xs
xsm
sm
md
lg

“อารักษ์” ยันแลกหุ้น KPN ย้ำมีเงื่อนไขและติดไซเรนพีเรียด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


“อารักษ์” ยันไม่ทิ้ง “อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค” เพราะเป็นธุรกิจของครอบครัวที่ปั้นและเติบโตมานาน เผยเปิดทางแลกหุ้น KPN ภายใต้เงื่อนไขอีกฝ่ายต้องเคลียร์ปัญหาหนี้สินให้จบก่อนจึงจะเดินหน้าปิดดีล หวังทั้งสองฝ่ายเอื้อธุรกิจกันในอนาคต

นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติเห็นชอบการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ บริษัท เคพีเอ็น อะคาเดมี จำกัด (KPNA) ในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 57.52 ของหุ้นสามัญทั้งหมดของ KPNA ด้วยวิธีการแลกหุ้นสามัญ (Share Swap) คิดเป็นมูลค่ารวมการลงทุนไม่น้อยกว่า 460.18 ล้านบาท

ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวอยู่ภายใต้เงื่อนไขเบื้องต้นคือ KPN ต้องเคลียร์ตัวเลขหนี้สินให้จบและให้ EBITDA ไม่ติดลบ และต้องติดไซเรนพีเรียดหุ้นที่แลกไปในระยะเวลาที่ตกลงกัน ซึ่งขณะนี้เงื่อนไขข้อตกลงยังไม่เสร็จสิ้น และทาง ECF ต้องรอมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น 28 พ.ย. 62 นี้ และคาดจะปิดดีลได้ต้นปี 63

"ขอให้เชื่อมั่นว่าสิ่งที่ผมตัดสินใจและเลือกนั้นจะไม่กระทบผู้ถือหุ้นและ ECF แน่นอน ในส่วนงบการเงินของทาง KPN ที่ยังมีภาระหนี้สินและอื่นๆ ที่ยังมีปัญหาเราให้เวลาเขาไปเคลียร์ให้จบก่อน ECF จะไม่รับสิ่งที่เป็นพันธะหรือภาระหนี้สินเข้ามา เพราะผมถือว่าการลงทุนต้องเสมอตัว และเชื่อมั่นเถอะว่าผมไม่ทิ้งหรือขาย ECF ทิ้งแน่นอน เพราะเป็นธุรกิจที่ตระกูลผมสร้างขึ้นมาเอง และเรายังถือหุ้นใหญ่"

นายอารักษ์กล่าวถึงการตัดสินใจแลกหุ้นครั้งนี้เพราะ ECF มองว่าจะเติบโตไปพร้อมกัน ทั้งการเอื้อประโยชน์ต่อกัน เพราะ "ณพ ณรงค์เดช" ต้องการปัดฝุ่นธุรกิจนี้ให้คืนชีพอีกครั้ง หลังจากหันไปให้ความสนใจธุรกิจพลังงานใน "วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง" มาหลายปี ขณะ ECF มองถึงการขยายงานในธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ที่ยังคงทำรายได้หลักให้บริษัทเสมอมา และแม้ระยะหลังจะขยายงานด้านพลังงานทดแทนมากขึ้นก็ตาม

"ผมมองว่า KPN มีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาเขาโฟกัสไปที่พลังงาน คือวินด์ฯ ทำให้ส่วนของแบรนด์ KPN ดรอปไปหลายปี แต่ตอนนี้เขาจะหันมาพัฒนาและขยายสาขาให้มากขึ้น แบรนด์ KPN เป็นที่รู้จักแพร่หลาย คือโรงเรียนสอนภาษา และโรงเรียนกวดวิชา ทาง KPN ต้องการมาแพกกับ ECF ในส่วนของสาขาที่ทั้งเราเขาจะเปิดเพิ่มก็จะแพกกันไป เราจะได้ในส่วนการซัปพอร์ต เฟอร์นิเจอร์ พื้น ราวบันไดและอื่นๆ เพื่อสาขานั้นๆ"

สำหรับประโยชน์ที่ได้รับจากการลงทุนครั้งนี้ เพื่อเป็นการขยายและแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจใหม่ที่มีโอกาสเติบโตในอนาคตภายใต้แบรนด์โรงเรียนสอนดนตรีที่เก่าแก่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในประเทศไทย ทั้งนี้ การเข้าลงทุนดังกล่าวจะเป็นไปตามเงื่อนไขบังคับก่อนที่มีข้อตกลงร่วมกัน โดยผู้ขายจะต้องดำเนินการตามเงื่อนไขให้แล้วเสร็จและครบถ้วนก่อนการเข้าทำรายการ คาดว่าการเข้าลงทุนจะแล้วเสร็จภายในไม่เกินเดือนมกราคม 2563
กำลังโหลดความคิดเห็น