xs
xsm
sm
md
lg

ศาลอุทธรณ์รับฟ้องคดี“เกษม ณรงค์เดช ฟ้อง คุณหญิงกอแก้ว”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:

คุณหญิงกอแก้ว บุญยะจินดา ภรรยาของ พลตำรวจเอกพจน์ บุณยะจินดา อดีตอธิบดีกรมตำรวจ(ภาพจากแฟ้ม)
ผู้จัดการรายวัน- คดีพลิก ศาลอุทธรณ์กลับคำสั่งศาลชั้นต้น รับฟ้อง คดี “เกษม ณรงค์เดช” ฟ้อง “คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา” กับพวกฐานความผิดร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอมซื้อขายหุ้นวินด์ฯ

วันนี้ (16ต.ค.) ศาลอาญา ได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ในคดีอาญาที่นายเกษม ณรงต์เดช นักธุรกิจชื่อดัง เป็นโจทก์ฟ้อง คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา ภรรยาพลตำรวจเอก พจน์ บุณยะจินดา อดีตอธิบดีกรมตำรวจ กับพวก เป็นจำเลยในฐานความผิดร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอม ที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า แม้นายเกษมจะไม่ได้มาเบิกความด้วยตนเองในชั้นนี้ แต่การที่นายเกษมยื่นฟ้องจำเลยทั้งสามเป็นคดีนี้ และยื่นฟ้องต่อศาลฮ่องกงเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงตามฟ้องของนายเกษมในเบื้องต้นแล้วว่า สัญญาแต่งตั้งตัวแทน ตราสารการโอนหุ้น และใบสำคัญการซื้อขายหุ้น ซึ่งเป็นเอกสารที่ใช้สำหรับการโอนหุ้นจากนายเกษมไปยังคุณหญิงกอแก้ว เป็นเอกสารสิทธิปลอม นายเกษมไม่เคยลงชื่อในเอกสารดังกล่าว

นอกจากนี้นายเกษมยังนำสืบให้ศาลเห็นอีกว่าได้มีการส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศตรวจสอบเปรียบเทียบกับตัวอย่างลายมือชื่อที่แท้จริงของนายเกษม แล้วสรุปผลการตรวจพิสูจน์ว่าลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าวไม่น่าจะเป็นลายมือชื่อของนายเกษม ซึ่งเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงตามคำฟ้องของนายเกษมแล้วว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม

การที่คุณหญิงกอแก้วใช้เอกสารดังกล่าวเป็นหลักฐานในการโอนหุ้นให้แก่ตนเองโดยมีนายณพ ลงลายมือชื่อเป็นพยาน และนายสุรัตน์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนคนเดียวของบริษัทที่เกี่ยวข้องเช่นนี้ จำเลยทั้งสามย่อมจะต้องทราบถึงความเป็นมาของเอกสารดังกล่าว หากเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอมจำเลยทั้งสามก็น่าจะทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวเช่นเดียวกัน

พยานหลักฐานของนายเกษมที่นำสืบมาในชั้นไต่สวนมูลฟ้องจึงมีข้อเท็จจริงในเบื้องต้นของมูลคดีเพียงพอที่ศาลจะประทับฟ้องไว้พิจารณาแล้ว

หลังจากนี้ คุณหญิงกอแก้ว นายณพ และนายสุรัตน์ จำเลยทั้งสาม มีหน้าที่จะต้องมาทำเรื่องประกันตัวต่อศาลอาญา โดยศาลอาญามีนัดสอบคำให้การจำเลยทั้งสามในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งสัญญาแต่งตั้งตัวแทน ตราสารการโอนหุ้น และใบสำคัญการซื้อขายหุ้น ที่นายเกษมนำมาฟ้องคุณหญิงกอแก้ว กับพวก ในคดีนี้ เป็นเอกสารเดียวกันกับที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทำการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อของนายเกษมในต้นฉบับเอกสารดังกล่าว และได้มีรายงานการตรวจพิสูจน์ว่าเป็นลายมือชื่อปลอม ไม่ใช่ลายมือชื่อของนายเกษม

ทั้งนี้ คดีนี้เคยเป็นข่าวโด่งดังเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ต่อมาคดีนี้เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ปี2561ศาลอาญาพิจารณามีคำสั่งไม่รับฟ้อง ทำให้ นายเกษม จึงยื่นอุทธรณ์ต่อ

ที่มาของคดีเริ่มจากต้นปี 2561 บริษัทซิมโฟนี่ พาร์เนอร์ (เอสพีแอล) บริษัทเน็กซ์โกลบอล อินเวสเมนท์ (เอ็นจีไอ) และ บริษัท ไดนามิค ลิ้งค์ เวนเจอร์ (ดีแอลวี) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายณพ ณรงค์เดช และผู้เกี่ยวข้อง ในคดีซื้อขายหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH)

ต่อมาในช่วงปี 2558 บริษัทซิมโฟนี่ พาร์เนอร์ (เอสพีแอล) บริษัทเน็กซ์โกลบอล อินเวสเมนท์ (เอ็นจีไอ) และ บริษัท ไดนามิค ลิ้งค์ เวนเจอร์ (ดีแอลวี) ได้ขายหุ้นประมาณร้อยละ 99 ของหุ้นวินด์ ให้กับ เคพีเอ็น อีที (ซึ่งในขณะนั้นใช้ชื่อว่าบริษัท รีนิวเอเบิล เอนเนอยี คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด และถือหุ้นในวินด์ เอนเนอร์ยี่ในสัดส่วนร้อยละ 59.4) ในราคาตามสัญญาทั้งสิ้น 700 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดชำระเงินเป็นหลายงวด

จากนั้น ผู้ซื้อหุ้นดังกล่าว คือ ฟุลเลอร์ตัน เบย์ อินเวสเม้นท์ ลิมิเต็ด และ บริษัท เคพีเอ็นเอนเนอยี่โฮลดิ้ง จำกัด หรือ เคพีเอ็น อีเอช แต่ในภายหลังดีลซื้อขายหุ้นดังกล่าว มีปัญหาชำระค่าหุ้นไม่ครบถ้วน ซึ่งเอสพีแอล เอ็นจีไอ และดีแอลวี กล่าวอ้างว่าได้รับความเสียหายจากการผิดนัดชำระค่าหุ้น อยู่ที่ตัวเลขประมาณ 876,522,933.77 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 29,731,658,521.66 บาท และเรียกร้องให้มีการใช้หนี้ค่าหุ้นดังกล่าว แต่ตกลงกันไม่ได้ จนนำไปสู่การฟ้องร้องคดี

ในช่วงเวลานั้นเอง ครอบครัวณรงค์เดช-กลุ่มบริษัทเคพีเอ็น ได้ออกแถลงการณ์ ประกาศไม่ขอรับผิดชอบกับการกระทำใดๆของนายณพ และ ยื่นฟ้อง คุณหญิงก่อแก้ว บุญยะจินดา แม่ ภรรยาของนายณพ และ นายณพ ใช้เอกสารปลอมในการโอนหุ้นวินด์ฯ หลังตรวจสอบพบข้อมูลว่า ในช่วงเดือนเม.ย.2559 หลังจากที่ ฟุลเลอร์ตัน เบย์ อินเวสเม้นท์ ลิมิเต็ด และ บริษัท เคพีเอ็นเอนเนอยี่โฮลดิ้ง จำกัด เข้ามาถือครองหุ้นวินด์ ต่อจาก เอสพีแอล เอ็นจีไอ และดีแอลวี หุ้นทั้งหมด ได้ถูกโอนต่อมาในชื่อของนายเกษม โดย หุ้นทั้งหมดได้ถูกโอนต่อไปที่บริษัท Golden Music Limited ในฮ่องกง โดยปรากฏชื่อนายเกษม เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ในช่วงเดือน ส.ค.2560

หลังจากนั้นในช่วงเดือน มิ.ย.2560 ชื่อของนายเกษม ก็ถูกถอดออกจากการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ปรากฏชื่อ คุณหญิงก่อแก้ว บุณยะจินดา แม่ภรรยานายณพ เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทน โดยอ้างเอกสารสัญญาแต่งตั้งตัวแทนระหว่างคุณหญิงก่อแก้วกับ นายเกษม ที่ทำขึ้นเมื่อวันที่ 25 เม.ย.2559 มีนายณพ ลงนามเป็นพยาน ซึ่งเอกสารการโอนหุ้นทั้งหมด ขณะที่ นายเกษม ยืนยันว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย ลายเซ็นไม่ใช่ของตนเอง เป็นเอกสารปลอมที่ทำขึ้นทั้งหมด
ครอบครัวณรงค์เดช (ภาพจากแฟ้ม)
กำลังโหลดความคิดเห็น