ท่ามกลางการแข่งขันของธุรกิจขนส่งภายในประเทศ ที่มีผู้ประกอบการรายใหม่เกิดขึ้นมากมาย แต่สำหรับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ยังคงพัฒนาบริการอย่างไม่หยุดยั้ง นอกจากออกโปรโมชันปรับลดอัตราค่าบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS ในประเทศแล้ว ยังมีแคมเปญร่วมลุ้นโชคใหญ่ส่งท้ายปี "ท้าส่งลุ้นล้าน 2020"
แต่ใครจะรู้ว่า ในแคมเปญส่งเลขแทร็ก (Tracking Number) 13 หลัก ลุ้นโชคแจกรถ แจกทอง รวมกว่า 9 ล้านบาท ยังได้อัปเกรดบริการ "Track & Trace" ระบบติดตามสถานะสิ่งของเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด เมื่อสมัครสมาชิกแล้วจะเพิ่มความสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ค้าออนไลน์ สามารถติดตามสถานะสิ่งของจำนวนมาก ได้สูงสุด 300 รายการต่อครั้ง
อันที่จริงบริการ Track & Trace ของไปรษณีย์ไทยเกิดขึ้นมานานแล้ว ในอดีตทำได้เพียงแค่กรอกเลขแทร็ก 13 หลัก เพื่อตรวจสอบสถานะสิ่งของเท่านั้น ไม่มีการเก็บข้อมูลและประมวลผล เวลาจะตรวจสอบเลขแทร็กครั้งละจำนวนมาก อาศัยเพียงแค่แอปพลิเคชัน Track & Trace เพียงอย่างเดียว ซึ่งรองรับได้เพียงแค่ 20 หมายเลขเท่านั้น
แต่สำหรับ Track & Trace ของไปรษณีย์ไทยเวอร์ชั่นใหม่ นำระบบสมาชิกมาใช้เพื่อให้สามารถติดตามสถานะแบบจำนวนมาก อีกทั้งจัดทำรูปแบบรายงานที่ง่ายต่อการวิเคราะห์ข้อมูลการขนส่ง ในรูปแบบไฟล์เอ็กซ์เซล (.xlsx) หรือคัดลอกข้อความหรือลิงก์ เพื่อส่งต่อผ่านโซเชียลได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องแคปหน้าจอให้ยุ่งยากอีกต่อไป
เมื่อเข้าสู่ระบบสมาชิกเว็บไซต์ Track & Trace โฉมใหม่ จะแสดงสถานะตั้งแต่รับเข้าระบบ ถึงนำจ่ายสำเร็จ โดยประวัติการค้นหาจะถูกเก็บในระบบย้อนหลัง 30 วัน ถ้าต้องการเก็บไว้ก็สามารถเลือกเป็นรายการโปรดด้วยการกดรูปหัวใจ ซึ่งบันทึกได้สูงสุด 1,000 หมายเลข รวมทั้งยังมีกราฟแสดงตามประเภทการจัดส่งย้อนหลัง 30 วันอีกด้วย
นับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นมา ไปรษณีย์ไทยได้เปิดให้สมัครสมาชิก ก่อนแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ เมื่อใช้บริการฝากส่งสิ่งของที่มีหลักฐานการรับฝาก ด้วยหมายเลขแทร็ก 13 หลักทุกครั้ง เพื่อรับสิทธิลุ้นรางวัล โดยในใบรับเงินจะระบุสมาชิก MPOS 8 หลัก ตามด้วยชื่อ-นามสกุลของสมาชิก โดยเลขแทร็กจะเข้าร่วมรายการโดยอัตโนมัติ
แต่ถ้าฝากส่งกับตัวแทนไปรษณีย์ หรือไม่ได้แจ้งเลขสมาชิกขณะฝากส่ง สามารถร่วมรายการได้โดยการเพิ่มเพื่อน Line ID @luckytrack หรือเข้าสู่เว็บไซต์ track.thailandpost.co.th/luckytrack นอกจากนี้ สำหรับผู้รับยังมีสิทธิลุ้นรางวัลโดยกรอกเลขแทร็ก 13 หลักทางไลน์หรือเว็บไซต์ก็ได้ ส่งได้ไม่จำกัดจำนวน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
รางวัลใหญ่สำหรับผู้ส่งมีทั้ง รถยนต์ Honda HR-V รุ่น RS มูลค่า 1,125,000 บาท, ทองคำหนัก 10 บาท 4 รางวัล, ทองคำหนัก 5 บาท 1 รางวัล, ทองคำหนัก 1 บาท 15 รางวัล, ทองคำหนัก 1 สลึง 44 รางวัล และรางวัลอื่นๆ ส่วนผู้รับลุ้นมือถือ Galaxy Note 10+ จำนวน 8 รางวัล iPhone 11 Pro จำนวน 8 รางวัล และรางวัลอื่นๆ อีกเพียบ
อีกหนึ่งแคมเปญที่ให้ลูกค้าลุ้นโชคใหญ่ส่งท้ายปี คือแคมเปญ "EMS ท้าส่ง รับเร็ว ลุ้นล้าน" ที่ไปรษณีย์ไทยท้าพิสูจน์ความเร็วในการส่งสิ่งของด้วยบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS "ส่งเช้าได้บ่าย ส่งบ่ายได้วันรุ่งขึ้น" โดยพบว่าเมื่อจัดส่งในช่วงบ่าย พัสดุจะส่งถึงไปรษณีย์ปลายทางในเช้าวันรุ่งขึ้น และจะได้รับพัสดุถึงที่หมายในช่วงครึ่งวันเช้า
ช่วงนี้มีโปรโมชั่นลดค่าบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS ในประเทศ ลดสูงสุดกว่า 70% เมื่อฝากส่งพัสดุตั้งแต่ 5 ชิ้นขึ้นไปต่อครั้ง และผู้ใช้บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ผ่านบริการ Wallet@Post รับส่วนลดทันทีตั้งแต่การฝากส่งของชิ้นแรก ตั้งแต่น้ำหนัก 500 กรัม ถึง 7 กิโลกรัม ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2562
ปัจจุบัน ไปรษณีย์ไทยมีพัสดุเข้ามาแต่ละวันมากกว่า 8 ล้านชิ้น จากที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ แคมเปญ "ท้าส่งลุ้นล้าน 2020" ตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปี 2562 จะมีพัสดุผ่านเข้าสู่ระบบของไปรษณีย์ไทยมากถึง 3 พันล้านชิ้น โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น วันพ่อแห่งชาติ วันคริสต์มาส และวันขึ้นปีใหม่ ที่จะมีเพิ่มมากกว่าปกติ
เหนือสิ่งอื่นใด คือความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อไปรษณีย์ไทย แม้จะมีผู้ให้บริการหน้าใหม่เข้ามาตีตลาดก็ตาม แต่ก็ยังคงพัฒนาบริการอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมกับเสนอสิ่งที่มีประโยชน์ และเข้าใจความต้องการของลูกค้าทั้งผู้ส่งและผู้รับเป็นอย่างดี ทำให้ไปรษณีย์ไทยยังครองใจลูกค้า ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในการส่งพัสดุถึงปัจจุบัน
(เกาะกระแสธุรกิจ เศรษฐกิจสดใหม่ เรื่องราวการตลาดที่ใกล้ชิดผู้บริโภค กับ Ibusiness Review ที่นี่ที่เดียว! ทางเฟซบุ๊ก Ibusiness และเว็บไซต์ ibusiness.co)
