xs
xsm
sm
md
lg

เศรษฐีหุ้นโยกทุนหนีศึกการค้า คาดปีหน้าดอลล์อ่อน-ทองวิ่งต่อ

เผยแพร่:


- นักลงทุนส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า สภาพแวดล้อมการลงทุนในปีหน้าท้าทายกว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
นักลงทุนทั่วโลกเล็งโยกเงินไปเดิมพันกับธุรกิจที่พึ่งพิงรายได้ภายในประเทศเป็นหลัก ตัดปัญหาการถูกหางเลขจากสงครามการค้า คาดปีหน้าปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์จะมีอิทธิพลในตลาดมากกว่าพื้นฐานธุรกิจ เช่น รายได้หรือความสามารถในการทำกำไร ขณะที่เบร็กซิต รวมทั้งการที่อเมริกาขู่รีดภาษียุโรปเพิ่มทำให้การทวนกระแสโลกาภิวัตน์มีแนวโน้มเข้มข้นขึ้นในช่วง 10 ปีข้างหน้า เช่นเดียวกับการถือกำเนิดของปรากฏการณ์ “ซิลิคอน เคอร์เทน” หรือการเป็นปฏิปักษ์ด้านเทคโนโลยีทั่วโลก

ปลายสัปดาห์ที่แล้วยูบีเอสเผยแพร่รายงาน Investor Watch on the Year Ahead ที่มาจากการสำรวจความคิดเห็นนักลงทุนที่มีสินทรัพย์อย่างน้อย 1,000 ล้านดอลลาร์กว่า 3,400 ราย ซึ่งพบว่า 3 ใน 4 มองว่า สภาพแวดล้อมการลงทุนในปี 2020 ท้าทายกว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว และเกือบ 60% มีแผนเพิ่มเงินสดสำรองในการจัดสรรสินทรัพย์ จากที่เพิ่มมาแล้วก่อนหน้านี้อยู่ที่ 25%

ทั้งนี้ ปกติแล้วนักลงทุนมักสำรองเงินสดในพอร์ตในอัตราตัวเลขหลักเดียวเมื่อมีความเสี่ยงที่ยอมรับได้สูง

ข้อกังวลหลักของนักลงทุนคือ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างอเมริกากับจีน ตามด้วยการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีหน้า

ดังนั้น เพื่อป้องกันตัวเองจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ นักลงทุนจึงกำลังมองหาธุรกิจที่มุ่งเน้นผู้บริโภคและตลาดในประเทศ และหลีกเลี่ยงการดำเนินงานในต่างแดน

ตัน มินลัน ประธานฝ่ายการลงทุนในเอเชีย-แปซิฟิกของยูบีเอส โกลบัล เวลธ์ แมเนจเมนต์ อธิบายว่า บริษัทที่มุ่งเน้นผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์น้อยกว่า เนื่องจากการตัดสินใจต่างๆ ไม่ต้องอิงกับปัญหาเหล่านั้น

แนวโน้มความแตกแยกในโลกยังเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนจากการที่สองประเทศเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกอย่างอเมริกาและจีนยังคงฟาดฟันกันในสงครามการค้าที่มีแต่ดุเดือดขึ้นนับจากที่เริ่มต้นเมื่อ 18 เดือนที่แล้ว

แม้ข้อตกลง “เฟส 1” อาจบรรลุผล แต่ความขัดแย้งทางการค้าของสองมหาอำนาจมีโอกาสระอุขึ้นอีกครั้งในปีหน้า ยิ่งไปกว่านั้นการแข่งขันของจีนกับอเมริกาในด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และภูมิรัฐศาสตร์จะกลายเป็นปัจจัยท้าทายระเบียบโลกเดิมและไม่สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดาย

กระนั้น ตันสำทับว่า จีนอาจเป็นเดิมพันการลงทุนที่ดีสำหรับปี 2020 เนื่องจากรายได้ถึง 86% มาจากภายในประเทศ และอี-คอมเมิร์ซจีนยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง

ที่ปรึกษาของที โรว์ ไพรซ์ บริษัทการลงทุนในแมรี่แลนด์ที่บริหารเงินทุนราว 991,000 ล้านดอลลาร์ เห็นด้วยว่า จีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เป็นเป้าหมายการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับปีหน้า

ผลสำรวจของยูบีเอส ซึ่งเป็นสถาบันการเงินชั้นนำของสวิตเซอร์แลนด์ ยังพบว่า นักลงทุนรู้สึกว่า มีอำนาจควบคุมพอร์ตของตัวเองน้อยลง รวมทั้งคาดว่า ปีหน้าตลาดจะผันผวนมากขึ้น

มาร์ก เฮเฟเล่ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของยูบีเอส โกลบัล เวลธ์ แมเนจเมนต์ในนิวยอร์ก บอกว่า การถอนตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (เบร็กซิต) รวมทั้งการที่อเมริกาขู่รีดภาษีศุลกากรยุโรปเพิ่ม ทำให้การทวนกระแสโลกาภิวัตน์มีแนวโน้มเข้มข้นขึ้นในช่วง 10 ปีข้างหน้า เช่นเดียวกับการถือกำเนิดของปรากฏการณ์ “ซิลิคอน เคอร์เทน” หรือการเป็นปฏิปักษ์ด้านเทคโนโลยีทั่วโลก

นอกจากนั้นยังพบว่า นักลงทุนนอกอเมริกาและจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในละตินอเมริกา กังวลกับสงครามการค้ามากกว่าทั้งสองชาติมหาอำนาจ สะท้อนว่า ความเสียหายจากสงครามการค้าลุกลามกว้างขวางอย่างยิ่ง

รายงานของยูบีเอสยังคาดหมายว่า เศรษฐกิจโลกจะชะลอลงอยู่ที่ราว 3% ในไตรมาสปัจจุบันและไตรมาสแรกปีหน้า ก่อนขยับขึ้นเล็กน้อยตลอดทั้งปี 2020

สำหรับตลาดหุ้นอเมริกามีแนวโน้มผันผวนหนักขึ้นเมื่อใกล้ถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดี เช่นเดียวกับดอลลาร์ที่ส่อแววอ่อนตัวตามอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจและดอกเบี้ย ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และผลกระทบจากสงครามภาษีศุลกากร

ขณะเดียวกัน การที่ดอลลาร์อ่อนลง ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองและความกังวลต่อเศรษฐกิจจะส่งให้ราคาทองคำพุ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น