สหไทย เทอร์มินอล คาดปีนี้รายได้รวมหด 10% จากปีก่อน เหตุรายได้จากกลุ่มบริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ฯ ยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบโควิด-19 พร้อมกับเลื่อนการเปิด 2 โครงการไปปี 64
นายบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สหไทย เทอร์มินอล (PORT) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 2563 จะลดลง 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,558.91 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้กลุ่ม TERMINAL ซึ่งเป็นการให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ครบวงจรปรับลดลง โดยในไตรมาส 2/3563 มีการฟื้นตัวต่ำกว่าที่คาดหมายไว้จากผลกระทบโควิด-19 แต่ในไตรมาส 3 นี้เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น โดยลูกค้ากลุ่มออโต้ที่นำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบในไทยเริ่มกลับมานำเข้ามากขึ้น
ส่วนธุรกิจขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางรถ (BTS) ในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้มีการขยายตัวดีขึ้นมากชดเชยรายได้จากการขนส่งทางเรือที่หดหายไป และคาดว่าในครึ่งปีหลังจะดีต่อเนื่อง โดยบริษัทจะหารูปแบบการให้บริการที่เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าผลประกอบการในครึ่งปีหลังนี้จะดีกว่าช่วงครึ่งแรกปี 2563 เนื่องจากปริมาณการนำเข้าและส่งออกสินค้าจะกลับมาเติบโตใกล้เคียงปกติก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19
นายบัญชัยกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการขยายธุรกิจท่าเรือพาณิชย์แห่งที่ 3 ในนามบริษัท บางกอก ริเวอร์ เทอร์มินอล จำกัด (BRT) ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 38% ว่า โครงการดังกล่าวคาดว่าจะเลื่อนการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์จากเดิมช่วง 6 เดือนแรกปี 2564 เป็นครึ่งหลังปี 2564
ขณะที่โครงการขยายศูนย์กระจายสินค้าโลจิสติกส์แบบครบวงจร โดยลงทุนใน บริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด (BLP) ซึ่งร่วมทุนกับบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT จากเดิมจะเปิดให้บริการในปลายปีนี้ได้เลื่อนไปเป็นปี 2564 แทน เนื่องจากเห็นว่าไม่จำเป็นต้องเร่งเปิดดำเนินการเพราะทุกอย่างชะลอไปหมด จึงเลื่อนการเปิดออกไปก่อน