“แอมะซอน โก โกรเซอรี” ซูเปอร์มาร์เก็ตไร้แคชเชียร์แห่งแรกของแอมะซอนเปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อย ลูกค้าสามารถเลือกหยิบของที่ต้องการและเดินออกไปสวยๆ หล่อๆ โดยไม่ต้องรอคิวจ่ายเงินหรือแม้กระทั่งเปิดกระเป๋าสตางค์ ตอกย้ำสัญญาณว่า บริษัทอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่แห่งนี้กำลังมุ่งหน้าปฏิวัติอุตสาหกรรมซูเปอร์มาร์เก็ตมูลค่า 800,000 ล้านดอลลาร์อย่างจริงจัง และทำให้คู่แข่งเบอร์ใหญ่อย่างวอลมาร์ท, 7-อีเลฟเว่น และกระทั่งสตาร์ทอัพน้องใหม่ต้องเร่งปรับตัวให้ทันเกม
ในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งใหม่ที่เปิดให้บริการเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (25 ก.พ.) ที่เมืองซีแอตเติล บ้านเกิดของแอมะซอน ลูกค้าสามารถสแกนแอปบนสมาร์ทโฟนก่อนเดินเข้าซูเปอร์มาร์เก็ต จากนั้น กล้องและเซ็นเซอร์จะคอยติดตามว่า สินค้าใดบ้างถูกหยิบไปจากชั้นและเรียกเก็บเงินจากบัญชีแอมะซอนของลูกค้าหลังจากช้อปจบ
ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ที่มีชื่อว่า “แอมะซอน โก โกรเซอรี” เป็นการต่อยอดจากโปรเจ็กต์ “แอมะซอน โก” หรือร้านค้าสะดวกซื้อที่ก่อตั้งมาได้ 2 ปีและมีด้วยกัน 25 สาขา แอมะซอน โก โกรเซอรีมีขนาดใหญ่กว่าแอมะซอน โกกว่า 5 เท่า และแน่นอนว่า มีสินค้าให้เลือกครบครันกว่าเนื่องจากให้บริการในฐานะซูเปอร์มาร์เก็ตเต็มตัว
คาเมรอน เจนส์ รองประธานแผนกร้านค้าออฟไลน์ของแอมะซอนอธิบายว่า ขณะที่แอมะซอน โกเน้นให้บริการย่านธุรกิจระหว่างช่วงอาหารเช้าและอาหารเที่ยง แอมะซอน โก โกรเซอรีพร้อมเติมเต็มตู้กับข้าวสำหรับมื้อเย็นของลูกค้า ด้วยสินค้าประมาณ 5,000 รายการ อาทิ ของสด อาหารทะเล เนื้อ เบเกอรี่ ของใช้ในบ้าน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอีกมากมาย
สินค้าทุกชิ้นไม่ต้องชั่งน้ำหนักโดยจะมีราคาระบุไว้ชัดเจน เช่น กล้วยผลละ 19 เซ็นต์ และอะโวคาโดผลละ 49 เซ็นต์
ว่าที่จริง แอมะซอนไม่ใช่มือใหม่หัดขายในวงการซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะเมื่อปี 2017 เคยสร้างความฮือฮาด้วยการเข้าเทกโอเวอร์โฮลฟู้ดส์พร้อมสาขา 500 แห่ง และตอนนี้ยังกำลังเดินหน้าขยายบริการจัดส่งสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ แม้ยังไม่เป็นที่นิยมเท่าบริการของวอลมาร์ท เชนซูเปอร์มาร์เก็ตเจ้าเก่าที่มีสาขากว่า 4,700 แห่งก็ตาม
นอกจากนั้นแอมะซอนยังมีแผนเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตรูปแบบใหม่ในลอสแองเจลีสภายในปีนี้ ทว่า จะไม่ได้ใช้เทคโนโลยีไร้แคชเชียร์ แต่จะเป็นอย่างไรนั้นบริษัทขออุบไว้ก่อน รวมทั้งยังไม่ยอมบอกว่า มีแผนเปิดสาขาแอมะซอน โก โกรเซอรีเพิ่มหรือไม่ แค่บอกว่า จะไม่นำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับสาขาของโฮลฟู้ดส์เท่านั้น
สมาชิกครอบครัวเดียวกันสามารถช้อปด้วยกันได้โดยสแกนสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว ซึ่งหมายความว่า ทุกอย่างที่หยิบจากเชลฟ์จะไปเรียกเก็บจากบัญชีในมือถือเครื่องนั้น เพราะฉะนั้น ลูกค้าจึงต้องระวังอย่าเผลอหยิบของให้คนแปลกหน้าเด็ดขาด
บรรดาผู้ค้าปลีกและสตาร์ทอัพอื่นๆ ต่างเร่งปรับตัวตามแอมะซอน ด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยีไร้แคชเชียร์บ้าง ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 7-อีเลฟเว่น ที่มีสาขาในอเมริกาเหนือกว่า 11,000 แห่ง เปิดร้านไร้แคชเชียร์ใกล้สำนักงานใหญ่ในเมืองเออร์วิง รัฐเทกซัส แต่เป็นแค่โครงการทดลองและให้บริการเฉพาะพนักงานของบริษัทเท่านั้น
ด้านวอลมาร์ทกำลังทดสอบเทคโนโลยีไร้แคชเชียร์ในสาขาหนึ่งที่ดัลลัสโดยใช้ชื่อว่า แซมส์ คลับ นาว
สตาร์ทอัพ 2 แห่งคือ ไอไฟ (AiFi) และกราแบงโก กำลังพัฒนาระบบอัตโนมัติสำหรับซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่แข่งกับแอมะซอนเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้มีทั้งคนชอบและคนชังเช่นเดียวกับทุกสรรพสิ่งบนโลก สมาชิกรัฐสภาอเมริกันและนักเคลื่อนไหวบางคนโจมตีว่า เป็นการเลือกปฏิบัติต่อผู้มีรายได้ต่ำที่ไม่สามารถทำบัตรเครดิตหรือแม้กระทั่งเปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งทางแอมะซอนจัดการแก้ปัญหานี้แล้วโดยยอมให้ลูกค้าจ่ายเงินสดได้ทั้งในแอมะซอน โก รวมถึงแอมะซอน โก โกรเซอรี
บางคนว่า เทคโนโลยีนี้จะเข่นฆ่างานแคชเชียร์ เกี่ยวกับประเด็นนี้ แม้แอมะซอนไม่ได้เปิดเผยจำนวนพนักงานที่แน่นอนในร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ตล่าสุด แต่บอกว่า มีพนักงานคอยดูแลลูกค้าและเติมของบนเชลฟ์เหมือนซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป รวมทั้งพนักงานที่ประจำอยู่ที่แผนกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อตรวจบัตรประชาชนลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าในแผนกนี้
แต่คนที่ชอบบอกว่า แฮปปี้มากที่ไม่ต้องรอคิวจ่ายเงิน และแม้แอมะซอน โก โกรเซอรีขาดเสน่ห์บางอย่างของซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น ไม่มีเคาน์เตอร์อาหารนำเข้าอย่างเนยแข็ง ไส้กรอกรมควัน หรือบริการสไลด์แฮม สเต็ก หรือแซลมอน เพราะทุกอย่างแพ็คอยู่ในบรรจุภัณฑ์เรียบร้อย แต่เดวิด บิชอป หุ้นส่วนบริษัทที่ปรึกษาในธุรกิจค้าปลีก บริก มีตส์ คลิก บอกว่า อุตสาหกรรมซูเปอร์มาร์เก็ตคงไม่สามารถมองข้ามแอมะซอนที่มีทั้งเงิน เทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญได้