ทอท.คงสิทธิ์ให้การบินไทยประกอบธุรกิจในสนามบินจนครบสัญญาแม้หลุดรัฐวิสาหกิจ หวั่นการบินไทย ทำไม่ไหว เตรียมดันบริษัทลูกรับช่วงต่อไม่ให้กระทบบริการ ส่วนสิทธิ slot การบินต้องขอดูแผนละเอียดหลัง 17 ส.ค.
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยผลกระทบกรณีที่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เข้าสู่การฟื้นฟูกิจการผ่านศาลล้มละลายกลาง ซึ่งหนี้ที่การบินไทยมีต่อ ทอท.ต้องพักชำระไปด้วย ซึ่งในส่วนของ ทอท.ได้ตั้งคณะทำงาน 3 ชุด มีการพิจารณาเรื่องการเงิน โดยการบินไทยมีหนี้ 2 ส่วน คือ หนี้สินหมุนเวียน ประมาณเดือนละ 700-800 ล้านบาท และหนี้ข้อพิพาททางแพ่งประมาณ 2,000 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นหนี้จากข้อพิพาทตั้งแต่ปี 2555 ประเด็นค่าเช่าพื้นที่ฝ่ายช่างสนามบินดอนเมือง ซึ่งมีการปรับอัตราการเช่าใช้สนามหญ้าเป็นการเช่าอาคาร ตามที่คณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) กำหนด
ส่วนของการปฏิบัติการบินของการบินไทยนั้นต้องรอรายละเอียด เพราะยังไม่รู้ว่าการบินไทยจะมีเครื่องบินในฝูงเพื่อใช้งานกี่ลำ จะมีเส้นทางการบินในยุโรป หรือเส้นทางต่างๆ มีการจัดสรรเวลาการบิน (slot) อย่างไร ดังนั้น ในส่วนของการจัดสรร slot, เคาน์เตอร์, พื้นที่ต่างๆ ในสนามบินจะต้องหยุดไว้ก่อนเพื่อรอแผนรายละเอียดที่ชัดเจนของการบินไทยหลังวันที่ 17 ส.ค.
วันที่ 17 ส.ค. ที่ศาลฯ นัดไต่สวนนั้น ทอท.ในฐานะเจ้าหนี้จะไม่คัดค้านใดๆ ซึ่งหลังจากนั้นการบินไทยจะต้องจัดทำแผนโดยละเอียดภายใน 3 เดือน ก.ย.-พ.ย. 63
ทั้งนี้ เรื่องหนี้ค้างชำระและหนี้พิพาท รวมถึงการปฏิบัติการบินไม่น่าเป็นห่วง แต่ที่ ทอท.กังวลเป็นเรื่องความต่อเนื่องของธุรกิจที่การบินไทยเป็นผู้ประกอบการในสนามบิน โดยมี 4 ธุรกิจ ได้แก่ ครัวการบิน, บริการภาคพื้น (Ground Service) ศูนย์ซ่อมเครื่องบิน (MRO), บริการคลังสินค้า (Cargo) ซึ่ง ทอท.ได้ประเมินความเสี่ยงกรณีผลกระทบที่จะทำให้การให้บริการหยุดชะงัก เช่น ธุรกิจที่มีการบินไทยให้บริการเพียงรายเดียว หรือมีให้บริการน้อย หากการบินไทยหยุดบริการรายที่เหลือไม่มีศักยภาพบริการเพียงพอ รวมถึงที่หมดสัญญาแล้วต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ
ทอท.ได้เตรียมความพร้อมในการจัดหาผู้ประกอบการรายใหม่เข้าดำเนินการเพื่อให้มีความต่อเนื่อง โดยเฉพาะคาร์โก้ และบริการภาคพื้น กรณีที่การบินไทยมีปัญหา เพื่อไม่ให้กระทบต่อบริการภายในสนามบิน ซึ่งขณะนี้ ทอท.ได้มีการตั้งบริษัทลูก บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOTGA) เข้าไปให้บริการภาคพื้นที่สนามบินภูเก็ตเพิ่มอีก 1 บริษัทเพื่อให้เป็นทางเลือกแล้ว เป็นต้น
ในขณะเดียวกัน ได้หารือกับการบินไทยในการร่วมมือกันทำธุรกิจต่อไป ทั้งการเข้ามาร่วมทุน หรือซื้อหุ้นในธุรกิจในอนาคตได้
อย่างไรก็ตาม ทอท.ได้สอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กรณีสัญญาที่การบินไทยได้รับสัญญาเป็นผู้ประกอบการในฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ เมื่อการบินไทยหลุดพ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจแล้วจะมีผลต่อสัญญาที่ยังไม่หมดอายุหรือไม่ ซึ่ง สคร.ตอบเป็นวาจาเบื้องต้นว่า หากสัญญายังไม่ครบกำหนดให้ดำเนินการไปตามเดิมก่อนจนครบสัญญา