xs
xsm
sm
md
lg

Ibusiness review : เติมเงินบัตรโดยสาร MRT ง่ายๆ ผ่านกรุงไทยเน็กซ์-ทรูวอลเล็ท

เผยแพร่:



สำหรับคนที่ใช้บริการรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที (MRT) สายสีน้ำเงินและสายสีม่วงเป็นประจำ ถ้าไม่อยากรอแถวซื้อเหรียญ ก็เลือกที่จะออกบัตรโดยสารไว้ใช้งาน เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง แต่ปัญหาก็คือ เวลาเติมเงินต้องไปที่ห้องออกบัตรโดยสาร หรือเครื่องออกบัตรโดยสาร ต้องเสียเวลาทำธุรกรรมที่ชั้นออกบัตรโดยสารนานขึ้นกว่าจะได้ขึ้นรถไฟฟ้า

แต่นับจากนี้อาจจะเสียเวลาเติมเงินน้อยลง โดยไม่ต้องใช้เงินสด เพราะการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดให้เติมเงินออนไลน์บัตรโดยสารเอ็มอาร์ทีได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ธนาคารกรุงไทย และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ TrueMoney Wallet แล้วนำบัตรไปแตะที่เครื่องปรับมูลค่าบัตร (AVM) ได้ทุกสถานี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป


รฟม. และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เพิ่มช่องทางเติมเงินในบัตรโดยสารรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ตอบสนองนโยบายสังคมไร้เงินสด ลดการสัมผัส ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยได้ติดตั้งเครื่องปรับมูลค่าบัตรโดยสาร (Activate Value Machine หรือ AVM) เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา

เครื่องปรับมูลค่าบัตร หรือ AVM จะติดตั้งภายในสถานี บริเวณใกล้กับเครื่องออกบัตรโดยสาร ทำหน้าที่ปรับมูลค่าบัตรจากบัญชีธนาคารหรือกระเป๋าเงินของผู้ให้บริการรายต่างๆ เติมมูลค่าลงไปในบัตรโดยสารให้พร้อมใช้งาน เนื่องจากบัตรโดยสารรุ่นดังกล่าวยังเป็นระบบปิด (Closed Loop) ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2558 ไม่สามารถอัปเดตยอดเงินในบัตรแบบออนไลน์ได้ทันที


บัตรโดยสารที่สามารถเติมเงินผ่านช่องทางออนไลน์ได้ คือ บัตรโดยสารรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที และเอ็มอาร์ที พลัส (MRT PLUS) หรือบัตรแมงมุม ได้ตั้งแต่บัตรบุคคลทั่วไป บัตรนักเรียน/นักศึกษา บัตรผู้สูงอายุ บัตรเด็ก บัตรโดยสารธุรกิจ (บัตรที่แจกโดยบริษัทห้างร้านต่างๆ) และบัตรร่วมธุรกิจ (เช่น บัตรเดบิตที่พ่วงกับบัตรแมงมุม) ยกเว้นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

สามารถเติมเงินขั้นต่ำ 100 บาท สูงสุดไม่เกิน 1,500 บาทต่อครั้ง มูลค่ารวมหลังเติมเงินในบัตรจะต้องไม่เกินมูลค่าสูงสุดตามที่บริษัทฯ กำหนด (ปัจจุบันบัตรเอ็มอาร์ที และเอ็มอาร์ที พลัส มูลค่าภายในบัตรสูงสุดต้องไม่เกิน 2,000 บาท) เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วต้องนำบัตรมาปรับมูลค่าที่เครื่อง AVM ภายใน 7 วัน หากไม่ดำเนินการระบบจะคืนเงินเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ


สำหรับการเติมเงินช่องทางแรก คือ แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT สำหรับผู้ที่มีบัญชีธนาคารกรุงไทยอยู่แล้ว แต่ถ้าใครไม่มีสามารถเปิดบัญชีใหม่ผ่านระบบ NDID โดยเข้าไปที่เมนู "เปิดบัญชีออนไลน์ด้วย NDID" แล้วเลือกธนาคารที่ลูกค้ามีบัญชีอยู่ เคยถ่ายภาพใบหน้าไว้เพื่อยืนยันตัวตน (ปัจจุบันมีอยู่ 6 ธนาคาร) เมื่อเปิดบัญชีสำเร็จแล้วสามารถรับเงินโอนได้ทันที

วิธีการเติมเงินผ่านแอปฯ Krungthai NEXT มีดังนี้

1. เข้าไปที่เมนู "เติมเงิน"
2. ใส่รหัส PIN 6 หลัก
3. เลือกบัญชีที่ต้องการเติมเงิน เลือก "เติมเงินเข้าบัตรโดยสารรถไฟฟ้า MRT (23750)"
4. กรอกหมายเลขบัตรโดยสาร 8 หลักที่ต้องการเติมเงิน (ตัวเลขพิมพ์สีทองบริเวณด้านหลังบัตร) แล้วกรอกจำนวนเงินที่ต้องการ
5. กด "ยืนยัน" เพื่อทำรายการเติมเงิน
6. ใส่รหัส PIN 6 หลักอีกครั้ง
7. เติมเงินสำเร็จ บันทึกรูปสลิปลงเครื่อง
8. ถ้าต้องการบันทึกเลขบัตรไว้ใช้เติมเงินครั้งต่อไป ให้กด "บันทึกรายการโปรด" แล้วตั้งชื่อรายการโปรด ไม่เกิน 20 ตัวอักษร

หลังเติมเงินสำเร็จ ก่อนใช้งานบัตรต้องนำบัตรไปปรับมูลค่าที่เครื่อง AVM ในสถานีรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีภายใน 7 วัน (ไม่อนุญาตให้ทำรายการเวลา 23.01-02.00 น. ของทุกวัน)

ข้อดีของการเติมเงินผ่านแอปฯ Krungthai NEXT คือ จะเติมเงินลงในบัตรโดยสารรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีให้ใครก็ได้ ขอแค่ทราบหมายเลขบัตรโดยสาร 8 หลักเท่านั้น แต่ผู้ถือบัตรต้องนำบัตรไปแตะที่เครื่องปรับมูลค่าบัตร (AVM) ทุกครั้งหลังเติมเงิน อีกทั้งไม่ต้องบันทึกข้อมูลบัตรก่อนเติมเงิน จึงเหมาะสำหรับเติมเงินให้สมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานเป็นครั้งคราว


การเติมเงินผ่านอีกช่องทางหนึ่ง คือ แอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ รองรับเฉพาะเงินในวอลเล็ท สามารถเติมเงินได้หลายช่องทาง เช่น ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ร้านค้าชั้นนำ ตู้เติมเงิน หรือเติมเงินผ่านช่องทางธนาคารต่างๆ 9 ธนาคารก็ได้ ดาวน์โหลดและสมัครใช้งานได้ฟรี ใช้ได้ทุกเบอร์ทุกค่าย ทั้งเอไอเอส ดีแทค หรือทรูมูฟ เอช

วิธีการเติมเงินผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet ต้องเริ่มจากการเพิ่มบัตรโดยสาร มีดังนี้

1. เข้าไปที่เมนู เติมเงินและจ่ายบิล เลือก "เติมบัตร MRT"
2. อนุญาตให้ MRT เข้าถึงข้อมูล เพื่อเปิดบริการเติมเงินเข้าบัตรโดยสาร MRT กด "ยอมรับ"
3. กด "เพิ่มบัตรโดยสาร"
4. ใส่รหัสหลังบัตร 8 หลัก ตั้งชื่อบัตรของคุณ (ไม่เกิน 20 ตัวอักษร ห้ามใช้อักขระพิเศษ) เช่น บัตรส่วนตัว บัตรของลูก ฯลฯ
5. ตรวจสอบข้อมูลของบัตรให้ถูกต้อง กด "ยืนยัน"
6. ระบบจะขึ้นข้อความ "ยินดีด้วย คุณทำการเพิ่มบัตรสำเร็จ"

ถ้าต้องการเพิ่มบัตรโดยสารอีกใบ ให้เข้าเมนู "เติมบัตร MRT" อีกรอบ ในช่อง "บัตรโดยสารของคุณ" ให้เลื่อนแล้วทำการเพิ่มบัตรโดยสารได้ หรือหากต้องการแก้ไขบัตร ให้กด "แก้ไข"


ส่วนการเติมเงินบัตรโดยสาร MRT มีวิธีง่ายๆ คือ

1. เข้าไปที่เมนู เติมเงินและจ่ายบิล เลือก "เติมบัตร MRT"
2. ระบบจะแสดงบัตรโดยสารของคุณ กรณีที่มีบัตรหลายใบให้เลื่อนไปทางซ้ายเพื่อเลือกบัตรที่ต้องการเติมเงิน กดเลือกจำนวนเงินที่ต้องการ แล้วกด "เติมเงิน"
3. ระบบจะแสดงยอดชำระ และช่องทางชำระเงิน (ปัจจุบันรองรับเฉพาะเงินในวอลเล็ทเท่านั้น บัญชีธนาคาร บัตรเครดิต/เดบิต ยังไม่สามารถใช้งานได้ในขณะนี้) แล้วกด "ชำระเงิน"

ระบบจะแสดงหน้าจอว่า "ทำรายการสำเร็จ" ให้นำบัตรโดยสารไปอัปเดตที่เครื่องปรับมูลค่าบัตรในสถานีรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที ภายในวันและเวลาที่กำหนด (7 วัน) หากไม่อัปเดตรายการภายในเวลาที่กำหนด ระบบจะคืนเงินเข้าวอลเล็ทโดยอัตโนมัติ

ข้อดีของการเติมเงินผ่านแอปฯ TrueMoney Wallet คือ ไม่ต้องมีบัญชีธนาคาร ไม่ต้องคอยกรอกหมายเลขบัตรโดยสารทุกครั้ง เพราะจะบันทึกลงในแอปฯ เก็บไว้ เมื่อต้องการเติมเงินเพียงแค่เลือกบัตรที่บันทึก แล้วเติมเงินตามจำนวนที่ต้องการได้เลย แต่ปัจจุบันยังไม่รองรับการเติมเงินบัตรโดยสารเอ็มอาร์ทีผ่านบัญชีธนาคาร และบัตรเครดิต/เดบิต


แม้การเติมเงินบัตรโดยสารรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีผ่านช่องทางออนไลน์ จะมีข้อดีเมื่อเทียบกับผ่านเครื่องออกบัตรโดยสาร หรือห้องออกบัตรโดยสาร แต่ก็ยังคงต้องเสียเวลาปรับปรุงมูลค่าบัตรทุกครั้งหลังเติมเงิน แม้จะใช้เวลาไม่ถึง 1 นาทีก็ตาม อีกทั้งมีข้อจำกัด ใบเสร็จรับเงินไม่สามารถขอได้ ใช้บัตรเครดิตไม่ได้ และไม่สามารถใช้ส่วนลดจากบัตรเครดิตหรือค่ายมือถือใดๆ ได้

ถึงกระนั้น การที่รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีเพิ่มช่องทางเติมเงินผ่านออนไลน์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และประชาชนคาดหวังว่าจะพัฒนาให้มีช่องทางเติมเงินที่หลากหลายและสะดวกรวดเร็วขึ้น แม้การใช้ชีวิตในเมืองกรุงฯ ปัจจุบันจำต้องพกบัตรรถไฟฟ้าหลายใบ บัตรรถเมล์ และสารพัดบัตรต่างๆ โดยยังไม่นำมารวมกันเป็นระบบเดียวก็ตาม

ปัจจุบัน บัตรโดยสารรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที (รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน) และเอ็มอาร์ที พลัส (รถไฟฟ้าสายสีม่วง) มีค่าธรรมเนียมออกบัตร 180 บาท ประกอบด้วย มูลค่าเงินในบัตร 100 บาท ค่ามัดจำบัตร 50 บาท จะได้รับคืนเมื่อบัตรหมดอายุและอยู่ในสภาพดี และค่าธรรมเนียมการออกบัตร 30 บาท สามารถติดต่อซื้อบัตรได้ที่ห้องออกบัตรโดยสารรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีทุกสถานี

หมายเหตุ : Ibusiness review ขอหยุดตีพิมพ์ 1 พฤษภาคม 2563 เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ และจะกลับมาพบกับผู้อ่านอีกครั้งสัปดาห์ถัดไป)

(เกาะกระแสธุรกิจ เศรษฐกิจสดใหม่ เรื่องราวการตลาดที่ใกล้ชิดผู้บริโภค กับ Ibusiness Review ที่นี่ที่เดียว! ทางเฟซบุ๊ก Ibusiness และเว็บไซต์ ibusiness.co)
กำลังโหลดความคิดเห็น