ผู้โดยสารสนามบินดอนเมืองฟื้น คาดหยุดยาว 4-7 ก.ย.ประชาชนเดินทางในประเทศเกือบ 5หมื่นคน/วัน ขณะที่ช่วงก่อนมีโควิด-19 ผู้โดยสารเฉลี่ย 7 หมื่นคน/วัน “สัมพันธ์” มั่นใจพร้อมเปิดรับต่างชาติ จัดอาคารในประเทศหลังเก่า แยกพื้นที่คัดกรอง
ร.ท.สัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ สนามบินดอนเมืองมีผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ 38,000 คน/วัน โดยเป็นผู้โดยสารภายในประเทศโดยบางวันมีผู้โดยสารสูงสุดถึง 45,000 คน/วัน หากเปรียบเทียบจากปกติก่อนที่จะเกิดโรคโควิด-19 จำนวนผู้โดยสารในประเทศอยู่ที่ประมาณ 70,000 คน/วัน โดยหากรวมผู้โดยสารระหว่างประเทศ จะมีเฉลี่ยถึง 120,000 คน/วัน
โดยช่วงวันหยุดยาวชดเชยสงกรานต์ วันที่ 4-7 ก.ย.นี้ คาดว่าจำนวนผู้โดยสารประมาณ 45,000-50,000 คน/วัน โดยมีสายการบินของทำการบินเส้นทางภายในประเทศประมาณ 230-340 เที่ยวบิน ซึ่งเที่ยวบินเพิ่มจากปกติไม่มาก 10-20 เที่ยวบิน ส่วนจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นมาจากอัตราส่วนบรรทุก (Cabin Factor)
“คาดว่าหากไม่มีการระบาดในประเทศไทยรอบที่ 2 จำนวนผู้โดยสารภายในประเทศจะกลับไปที่ 70,000 คน/วัน ภายในสิ้นปี 2563 แต่หากมีการระบาดรอบที่ 2 อาจจะทำให้ต้องยืดออกไปอีก”
ทั้งนี้ ทอท.ยืนยันถึงความพร้อมของมาตรการคัดกรองของสนามบิน ในการรองรับการให้บริการ ตามมาตรการที่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขกำหนด เช่น ต้องใส่หน้ากากาอนามัย ต้องมีอุณหภูมิไม่เกิน 37.3 องศาเซลเซียส พร้อมกันนี้ได้เปิด Bus Gate ที่ PIER 5 เพิ่ม ทำให้ผู้โดยสารภายในประเทศได้รับความสะดวกเพิ่มขึ้น ขณะที่มีโครงการเปลี่ยนสะพานเทียบเครื่องบินเป็นตัวใหม่ทั้งหมด 33 ตัว ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ย. 2563 ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกกับผู้โดยสารและประสิทธิภาพความปลอดภัยในการใช้งานของสะพานเทียบเนื่องจากของเดิมมีสภาพเก่าเพราะใช้งานนานมาก
ร.ท.สัมพันธ์กล่าวว่า ทอท.มีความพร้อมในการการรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติ กรณีรัฐบาลเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น รูปแบบจับคู่เที่ยว (Travel Bubble) โดยได้เตรียมพื้นที่ Bus Gate PIER 6 ที่อาคารผู้โดยสารหลังเก่า เป็นจุดคัดกรองผู้โดยสารระหว่างประเทศ ซึ่งมีห้องปฏิบัติการหรือแลปตรวจหาเชื้อ COVID-19 จำนวน 2 เครื่อง โดยมีขีดความสามารถตรวจคัดกรองได้ 200 คน/3 ชม. หรือเทียบเท่ากับจำนวนผู้โดยสาร 1เที่ยวบิน ดังนั้นเฉลี่ย1 วัน รับผู้โดยสารได้ประมาณ 800-1,000 คน/วัน หรือประมาณ 8 เที่ยวบิน
“ปัจจุบันที่ดอนเมืองมีแล็บ 2 เครื่อง ใช้เวลาตรวจเชื้อ 3-4 ชั่วโมงต่อผู้โดยสาร 200 คน หาก 11 ไฟลต์มี 200 คน ใช้เวลา 3-4 ชม. การจัดตารางบินจะต้องให้สอดคล้องกับศักยภาพ แต่หากต้องการให้เร็วขึ้น ทางกระทรวงสาธารณสุข อาจจะต้องเพิ่มเจ้าหน้าและแล็บ เพราะศักยภาพของสนามบินรองรับได้มากกว่านี้ แต่คอขวดอยู่ที่การตรวจแล็บ”
โดยก่อนหน้านี้ ทอท.ได้นำเสนอกรณีการเปิดรับต่างชาติ ควรแยกกลุ่มประเทศเสี่ยงมาก, เสี่ยงปานกลาง, เสี่ยงน้อย เพื่อกำหนดมาตรการคัดกรองในแต่ละกลุ่ม แตกต่างกันไปตามความเสี่ยงของแต่ละประเทศ ซึ่งสนามบินมีความพร้อมรองรับ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องกำหนดมาตรการร่วมกัน
