นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างสรุปแผนฟื้นฟูกิจการ และแผนธุรกิจ เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทพิจารณาในเดือน พ.ย.นี้ และคาดว่าจะนำแผนไปสู่การปฏิบัติได้ในเดือน ธ.ค. 2562 ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาขาดทุนและพลิกฟื้นธุรกิจได้ต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแนวทางในการเพิ่มรายได้จากธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากค่าโดยสาร และลดค่าใช้จ่าย ซึ่งจะทยอยดำเนินการตั้งแต่ไตรมาส 4/ 2562 และคาดว่าจะทำให้ผลประกอบการของไตรมาส 4 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ซึ่งจะมีการเพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่ด้านตั๋วโดยสารมากขึ้น ซึ่งสายการบินอื่นๆ มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอื่นๆประมาณ 20-30% ขณะที่ปัจจุบันนกแอร์มีรายได้จากธุรกิจอื่นเพียง 8-12% ทำให้ยังมีช่องว่างที่จะเพิ่มรายได้ในส่วนนี้อีก โดยมีแผนงาน ได้แก่ โครงการ 1 อำเภอ 1 โรงแรม โดยร่วมมือกับตัวแทนด้านท่องเที่ยว และโรงแรมที่นกแอร์มีเส้นทางบิน เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เพื่อทำแพกเกจบริการที่ครอบคลุมไปถึงที่พัก จากโรงแรมที่เป็นพันธมิตรของนกแอร์ ในราคาที่ถูก ซึ่งอยู่ระหว่างหารือกับเชนโรงแรมรายใหญ่ต่างประเทศ
นอกจากนี้ จะร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในเรื่องรถเช่า คือ บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA เพื่อเป็นคนกลางในการเจรจากับผู้ประกอบการรถเช่าให้เข้ามาร่วมให้บริการ ซึ่งจะมีการพัฒนาระบบแอปฯ ที่เชื่อมกับนกแอร์ เพื่อให้มีความสะดวกแก่ผู้โดยสาร รวมถึงการจับมือกับผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัดเพื่อจัดทริปให้ผู้โดยสารได้ครบวงจร เป็นการเพิ่มช่องทางการเพิ่มรายได้ในทุกรูปแบบ
@ทุ่ม 100 ล้านสำรองอะไหล่ แก้ปัญหาเที่ยวบินดีเลย์
นายวุฒิภูมิกล่าวว่า บริษัทฯ ได้พยายามแก้ไขปัญหาการให้บริการทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะปัญหาเที่ยวบินล่าช้า ซึ่งหลังจากที่ตนได้เข้ามาบริหารนกแอร์ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการจัดหาอะไหล่ โดยมีการลงทุนประมาณ 100 ล้านบาททำ Home Base Stock จัดหาอะไหล่ในการซ่อมบำรุงเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งจะทำให้สามารถซ่อมบำรุงเครื่องบินได้ทันที จากเดิมที่ต้องเสียเวลาในการสั่งซื้ออะไหล่นาน 3-7 วัน โดยเริ่มมีการสั่งซื้ออะไหล่จากประเทศสิงคโปร์เข้ามาแล้ว นอกจากนี้ยังยกเลิกการจัดซื้ออะไหล่ผ่านตัวแทน เปลี่ยนเป็นการซื้อตรง ทำให้ลดค่าใช้จ่ายลงถึง 30%
“เมื่อก่อนนกแอร์มีปัญหาเงินทุน ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้ไม่สามารถสต๊อกอะไหล่ได้ แต่วันนี้เรามีเงินกู้ 3,000 ล้านบาทมาใช้หมุนเวียน จึงตัดสินใจแก้ปัญหาเรื่องนี้ นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงเรื่องตารางการบินให้สอดคล้องกับการให้บริการจริง ซึ่งปัจจุบันสนามบินดอนเมืองมีเที่ยวบินหนาแน่น ต้องเผื่อเวลาช่วงรอทำการบินจาก 30 นาที เป็น 45 นาที ซึ่งจะทำให้มีการบริการที่ตรงต่อเวลามากขึ้น”
ในปี 2562 ได้มีการจัดหาเครื่องบินเพิ่ม 2 ลำ เพื่อรองรับการเปิดเส้นทางบินใหม่ไปยังต่างประเทศ 2 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-กูวาฮาติ ประเทศอินเดีย ซึ่งเปิดให้บริการแล้วเมื่อกลางเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา 2 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ในวันพุธ และเสาร์ มีผลตอบรับจากนักท่องเที่ยว นักลงทุนมากกว่าเป้าหมาย และช่วงเดือน พ.ย.จะเปิดตัวเส้นทางกรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-ฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น เริ่มบิน 20 ธันวาคม 2562
นอกจากนี้ นโยบายในการเปิดเส้นทางบินใหม่จะมุ่งเน้นที่เมืองรอง เพื่อลดการแข่งขันในเมืองหลัก เนื่องจากการเป็น Premium Budget Airlines จะแข่งขันด้านคุณภาพเพื่อตอบโจทย์การเดินทางที่หลากหลายโดยไม่แข่งขันด้านราคา โดยจะเปิดเส้นทางบินไปยังเมืองรองของประเทศจีนมากขึ้น