xs
xsm
sm
md
lg

ทุนจีน “ไฮไชน์” ไม่หวั่น ศก.ไทยขาลง ทุ่มกว่า 2 หมื่นล้าน ผุดอสังหาฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:

เฉิน ซู่เฟิง
ทุนจีน “ไฮไชน์” ไม่หวั่นอสังหาฯ ไทยยุคขาลง เชื่อแนวโน้ม 2 ปีเติบโต ทุ่มงบกว่า 2 หมื่นล้าน ผุดคอนโดฯ 4 โครงการ บ้านมิกซ์ยูสรวม 5 โครงการ เจาะกลุ่มลูกค้าคนไทย-ต่างชาติ

นายเฉิน ซู่เฟิง ประธานกรรมการประจำภูมิภาค บริษัท ไฮไชน์ ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท ไฮไชน์ กรุ๊ป เป็นกลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์จากฮ่องกงและจีน ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนากว่า 138 โครงการ ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน มีรายได้เฉลี่ยปีละกว่า 1 แสนล้านบาท โดยบริษัทมีนโยบายขยายการลงทุนไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยที่ผ่านมา ได้ลงทุนในจีน มาเลเซีย และไทย นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนในเวียดนามและพม่า

ปัจจุบัน บริษัท ไฮไชน์ ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด มีการลงทุนและพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ 5 โครงการ มูลค่าการลงทุนกว่า 22,500 ล้านบาท โดยเปิดขายไปแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการรีเกิล สาทร-นราธิวาส ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 40% โครงการรีเกิล บางนา มียอดขายแล้ว 20%

และในเดือนพฤศจิกายน บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการรีเกิล ศรีนครินทร์ 40 คอนโดอาคาร 8 ชั้น มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ตั้งอยู่ในซอยศรีนครินทร์ 40 และใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ห่างจากซีคอนสแควร์ 400 เมตร และ 700 เมตรจากห้างสรรพสินค้าพาราไดซ์ พาร์ค

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรบนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ โดยจะเป็นโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วย ที่อยู่อาศัยและห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีแผนจะเปิดขายในช่วงปลายปีนี้
รีเกิล สุขุมวิท 76
ล่าสุด บริษัทได้เปิดขายโครงการรีเกิล สุขุมวิท 76 เป็นโครงการมิกซ์ยูส มีอาคารที่พักอาศัย 8 อาคาร จำนวน 4,931 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 1.79 ล้านบาท และพื้นที่ศูนย์การค้า 15,000 ตร.ม. ตั้งอยู่บนถนนสายหลักของรถไฟฟ้าระหว่างแบริ่งและสถานีสำโรง มูลค่าโครงการกว่า 16,000 ล้านบาท

นายเฉิน กล่าวต่อว่า แม้ว่าขณะนี้ตลาดอสังหาฯ ไทยอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่บริษัทเชื่อว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยและตลาดอสังหาฯ จะกลับมาเติบโตอีกครั้งในอีก 2 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มการขยายตัวที่ดี เนื่องจากประชากรย้ายมาทำงานในเมืองเป็นส่วนใหญ่ ทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ จำนวน 3,000 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นเป็น 4,500 ล้านบาทในปี 2563
กำลังโหลดความคิดเห็น