คือ เยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ และออสเตรเลีย


ทั้งนี้ ที่ประเทศเยอรมัน คุ้นเคยกับกะเพราสายพันธุ์จากประเทศไทยเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมา เขาได้มีการว่าจ้างให้โรงงานของเราผลิตกะเพราที่เป็นเกร็ดที่นำไปใช้ปรุงอาหาร ส่งให้อยู่แล้ว พอทำชากะเพรา ทางเราก็นึกถึงคู่ค้าจากประเทศเยอรมัน ซึ่งตอนนี้ ได้ส่งออกชากะเพราไปทั้ง 3 ประเทศ และมีแผนที่จะส่งออกไปอีกหลายประเทศ เพราะคนส่วนใหญ่รู้จัก และทราบถึงคุณสมบัติของกะเพราจากประเทศไทยเป็นอย่างดี

สำหรับวัตถุดิบในการนำมาทำชากะเพรา ในครั้งนี้ ทางโรงงานได้รับซื้อมาจาก กลุ่มเกษตรกรที่ทำคอนเท็กฟาร์มมิ่งกันเท่านั้น โดยปัจจุบันต้องใช้กะเพรามากถึงวันละ 300 กิโลกรัม ทำให้โรงงานต้องหาคอนเท็กฟาร์มมิ่ง กับเกษตรกรโดยทางบริษัทเข้าไปวางแผนการปลูกเพื่อที่เราจะได้กะเพราซึ่งมีคุณสมบัติอย่างที่ต้องการ คือ ต้องไม่ใช้สารเคมี หรือ ยาฆ่าแมลง เพราะกะเพราที่ได้จะนำไปทำชาเพื่อสุขภาพจะต้องไม่มีสารตกค้าง และเป็นสายพันธุ์ที่เราต้องการ เพื่อให้กลิ่นความหอมของ ชาอย่างที่ตลาดต้องการ

“โดยในช่วงแรก เริ่มจากเดินหาในตลาดก่อน และ ได้ไปรู้จักกับผู้ปลูกกะเพรา ซึ่งหลังจากนั้นได้มีการทำข้อตกลงร่วมกัน ก่อนที่จะตกลงรับซื้อกะเพราจากเกษตรกรรายนั้น ซึ่งทุกครั้งผลผลิตกะเพราที่ส่งมาที่โรงงานจะต้องผ่านการตรวจสอบว่า ไม่มีสารเคมี หรือ ยาฆ่าแมลงตกค้าง  ซึ่งเกษตรกรที่ปลูกกะเพราส่งให้เราสามารถปฏิบัติอย่างที่ทางโรงงานเราต้องการได้ซื้อขายกันมา มาตลอดจนถึงปัจจุบัน”




ทำไมถึงเลือกกะเพรา มาทำ “ชา”

สำหรับกะเพราเป็นพืชที่หลายคนคุ้นเคย แต่หลายคนมองข้ามคุณสมบัติหลายข้อของกะเพรา ด้วยเหตุนี้เอง บริษัทไบโอฟาร์มอินเตอร์เนชั่ลแนล ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการแปรรูปสินค้าเกษตร ทำให้เขาคิดนำกะเพรามาแปรรูป เป็นชา ด้วยเทคโนโลยีความร้อนจากไอน้ำ ทำให้คุณสมบัติ สารอาหารต่างๆที่อยู่ในกะเพรายังคงอยู่ถึง 80% สร้างมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่า จะได้ชากะเพรา ที่มีคุณประโยชน์ เช่นเดียวกับการรับประทานกะเพราสด

ข้อดีของการนำกะเพรามาแปรรูป สำหรับเกษตรกร คือ กะเพราพืชพื้นฐาน ที่หาได้ง่าย กะเพรามีคุณสมบัติทางยาหม้อสมุนไพรโบราณ เดิมคนโบราณนำกะเพรามาต้มดื่ม เพื่อลดความดันสำหรับคนเป็นความดันโลหิตสูง และดื่มเพื่อเป็นยาระบายสำหรับคนท้องผูก และกะเพราเป็นสมุนไพรที่ช่วยคลายเครียด เพราะในกะเพราจะมีน้ำมันหอมระเหย เมื่อสูดดมเข้าไปก็จะรู้สึกผ่อนคลาย ฯลฯ ซึ่งในตลาดเองยังไม่มีผู้นำกะเพรามาทำชาจำหน่าย ทำให้ยังไม่มีข้อมูลด้านการตลาดสำหรับลูกค้าคนไทย ประกอบกับเราเองเริ่มทำตลาดชากะเพราได้ 2 เดือน ส่วนลูกค้าต่างประเทศ เนื่องจากทางบริษัทรับจ้างผลิตสินค้าให้ลูกค้าต่างประเทศ ทำให้รู้ทิศทางความต้องการของตลาดในบางประเทศ




ความสำเร็จ ของธุรกิจการเกษตรในมุมมอง yong smart farmer

“พารณ” กล่าวถึงการทำธุรกิจ ความสำเร็จ และกลยุทธ์ ของบริษัทว่า ต้องรู้จักใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ ให้คุ้มค่า เพราะทรัพยากรตามธรรมชาติ ถ้าใช้อย่างไม่ระมัดระวัง ก็อาจจะหมดไปได้ อย่างมองข้ามทรัพยากรที่สูญเสีย เพราะถ้าเราได้คิดนำมาสร้างมูลค่าพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ได้ ความสำคัญของการทำธุรกิจในยุคนี้ คือ การที่เราต้องไม่หยุดคิด ต้องพัฒนาไปเรื่อย เพราะทุกเวลาคู่แข่งของเราก็คิด ถ้าเราหยุดคิดก็จะแพ้ไปอีกหนึ่งก้าว และครั้งนี้ ต้องขอบคุณ ทางธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME D BANK) ที่เข้ามาช่วยซัพพร็อตเรื่องเงินทุน ทำให้สร้างสภาพคล่องทางการเงินให้กับทางโรงงาน เพราะบางครั้งถ้าต้องนำเงินมาลงทุนเอง ก็คงจะไม่ได้ก้าวมาถึงจุดนี้ได้


ติดต่อ โทร.08-8696-2200 ,FB:gosenga


* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
SMEs manager



กำลังโหลดความคิดเห็น