ผู้จัดการรายวัน 360 - OTT มาแรง โอกาสรอดผู้ผลิตคอนเทนต์ไทย “ทีวีธันเดอร์” เนื้อหอม หลายแพลตฟอร์มรุมจีบเพียบ ปีนี้จัดซีรีส์ 7 เรื่องลง OTT ส่วนฟรีทีวียังไม่ทิ้ง ปีหน้าเตรียมปล่อย 2 รายการใหม่ลงจอ ด้วยงบผลิตคอนเทนต์เพิ่มขึ้น 20% มั่นใจปีหน้ารายได้กลับมาโต จากปีนี้เจอพิษโควิด-19 ทำรายได้ติดลบ 20% เป็นปีแรก
นางภัทรภร วรรณภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVT เปิดเผยว่า กระแสนิวนอร์มัลทำให้การรับชมโทรทัศน์และการใช้สื่อสังคมออนไลน์เติบโตขึ้น ทำให้ตลาดผู้ผลิตคอนเทนต์เติบโตตามกระแสนิวนอร์มัลที่ผู้คนรับชมโทรทัศน์มากขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ทำให้เราเชื่อมั่นว่าตลาดการผลิตคอนเทนต์มีศักยภาพที่จะเติบโตได้ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลดีต่อ ทีวี ธันเดอร์ ในระยะยาว
“จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมาส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภค คนอยู่บ้านมากขึ้น ต้องเวิร์กฟอร์มโฮม ทำให้เกิดการดูทีวีเพิ่ม เรตติ้งทีวีก็เพิ่มตามไปด้วย เช่นเดียวกับกลุ่ม OTT ที่เติบโตขึ้นอย่างมากเช่นกัน จึงมองหาผู้ผลิตคอนเทนต์ในไทย โดยเฉพาะการผลิตซีรีส์เป็นที่ต้องการสูงมาก ทีวีธันเดอร์เป็นรายต้นๆ ที่ถูกทาบทามและถูกจ้างผลิตคอนเทนต์มากขึ้นในแพลตฟอร์ม OTT นี้”
ด้านนายณฐกฤต วรรณภิญโญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้เข้ามาให้ความสำคัญต่อช่องทาง OTT ตั้งแต่ 3 ปีก่อน ทั้ง AIS play และไลน์ทีวี ปัจจุบันได้ขยายไปในหลายๆ แพลตฟอร์มมากขึ้น อย่าง WeTV, NetFlix, POPS และ Viu ส่วนหนึ่งเกิดจากโควิด-19 ที่ช่วยเร่งให้ OTT ในไทยเติบโตได้เร็วขึ้น และทำให้ตลาดคอนเทนต์ไทยมีความต้องการสูงขึ้นในแพลตฟอร์มเหล่านี้ ซึ่งทีวีธันเดอร์ถือเป็นเบอร์แรกๆ ที่กลุ่ม OTT เข้ามาเจรจาพูดคุยให้ผลิตคอนเทนต์ให้ โดยเฉพาะซีรีส์
ส่งผลให้ปีนี้ไปจนถึงปีหน้าบริษัทจะเน้นผลิตคอนเทนต์ซีรีส์ในช่องทาง OTT เป็นหลัก รวมกว่า 7 เรื่อง เช่น Manner of Dead พฤติการที่ตาย ซึ่งเป็นซีรีส์สายวาย ป้อนให้กับทาง WE TV ทั้งนี้ ซีรีส์วายของทีวีธันเดอร์ถือเป็นรายแรกๆ ที่เกิดขึ้นในไทยราว 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่อยู่บนแพลตฟอร์ม OTT และดังในต่างประเทศอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในจีน ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย เป็นต้น
ส่วนรายการทางฟรีทีวีของบริษัทเองนั้น ปัจจุบันมีอยู่ 3 รายการ คือ เทค มี เอาท์ ไทยแลนด์, มาสเตอร์คีย์ และละครหลวงตามหาชน ที่ออกอากาศทางช่อง 3 ทั้งหมด ในปีหน้ากำลังเจรจากับทางช่องอื่นๆ อยู่ คาดว่าจะเห็นอย่างน้อย 2 รายการ นอกจากนี้ ทีวีธันเดอร์ยังได้ผลิตรายการและละครป้อนให้อีกหลายช่อง ไม่ว่าจเป็นช่อง 8, PPTV, ไทยรัฐทีวี และ True 4 U รวมถึงยังมีคอนเทนต์ทางช่องทางออนไลน์ของตัวเอง อย่างเฟซบุ๊ก และยูทูป ซึ่งปัจจุบันช่องทางยูทูปมีตัวเลขผู้ติดตามอยู่ที่ 5.79 ล้านคน เฟซบุ๊กแฟนเพจ TV Thunder มีผู้ติดตาม 2.2ล้านคน Twitter 4,610 คน ยอดผู้ติดตามใน Instagram 92,000 คน และแฟนเพจรายการ Take Me Out Thailand มีผู้ติดตาม 7.8 ล้านคน
“ภาพรวมของการลงทุนในการผลิตคอนเทนต์จากนี้ไปจนถึงปีหน้าจะต้องใช้มากขึ้นราว 20% ถือเป็นปีที่กลับมาลงทุนสูงอีกครั้ง โดยเฉพาะในเรื่องของการผลิตคอนเทนต์ป้อนให้กับ OTT โดยมองว่าในปี 2564 รายได้ในส่วนของฟรีทีวี และ OTT จะอยู่ในสัดส่วน 50% เท่าๆ กัน ขณะที่ช่องทางออนไลน์น่าจะอยู่ที่ 5% หรือในปีหน้าจะกลับมามีรายได้เติบโตอีกครั้ง จากปีนี้คาดว่าจะติดลบ 20% จากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมาทีวีธันเดอร์เติบโตต่อเนื่องมาโดยตลอด ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่มีตัวเลขติดลบ” นายณฐกฤตกล่าวสรุป
