'ไมโล' (Milo) เครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์ของบริษัทเนสท์เล่ เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้บริโภคชาวไทยมาตั้งแต่ปี 2501 ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งยังเคยทำการตลาดถึงระดับนักเรียนชั้นอนุบาลและประถมศึกษา ด้วยการแจกไมโลเย็นถ้วยเล็กตามโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้เด็กรู้จักรสชาติความอร่อยและอยากซื้อมาดื่มเอง
ในยุคที่ผู้บริโภคต้องการความแปลกใหม่ เป็นที่พูดถึง บอกต่อ แชะ แชร์ บนโลกโซเชียล เมื่อศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ จัดงาน "ลานนมสามย่าน" ที่ไม่ใช่ลานเบียร์เหมือนห้างฯ อื่น เนสท์เล่ ประเทศไทย จึงส่งเมนูพิเศษ "ไมโลทาวเวอร์" ที่ได้รับความนิยมในสิงคโปร์ มาให้ได้ลองจิบชิมดื่ม ซึ่งจะมีไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 เท่านั้น
ว่ากันว่า หลังจากที่ไมโลประกาศนำเมนูไมโลทาวเวอร์มาจำหน่ายเป็นครั้งแรกของเมืองไทย ก็กลายเป็นที่พูดถึงและบอกต่อในโลกโซเชียล ไม่ต่างจากครั้งหนึ่งที่เคยมี "ไมโลคิวบ์" (Milo Cube) ช็อกโกแลตอัดเม็ดที่ถูกพูดถึงเมื่อ 3 ปีก่อน และเมื่อไม่ได้ผลิตและจำหน่ายในไทย ทำให้ราคาขายต่อถุง (100 เม็ด) 500-800 บาทเลยทีเดียว
Ibusiness review ลงพื้นที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ หัวมุมถนนพระราม 4 กับถนนพญาไท พบว่ากิจกรรมลานนม เป็นการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์นม อาหาร ของว่าง ขนมหวานและเครื่องดื่มมากกว่า 50 ร้าน โดยมีโต๊ะทั้งแบบมีที่นั่ง และแบบยืนคล้ายกับสถานบันเทิง พร้อมการแสดงดนตรีสด ไม่ต่างจากลานเบียร์หน้าห้างฯ
"ไมโลทาวเวอร์" เป็นการนำเครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์ไมโล มาใส่ในถังทาวเวอร์สีเขียว คล้ายเบียร์ทาวเวอร์ (Beertower) ตรงกลางจะมีแกนใส่น้ำแข็งเพื่อรักษาอุณหภูมิของเครื่องดื่มให้เย็นอยู่เสมอโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า และมีก๊อกขนาดเล็กสำหรับกดใส่แก้ว ให้เครื่องดื่มไหลออกมาจากก๊อกตามต้องการ ขนาดความจุสูงสุดอยู่ที่ 3 ลิตร
การจำหน่ายไมโลทาวเวอร์ แบ่งออกเป็นครึ่งทาวเวอร์ (1.5 ลิตร) 99 บาท กับ 1 ทาวเวอร์ (3 ลิตร) 190 บาท แต่มีจำนวนจำกัด เปิดขายวันละ 4 รอบ รอบละ 75 ทาวเวอร์ ได้แก่ รอบเวลา 16.00, 18.00, 20.00 และ 22.00 น. โดยผู้ที่รับบัตรคิวจะต้องมีโต๊ะภายในงาน "ลานนมสามย่าน" เรียบร้อยแล้วเท่านั้น จำกัดสิทธิ์ 1 คนต่อ 1 ทาวเวอร์
ก่อนที่คิดจะซื้อไมโลทาวเวอร์ ควรมากันเป็นกลุ่มอย่างน้อย 3-4 คนขึ้นไป เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง หากให้ทานคนเดียวหมดทาวเวอร์อาจจะไม่ไหว และเนื่องจากภายในงานมีโต๊ะจำนวนจำกัด จึงต้องหาโต๊ะและที่นั่งกันก่อน อาศัยการสังเกตจากคนที่มีแนวโน้มลุกออกจากโต๊ะ และแบ่งหน้าที่ระหว่างคนเฝ้าโต๊ะกับคนรับบัตรคิว
การขายแต่ละรอบ ผู้ซื้อจะต้องรับบัตรคิวก่อนเวลาจำหน่าย 1 ชั่วโมง ในวันที่ไปจะเป็นรอบที่ 3 เวลา 20.00 น. ต้องเข้าแถวรอรับบัตรคิวตั้งแต่เวลา 19.00 น. ปรากฎว่ามีคนมายืนรอคิวหน้าเสากั้นเขต บริเวณบันไดหน้าทางเท้าฝั่งถนนพญาไทคนแรกๆ ตั้งแต่ช่วงเวลา 18.30 น. หรือครึ่งชั่วโมงก่อนรับบัตรคิวเสียเลยด้วยซ้ำ
เมื่อถึงเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่จะเปิดเสากั้นเขตและแจกบัตรคิวรอบ 20.00 น. แก่ผู้ที่ต่อแถว ซึ่งจะสอบถามก่อนว่ามีโต๊ะหรือไม่ ถ้ามีก็จะแจกบัตรคิว 1 คนต่อ 1 ใบและ 1 ทาวเวอร์ และแจกขาตั้งเสียบบัตรคิววางกับโต๊ะตามมา เมื่อถึงคิวจะถามว่ารับครึ่งทาวเวอร์หรือ 1 ทาวเวอร์ แล้วชำระเงินก่อนรับบิลเงินสดระบุบัตรคิวและโซนที่นั่ง
เมื่อกลับมาที่โต๊ะ ให้นำบัตรคิวและขาตั้งที่ได้รับเมื่อต่อคิวมาวางไว้บนโต๊ะเพื่อให้พนักงานเสิร์ฟสังเกตได้ง่าย ผ่านไป 1 ชั่วโมง เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่และพริตตี้จะทยอยนำไมโลทาวเวอร์พร้อมแก้วกระดาษมาเสิร์ฟที่โต๊ะ โดยทยอยทีละโต๊ะตามบัตรคิวที่วางไว้บนโต๊ะ ซึ่งบัตรคิวลำดับที่ 20 จะได้เวลาประมาณ 20.05 น.
น้ำแข็งที่ใส่ไว้ในแกนกลางทาวเวอร์ ทำให้ไมโลที่ออกมายังคงเย็นอยู้เสมอ จากการสอบถามคนที่มาดื่มไมโลทาวเวอร์ด้วยกัน ความเห็นหนึ่งมองว่า รสชาติไม่เหมือนไมโลสูตรที่แจกตามโรงเรียน เพราะมีรสชาติของมอลล์นำมากกว่ารสชาติของผงช็อกโกแลต ส่วนอีกความเห็นหนึ่งมองว่าคล้ายกับไมโลทรีอินวัน
ไมโลทาวเวอร์ 1 ทาวเวอร์ 190 บาท ดื่มคนเดียวอาจไม่ไหวแน่นอน แต่จากการทดสอบคนในวงเดียวกัน พบว่าดื่มไปทั้งหมด 7 คน จะได้เฉลี่ยคนละ 3-5 แก้ว ซึ่งถือว่าเหมาะสมที่จะแบ่งกันดื่ม นอกจากจะซื้อความแปลกใหม่แล้ว ยังสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนไม่ต่างจากการแฮงเอาท์ เปลี่ยนจากเหล้าเบียร์มาชนแก้วไมโลอย่างสนุกสนาน
ก่อนจากกัน ที่บูธไมโลจะมีการแจกของที่ระลึกเป็นแก้วเชค ด้านบนเป็นรถโรงเรียนจำลอง ซึ่งจะแจกตามรอบการจำหน่าย กติกาคือโพสต์ภาพลงเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรม ตั้งค่าเป็นสาธารณะ แล้วติดแฮชแท็ก #MiloTower ก่อนนำมาแสดงแก่เจ้าหน้าที่เพื่อรับแก้วฟรี ถือเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้เกิดไวรัลในโลกโซเชียลได้อย่างกว้างขวาง
แม้ไม่มีใครรู้เบื้องหลังรสชาติที่แท้จริงว่า ส่วนผสมของไมโลทาวเวอร์อย่างไร แต่เมื่อเป็นไมโลเสิร์ฟในทาวเวอร์ แถมยังมีพริตตี้ที่แจ่มพอๆ กับลานเบียร์ ก็ทำให้ผู้ที่มาเกิดความรู้สึกแปลกใหม่ แถมยังไม่เมา ไม่ก่อเหตุอาชญากรรมเมื่อเทียบกับสุรา ถึงกระนั้นเมื่ออุดมไปด้วยน้ำตาล ก็ควรดื่มแต่พอประมาณ และออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
เมื่อกล่าวถึงบรรยากาศของลานนมจะพบว่า มีการแสดงดนตรีสดคล้ายกับลานเบียร์ โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาแสดงดนตรีสด ถือเป็นการเปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้แสดงออก ส่วนที่นั่งพบว่าสว่างด้วยไฟประดับและไฟสปอตไลท์ จึงเหมาะสำหรับสังสรรค์นั่งดื่มนมทุกเพศทุกวัย ผู้ปกครองพาเด็กมาดื่มนมได้อย่างไร้กังวล
นอกจากไวรัลบนโลกโซเชียลจะทำให้ไมโลทาวเวอร์โด่งดังเป็นพลุแตกแล้ว โมเดล "ลานนมสามย่าน" ของศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ที่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมครั้งแรกในไทย ก็พลอยเป็นที่พูดถึงตามไปด้วย แม้ในปีแรกอาจมีอุปสรรคอยู่บ้าง โดยเฉพาะเรื่องที่นั่งไม่เพียงพอ แต่ก็มีเสียงชื่นชมถึงการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์เช่นนี้
อีกไม่กี่วัน ไมโลทาวเวอร์ก็จะหมดไปแล้ว ใครที่ยังไม่ได้สัมผัสประสบการณ์จิบชิมดื่มเต็มอิ่ม แบบไม่มีคำว่าเมา ยังพอมีเวลาถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ถนนพญาไท สี่แยกสามย่าน เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สถานีสามย่าน ทางออกหมายเลข 2 ตั้งแต่เวลา 16.00-02.00 น.
(หมายเหตุ : Ibusiness review หยุดตีพิมพ์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 1 สัปดาห์ และจะกลับมาพบกับผู้อ่านอีกครั้งสัปดาห์ถัดไป)