xs
xsm
sm
md
lg

เท็กซัสชิคเก้นขยายฐานบุกปั๊ม แมคโดนัลด์งัดตำนานแฮปปี้มีล

เผยแพร่:



ปตท. ใช้เวลากว่า 4 ปี ปลุกแบรนด์ “Texas Chicken” บุกสมรภูมิฟาสต์ฟู้ดไทย ล่าสุดตั้งเป้าหมายขยายสาขาครบ 45 แห่งภายในปีนี้ และวางแผนปีหน้าปูพรมไม่ต่ำกว่า 80 สาขา โดยเตรียมปฏิบัติการเร่งบุกสถานีบริการน้ำมันในเครือที่มีมากกว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเร่งสัดส่วนรายได้กลุ่มธุรกิจนอนออยล์ของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ “โออาร์” รองรับแผนปูพรมแดงเข้าตลาดหลักทรัพย์อย่างเต็มตัว

แน่นอนว่า หากย้อนรอยวันแรกที่แบรนด์ไก่ทอดยักษ์ใหญ่ระดับทอปทรีของโลก “เท็กซัสชิคเก้น (Texas Chicken)” ประกาศจับมือกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บุกตลาดเมืองไทยตามนโยบายบริษัทแม่ที่ต้องการรุกขยายแนวรบสู่อาเซียนและเอเชีย นั่นหมายถึงการเปิดสงครามแย่งชิงส่วนแบ่งจาก 2 คู่แข่งเจ้าตลาด ทั้ง “เคเอฟซี” และ “แมคโดนัลด์”

ตามแผนเบื้องต้น ปตท. ในฐานะมาสเตอร์แฟรนไชส์ วางแผนผุดร้านไม่ต่ำกว่า 70 สาขา ภายในระยะเวลา 5-10 ปี เน้นทำเลพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อสร้างการรับรู้และเจาะลูกค้าเป้าหมาย กลุ่มวัยรุ่น นักเรียนนักศึกษาและครอบครัว ก่อนขยายไปยังสถานีบริการน้ำมัน ปตท. และเมื่อแบรนด์ติดตลาดแล้ว ปตท. จะเปิดขายแฟรนไชส์ “เท็กซัสชิคเก้น” เพื่อเร่งปูพรมสาขาใหม่ๆ แบบก้าวกระโดด

แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ “โออาร์” ระบุว่า การขยายสาขาร้านเท็กซัสชิคเก้นอาจช้ากว่าเป้าหมายที่ประกาศไว้ เนื่องจากกลุ่ม ปตท. อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจแยกกลุ่มกิจการค้าปลีก จึงยังไม่ได้ทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาล

ขณะเดียวกัน ต้องการหาทำเลที่มีศักยภาพ ซึ่งปัจจุบันหาได้ค่อนข้างยาก ค่าเช่าพื้นที่ค่อนข้างสูง และต้องแข่งขันช่วงชิงทำเลกับคู่แข่ง ซึ่งถือเป็นยักษ์ใหญ่ที่ยึดครองตลาดมาอย่างยาวนาน

ปัจจุบัน ร้านเท็กซัสชิคเก้นมีสาขารวม 40 แห่ง โดยกระจายอยู่ในทำเลศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงเรียน มหาวิทยาลัย จำนวน 25 สาขา และมีสาขาอยู่ในสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น อีก 15 แห่ง ได้แก่ พีทีที สเตชั่น สาขาประชาอุทิศ-ลาดพร้าว สาขาพระราม 2 กม. 12 สาขาพระราม 2 กม. 35 สาขารามอินทรา กม. 11 สาขาประชาชื่น-นนทบุรี สาขาเทพารักษ์ สาขาวังน้อย สาขาพัทยา จอมเทียน สาขาบายพาส 3 สาขาพุทธมณฑลสาย 4 สาขาโคกกรวด สาขาสายเอเชีย กม. 55 สาขาแยกมาบข่า สาย 36 สาขาลพบุรีราเมศร์ สาขาศรีสุนทร จ. ภูเก็ต รวมถึงสาขาในจุดพักรถมอเตอร์เวย์ขาออก จ. ฉะเชิงเทรา

“ช่วงปีหน้าน่าจะเป็นปีที่โออาร์เร่งขยายสาขาเท็กซัสชิคเก้นได้มากขึ้น โดยเฉพาะสาขาในปั๊มน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ซึ่งมีทำเลศักยภาพหลายแห่ง เพื่อแก้ปัญหาการหาทำเลสาขาในศูนย์การค้าที่ยากมากขึ้น และหากได้จำนวนสาขาตามเงื่อนไขสัญญา โออาร์จะเริ่มแผนการขายแฟรนไชส์” แหล่งข่าวกล่าว

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในสงครามไก่ทอดที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการจัดแคมเปญราคาพิเศษ การเปิดตัวเมนูใหม่ๆ และการสร้างฐานลูกค้าผ่านบัตรสมาชิกหลากหลายรูปแบบ ทำให้เท็กซัสชิคเก้นต้องเน้นจุดแข็งด้านคุณภาพสินค้า การใช้วัตถุดิบเนื้อไก่สดที่ไม่ผ่านการแช่แข็ง ทำให้ได้รสชาติไก่ทอดที่นุ่มชุ่มฉ่ำกว่า และชิ้นไก่ขนาดใหญ่ เพราะไก่ 1 ตัวจะตัดเป็นชิ้นไก่ทอดแค่ 8 ชิ้น ขณะที่คู่แข่งตัดแบ่ง 9-10 ชิ้น รวมทั้งชูจุดขายเมนูไก่ทอด 2 สูตรหมักพิเศษ รสสไปซี่ รสออริจินัลสุดฮิต และเมนู Signature “ฮันนี บัตเตอร์ บิสกิต” ซึ่งสามารถเลือกรับประทานแบบชิ้นบิสกิตหรือรับประทานกับไอศกรีมซันเดย์

ด้านคู่แข่งเจ้าตลาดไก่ทอดอย่างเคเอฟซี ต้องยอมรับว่า พยายามงัดจุดขายใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งโปรโมชั่นด้านราคาและรูปแบบสาขาชนิดที่รุกทุกทำเล ซึ่งบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ในฐานะบริษัทแม่แบรนด์เคเอฟซี เตรียมแผนสร้างร้านใหม่ Flagship store เพื่อเสริมกับเครือข่ายร้านเคเอฟซีในปัจจุบันที่มีมากกว่า 740 สาขาในประเทศไทย ประกอบด้วยสาขาที่บริหารงานโดยบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) 275 แห่ง

บริษัท คิวเอสอาร์ออฟเอเชีย (QSA) ในเครือไทยเบฟเวอเรจ 293 แห่ง และกลุ่มบริษัทเรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ (RD) อีก 175 แห่ง โดยตั้งเป้าหมายขยายเครือข่ายร้านให้ได้มากถึง 1,000 แห่ง และเป็นร้านแบบไดรฟ์ทรูอย่างน้อย 100 แห่ง ภายในปี 2563

ล่าสุด เคเอฟซีขยายรูปแบบสาขาให้บริการ 24 ชั่วโมง ในโครงการสามย่านมิตรทาวน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘1 OF A KIND’ สั่งออร์เดอร์อาหารด้วยระบบ Self-ordering Kiosk ซึ่งลูกค้าสามารถมองเห็นกระบวนการประกอบอาหารผ่าน Open Kitchen และเลือกชำระเงิน ทั้งรูปแบบ Cashless และสั่งผ่านมือถือได้ด้วยบริการ Click & Collect

ขณะที่บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป (ซีอาร์จี) เพิ่งประกาศความสำเร็จ ฉลองเปิดร้านเคเอฟซีสาขาบ้านสีลม (ซอยสีลม 19) เป็นร้านเคเอฟซี สาขาที่ 275 ของ ซีอาร์จี เน้นจุดขายการตกแต่งแบบ Handmade ในอาคารของศูนย์การค้าสไตล์โคโลเนียล ตะวันตก เพื่อสะท้อนตำนานที่สืบทอดมาของเคเอฟซีในแบบสนุกสนานและมีชีวิตชีวา พร้อมฟังก์ชันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง เช่น บริการปลั๊กไฟ ช่องเสียบ USB สัญญาณ Wi-Fi ฟรี และบริการเครื่องดื่มแบบรีฟิล เพื่อจับกลุ่มพนักงานออฟฟิศ นักเรียน นักท่องเที่ยว

ก่อนหน้านี้ เคเอฟซียังร่วมมือกับ “คาร์นิวัล” โลคอลแบรนด์ด้านสตรีตแฟชั่น สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการตลาดไก่ทอด โดยร่วมกันออกคอลเลกชันพิเศษ “KFC X CARNIVAL” ลิมิเต็ดเอดิชั่น ประกอบด้วยเสื้อแจ็กเกต เสื้อฮู้ด เสื้อยืด และไอเทมอื่นๆ พร้อมๆ กับเปิดตัวเมนูเฉพาะกิจ ซึ่งได้ทั้งยอดขายและสร้างสีสันการตลาด

ส่วนแมคโดนัลด์ ซึ่งจัดเต็มทั้งเมนูอาหารที่หลากหลาย แคมเปญโปรโมชั่น และร้านสาขาโฉมใหม่ คอนเซ็ปต์ Alphabet โมเดลทันสมัย สีสันสะดุดตา รวมถึงการฉีกแนวส่งทีม Guest Experience Leader (GEL) หรือ “น้องเจล” ในชุดสีชมพูหวานๆ ให้บริการลูกค้าทุกเรื่องในร้าน เพื่อสร้างบรรยากาศ Feel Good Moment ให้ลูกค้าทุกเพศทุกวัยที่เดินเข้าร้านแมคโดนัลด์ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

เมื่อเร็วๆ นี้ แมคโดนัลด์ยังเปิดตัว McDonald’s Application ดิจิทัลแพลตฟอร์มที่พัฒนาระบบปฏิบัติการ และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน โดยนำนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมและจดจำการใช้งานของผู้บริโภค เพื่อนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด แนวคิด “สุขล้นในแอปเดียว” สามารถจดจำพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า และคัดสรรข้อเสนอสุดพิเศษ ดีลเด็ดๆ หรือเมนูที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละบุคคลแบบ Personalized Oher พร้อมสิทธิพิเศษที่หมุนเวียนทุกวัน

ล่าสุด งัดบิ๊กแคมเปญ แฮปปี้มีล ครบรอบ 40 ปี พร้อมกัน 90 ประเทศทั่วโลก โดยรวบรวมของเล่นแฮปปี้มีลที่ได้รับความนิยมในอดีต จัดเป็นคอลเลกชันพิเศษสร้างสีสันดึงดูดลูกค้า เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน ถึง 5 ธันวาคม 2562

สตีฟ อีสเตอร์บรู๊ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แมคโดนัลด์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า แฮปปี้มีลเปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วยชุดของเล่นธีม Circus Wagon เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2522 ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งช่วงแรกกล่องแฮปปี้มีลถูกตกแต่งและบรรจุของเล่น เช่น ลูกข่างหรรษา ชุดยางลบรูปทรงคาแรกเตอร์ต่างๆ ของแมคโดนัลด์แลนด์ จนปัจจุบัน แฮปปี้มีลได้รับความนิยมในร้านแมคโดนัลด์มากกว่า 38,000 สาขา ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

สำหรับของเล่นคอลเลกชันสุดฮิตในอดีตที่นำมาจัดคอลเลกชันพิเศษครั้งนี้มีทั้งหมด 14 แบบ ได้แก่ แมคนักเก็ต คาวบอย (Cowboy McNugget) เปิดตัวอยู่ในชุดแฮปปี้มีลเมื่อปี 2531 แมคนักเก็ต นักดับเพลิง (Fireman McNugget) เปิดตัวเมื่อปี 2531 แมคนักเก็ต บุรุษไปรษณีย์ (Mail Carrier McNugget) เปิดตัวเมื่อปี 2531

แมคโดนัลด์ แฮมเบอร์เกอร์แปลงร่าง (Hamburger Changeable) เปิดตัวเมื่อปี 2532 กริมเมส(Grimace) เปิดตัวเมื่อปี 2534 ไดโนกล่องกลแฮปปี้มีล (Dino Happy Meal Box Changeable) เปิดตัวเมื่อปี 2534 ฮอตวีลส์ ธันเดอร์เบิร์ด (McDonald’s Hot Wheels Thunderbird) เปิดตัวเมื่อปี 2536

แฮมเบอร์กลาร์ แห่งแมคโดนัลด์แลนด์ (Hamburglar) เปิดตัวเมื่อปี 2538 บั๊กบันนี่ สเปซแจม (Space Jam Bugs Bunny) เปิดตัวเมื่อปี 2539 เจ้าตุ่นปากเป็ด แพตตี้ (Patti the Platypus-Ty Beanie Baby) เปิดตัวเมื่อปี 2540 ทามาก็อตจิ (Tamagotchi-Bandai) เปิดตัวเมื่อปี 2541 ม้าน้อยโพนี่ (My Little Pony-Hasbro) เปิดตัวเมื่อปี 2541 เฟอร์บี้ (Furby-Hasbro) เปิดตัวเมื่อปี 2542 และเฮลโหล คิตตี้ (Hello Kitty-Sanrio) เปิดตัวเมื่อปี 2546

แต่ทั้งหมดดูเหมือนว่าโจทย์ใหญ่ของ 3 ยักษ์ฟาสต์ฟู้ด คือ ขยายสาขา เพื่อกวาดลูกค้าให้ได้มากที่สุด การเปิดเกมรุกปูพรมสาขาเท็กซัสชิคเก้นบุกปั๊มน้ำมันจึงเป็นการงัดจุดได้เปรียบชิ้นสำคัญ ในฐานะเจ้าของทำเลมากกว่า 1,800 จุด บวกกับเทรนด์ไลฟ์สไตล์ที่ทำให้สถานีบริการน้ำมันกลายเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดย่อม ไม่ใช่แค่เติมน้ำมัน หรือแวะเข้าห้องน้ำ แต่ใช้บริการหลากหลายมากขึ้น ทั้งกิน ดื่ม ช้อปปิ้ง วันสตอปเซอร์วิส แบบไม่ต้องเดินทางไกล หรือเสียเวลาวนหาที่จอดรถด้วย

เกมนี้เปิดศึกวัดกัน ร้อนฉ่าแน่

ที่มา : ผู้จัดการ 360




กำลังโหลดความคิดเห็น