xs
xsm
sm
md
lg

WHA จ่อผุดนิคมฯ แห่งที่ 2 ในเวียดนาม หวั่นหั่นเป้าขายที่ดินลงอีก 200-300 ไร่

เผยแพร่:



WHA เตรียมผุดนิคมฯ แห่งใหม่ที่เวียดนาม พื้นที่ 2 หมื่นไร่ ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า รองรับการย้ายฐานการลงทุนจากต่างประเทศ ส่อปรับลดเป้าขายที่ดินนิคมฯ ปีนี้ลงอีก 200-300 ไร่ หากไทยยังไม่สามารถเปิดประเทศได้

น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนลงทุนทำนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 2 ในเวียดนาม อยู่ทางใต้ของเมืองฮานอย ขนาดพื้นที่ 2 หมื่นไร่ ขณะนี้ทีมงานที่อยู่ในเวียดนามอยู่ระหว่างการเจรจา หากมีการเปิดให้เดินทางระหว่างประเทศได้ก็จะเดินทางไปเจรจารายละเอียดต่างๆ คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 ปีจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้

โดยการลงทุนนิคมฯแห่งใหม่ในเวียดนามเพื่อรองรับการย้ายฐานการลงทุนจากจีนมายังเวียดนามหลังจากถูกกดดันจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน รวมทั้งการย้ายฐานจากทุนญี่ปุ่นและไต้หวัน ซึ่งมองว่าสงครามการค้าและโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้เกิดการย้ายฐานการลงทุนจากจีนมายังภูมิภาคนี้

ปัจจุบันในเวียดนาม บริษัทฯ ได้ลงทุนเขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 1 เหงะอาน พบว่ายังคงดึงดูดการลงทุนจากลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมาได้ต้อนรับลูกค้ากลุ่มแรกจากจีน ญี่ปุ่น และไทย โดยมีลูกค้าดำเนินการซื้อขายที่ดินไปแล้วกว่าครึ่งหนึ่งของพื้นที่ขายในส่วนแผนงานที่ 1 ของเขตอุตสาหกรรมฯ เฟสที่ 1 ซึ่งมีพื้นที่จำนวน 145 เฮกเตอร์

น.ส.จรีพรกล่าวต่อไปว่า ตามที่บริษัทฯ ได้ปรับลดเป้าหมายการขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรมในปี 2563 จากเดิม 1,400 ไร่ เหลือเพียง 900ไร่ มาจากการขายที่ดินนิคมฯในไทย 600 ไร่ และเวียดนาม 300 ไร่ จากผลกระทบโควิด-19 แต่หากไทยยังไม่สามารถเปิดประเทศให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาได้ใน 2 เดือนข้างหน้านี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อยอดขายที่ดิน ทำให้บริษัทต้องปรับลดเป้าการขายที่นิคมฯ ลงอีก 200-300 ไร่ หรือทั้งปี 2563 บริษัทขายที่ดินนิคมฯได้แค่ 600-700 ไร่ จากครึ่งปีแรกนี้ขายที่ดินได้เพียง 109 ไร่

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปีนี้บริษัทฯ จะมีการขายที่ในนิคมฯ ได้ต่ำกว่าเป้าหมาย แต่ก็รับรู้รายได้จากส่วนอื่นเข้ามาเพิ่มเติม ทำให้ภาพรวมรายได้ในปี 2563 จะใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำได้ประมาณ 13,385 ล้านบาท ซึ่งปรับลดลงจากเป้าเดิมที่คาดจะเติบโต 15%

โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าครึ่งปีหลังนี้จะดีกว่าครึ่งปีแรกแน่นอน มาจากการรับรู้รายได้จากการขาย Data Center ซึ่งร่วมทุนกับบริษัทอื่นจำนวน 1 แห่ง และการขายสินทรัพย์เข้าทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) และทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) มูลค่ารวมกว่า 4 พันล้านบาทในไตรมาส 4 ปีนี้    
ส่วนปี 2564 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตขึ้นตัวเลข 2 หลัก เรื่องจากมองภาพรวมเศรษฐกิจดีกว่าปีนี้ และเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายจะเห็นการลงทุนจากต่างประเทศทั้งจีน ญี่ปุ่น ไต้หวันย้ายฐานการผลิตมายังไทยและเวียดนามเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทมั่นใจว่าปีหน้าจะสามารถขายที่ดินในนิคมฯ ได้มากกว่า 1,000 ไร่
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเป้างบลงทุน 5 ปี 5 หมื่นล้านบาท โดยมีปีนี้บริษัทได้ปรับลดงบรายจ่ายลงทุน (Capex) จาก 9,000 ล้านบาท เหลือ 5,300 ล้านบาท โดยมีการเลื่อนใช้จ่ายเงินไปเป็นปีถัดไป ไม่ว่าจะเป็นการซื้อที่ดินเพื่อรองรับการขยายธุรกิจโลจิสติกส์และนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งค่าใช้จ่ายบางรายตัวก็เลื่อนไปเป็นปีหน้าแทน
กำลังโหลดความคิดเห็น