เมื่อความต้องการพลังงานมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้กลุ่ม ปตท. บริษัทพลังงานแห่งชาติ เริ่มที่จะทำตลาดธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันและก๊าซมากขึ้น หลังประสบความสำเร็จในการปั้นแบรนด์ร้านกาแฟ "คาเฟ่ อเมซอน" ก่อนแตกไลน์เป็นธุรกิจอื่นๆ ล่าสุด เริ่มผลิตไอศกรีมกะทิสดแท้ 100% “กะทิสด สเตชั่น” เริ่มวางจำหน่ายไปเมื่อไม่นานมานี้
Ibusiness Review สำรวจร้านไอศกรีม “กะทิสด สเตชั่น” แห่งแรก ภายในปั๊ม ปตท. NGV สาขาเอกชัย (ขาเข้า) ช่วงระหว่างถนนบางบอน 3 กับถนนกาญจนาภิเษก พบว่าเป็นเพิงขนาดเล็ก พนักงานกล่าวกับเราว่า เพิ่งเปิดขายไปเมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งจากการสังเกตลูกค้าที่มาซื้อมีทั้งที่มาเติมก๊าซเอ็นจีวี และชาวบ้านละแวกใกล้เคียง
เนื้อไอศกรีมสีขาวนวล รสชาติหอมมัน ไม่หวานจนเกินไป คือจุดเด่นของไอศกรีมกะทิสดแห่งนี้ แหล่งข่าวจาก ปตท. เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ได้ใช้วัตถุดิบคือมะพร้าว จากพื้นที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ แหล่งปลูกมะพร้าวแหล่งใหญ่แห่งหนึ่งของไทย นำมาคั้นกะทิเพื่อผลิตเป็นไอศกรีมกะทิสด 100%
โดย ปตท. มีความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีวัตถุดิบคือมะพร้าว และมีความเชี่ยวชาญในการผลิตกะทิ ทำให้ได้สูตรการผลิตไอศกรีมกะทิสดที่เสร็จสมบูรณ์ ชูรสชาติที่หอม มัน อร่อย เพราะใช้ความมันจากตัวกะทิสดเต็มๆ และไม่หวานเกินไป ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ดูแลสุขภาพ
ไอศกรีมกะทิสด “กะทิสด สเตชั่น” แบ่งจำหน่ายออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ไอศกรีมใส่โคน ราคา 15 บาท, ไอศกรีมใส่ถ้วย ราคา 20 บาท และไอศกรีมใส่ขนมปัง ราคา 20 บาท แต่ละประเภทจะโรยหน้าด้วยถั่วลิสง นอกจากนั้น ยังมีน้ำมะพร้าว (ใส่ถุง) ในราคาถุงละ 10 บาทอีกด้วย
ขณะนี้อยู่ในระหว่างศึกษารูปแบบการทำตลาด อาทิ จำหน่ายผ่านปั๊ม NGV หรือรถเข็น รวมทั้งประเมินผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย เพื่อกำหนดรูปแบบเจาะตลาดให้เหมาะสม เริ่มต้นในปี 2562 มีแผนที่จะเพิ่มจุดจำหน่ายให้ครบ 5 แห่ง ก่อนจัดทำแผนธุรกิจที่ชัดเจนต่อไป
ก่อนหน้านี้ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ปตท. เคยนำความเย็นจากกระบวนการผลิต LNG ไปใช้ปลูกสตรอว์เบอร์รี ในโรงเรือนระบบปิด ที่โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง ซึ่งได้นำสตรอว์เบอร์รีสายพันธุ์ "ฮากิไฮเม" จากประเทศญี่ปุ่นมาปลูก ด้วยจุดเด่นผลใหญ่ เรียวยาว สวยงาม เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ รสชาติหวานซ่อนเปรี้ยว กระทั่งประสบความสำเร็จ
ปัจจุบัน วางจำหน่ายในชื่อแบรนด์ "ฮารุมิกิ" ที่กรูเมต์ มาร์เก็ต ชั้น G สยามพารากอน ในราคาเริ่มต้นที่ 590 บาท เพื่อเสริมรายได้ธุรกิจก๊าซธรรมชาติของ ปตท. ถือเป็นการนำความเย็นส่วนที่ถูกทิ้งจากกระบวนการผลิต LNG มาใช้ประโยชน์เพื่อสร้างรายได้ นอกเหนือจากนำไปใช้เป็นระบบปรับอากาศในอาคารสำนักงาน
นอกจากนี้ ปตท. ยังร่วมมือกับกรมพัฒนาที่ดิน คัดเลือกพื้นที่นำร่อง 3 แห่ง ให้เกษตรกรได้ใช้ "ปุ๋ยสั่งตัด" (ปุ๋ยที่ใช้สูตรตรงตามความต้องการของพืชแต่ละพื้นที่) ก่อนศึกษาช่องทางการจำหน่ายโดยใช้ปั๊มน้ำมัน ปตท. เพื่อลดช่องว่างช่วยเหลือเกษตรกร เข้าถึงปุ๋ยในราคาจับต้องได้ และลดต้นทุนการผลิตเมื่อเทียบกับการใช้ปุ๋ยแบบเดิม
ตั้งแต่ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ ไก่ทอด ติ่มซำ โดนัท มาจนถึงปลูกสตรอว์เบอร์รี และล่าสุด ทำไอศกรัมกะทิสด อาจเรียกได้ว่า กลุ่ม ปตท. กำลังเดินหน้าธุรกิจเสริมที่ไม่ใช่น้ำมันและก๊าซเพื่อสร้างรายได้ นอกเหนือจากธุรกิจน้ำมันและก๊าซ ที่มีปัจจัยเสี่ยงจากราคาพลังงาน นโยบายภาครัฐ และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
(เกาะกระแสธุรกิจ เศรษฐกิจสดใหม่ เรื่องราวการตลาดที่ใกล้ชิดผู้บริโภค กับ Ibusiness Review ที่นี่ที่เดียว! ทางเฟซบุ๊ก Ibusiness และเว็บไซต์ ibusiness.co)
