เตรียมเฮ! “สนธิรัตน์” คิกออฟ 1 ก.ค.เปิดซื้อไฟโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนควิกวิน

"สนธิรัตน์" ลั่นเตรียมเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนฯ นำร่อง 100 เมกะวัตต์ หรือควิกวิน ทันที 1 ก.ค.นี้ เดินหน้าลงทุนกว่า 4 หมื่นล้านก่อนลุยระยะทั่วไป 600 เมกะวัตต์ เปิดซื้อ ต.ค.นี้ พร้อมเตรียมถกโซลาร์ภาคประชาชนรื้อเกณฑ์เอื้อเดินหน้า 29 มิ.ย.นี้

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 30 มิถุนายนนี้จะมีวาระการเห็นชอบแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP-ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1) ที่จะมีการบรรจุโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานเอาไว้ในแผนดังกล่าว ดังนั้นเมื่อผ่าน ครม.แล้วกระทรวงได้มอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ดำเนินการเปิดรับซื้อไฟฟ้าในโครงการดังกล่าวทันทีในระยะเร่งด่วน (ควิกวิน) 100 เมกะวัตต์ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 คัดเลือกเอกชนได้กลาง ส.ค.นี้ และจะลงนามได้ภายใน พ.ย.-ธ.ค.นี้

"ยืนยันว่าเข้า ครม.แน่นอนครั้งนี้และมั่นใจจะคิกออฟได้ทันที ซึ่งจะก่อให้เกิดการลงทุนและสร้างรายได้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในระยะแรกปี 63-65 ลงทุนประมาณ 4.1 หมื่นล้านบาท" นายสนธิรัตน์กล่าว

สำหรับโครงการทั่วไป 600 เมกะวัตต์นั้น กระทรวงฯ จะเร่งดำเนินการรับซื้อให้ได้ภายในเดือนตุลาคมนี้ และคาดว่าจะลงนามได้ภายในไตรมาส 1 ของปี 2564 นอกจากนี้ ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้กระทรวงพลังงานจะหารือร่วมกับผู้ประกอบการและภาคประชาชนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนโครงการโซลาร์ภาคประชาชนที่ก่อนหน้านี้มีการส่งเสริมให้ประชาชนติดตั้งการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาสำหรับประเภทบ้านที่อยู่อาศัย และที่เหลือรับซื้อในอัตรา 1.68 บาทต่อหน่วย ก็จะมาหาแนวทางถึงการขับเคลื่อนให้โครงการเดินหน้ามากขึ้นจากปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมโครงการค่อนข้างต่ำ

"ในส่วนของนโยบายปาล์มนั้น ได้มอบให้ บมจ.ปตท.รับซื้อ B100 ล่วงหน้า 30 ล้านลิตร เพื่อที่จะเป็นการกำหนดราคาบี 100 ให้สะท้อนไปยังราคาปาล์มถึงเกษตรกรที่สอดรับกัน ซึ่งขณะนี้กรมธุรกิจพลังงานได้นำร่องใช้ระบบบล็อกเชนซื้อขายนำร่องกับผู้ผลิต 3 แห่งแล้ว ซึ่ง ปตท.จะต้องรับซื้อกับผู้ที่ซื้อผ่านระบบนี้" นายสนธิรัตน์กล่าว


นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังานได้เห็นชอบจัดตั้ง บ. Innovation Holding ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ถือหุ้น 40%, บริษัท ราช กรุ๊ป ถือหุ้น 30% และบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ถือหุ้น 30% เพื่อเข้ามาช่วยสนับสนุนการพัฒนาไฟฟ้าในยุค Disruptive technology ผลักดันการพัฒนา E-Transportation โดยจะเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เห็นชอบ และเตรียมจดทะเบียนจัดตั้งได้ในปีนี้ ทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 300 ล้านบาท