กพช.เห็นชอบแนวทางพลังงานเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ปักหมุด "โรงไฟฟ้าชุมชน" ดึงวัสดุทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิง "สนธิรัตน์" ลั่นเตรียมทำรายละเอียดต่างๆ ทั้งพื้นที่ ราคา ฯลฯ คาด 2 เดือนได้ข้อสรุปเปิดทางดึงบริษัทลูก กฟผ.และ กฟภ.เข้าร่วมพัฒนา พร้อมวางเป้าทบทวนโซลาร์ภาคประชาชนจูงใจติดตั้งมากขึ้น
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานวันนี้ (11 ก.ย.) ว่า กพช.ได้เห็นชอบแนวทางการพัฒนาโรงไฟฟ้าชุมชนที่เน้นใช้วัสดุทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิงการผลิต โดยมอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบาย (กบง.) พิจารณารายละเอียดในการส่งเสริม เช่น ราคาซื้อไฟส่วนเกิน พื้นที่และขนาดโรงไฟฟ้ารวมถึงระบบส่งที่พร้อมรับ ฯลฯ โดยคาดว่าจะสรุปรายละเอียดทั้งหมดใน 2 เดือน มีเป้าหมายเปิดรับข้อเสนอโรงไฟฟ้าชุมชนที่จะให้มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบไม่เกินปี 2565
"นี่เป็นนโยบายพลังงานเพื่อเศรษฐกิจฐานรากที่ต้องการให้ชุมชนมีรายได้ด้วยการเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า และลดภาระรายจ่าย สร้างอาชีพให้ชุมชนในการใช้วัสดุทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิง โดยหลักการจะเน้นผลิตเพื่อใช้เอง โดยเฉพาะในพื้นที่บนเกาะ ภูเขา เพื่อลดการลงทุนสายส่ง ส่วนเชื้อเพลิงก็อาจจะเป็นรูปแบบผสมผสานหรือไฮบริดก็ได้ ก็คงต้องรอรายละเอียด" รมว.พลังงานกล่าว
สำหรับรูปแบบการลงทุนนั้นคงจะต้องมาดูว่าสัดส่วนจะเป็นอย่างไร แต่จะดึงให้ชุมชนมีส่วนร่วม มีภาคเอกชน รวมถึงการให้บริษัทลูกของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เข้ามาร่วมดำเนินการเพื่อให้โรงไฟฟ้ามีการบริหารจัดการที่อยู่ได้ในระยะยาวเพราะลำพังชุมชนคงไม่สามารถบริหารจัดการโรงไฟฟ้าได้เอง ขณะเดียวกันก็จะดึงกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานเข้ามาสนับสนุน
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังได้รายงาน กพช.ที่จะทำนโยบายพลังงานเพื่อเศรษฐกิจฐานรากในระดับครัวเรือนเป็นเป้าหมายต่อไปจากโรงไฟฟ้าชุมชน ด้วยการทบทวนหลักเกณฑ์โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัยภาคประชาชน (โซลาร์ภาคประชาชน) ให้จูงใจมากขึ้นเนื่องจากโครงการดังกล่าวที่นำร่องรับซื้อไฟฟ้าที่เหลือจากการใช้ปี 2562 จำนวน 100 เมกะวัตต์ไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนักเพราะยังขาดแรงจูงใจให้ประชาชนติดตั้งเพราะยังไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
"ยอมรับว่าทั้งปีนี้คงไม่ถึงเป้าหมาย 100 เมกะวัตต์ ก็ต้องมาดู 2 เรื่อง คือ 1. ความคุ้มทุน 2. ติดตั้งแล้วจะเก็บและขายได้อย่างไร ซึ่งต้องมองในเรื่องของระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) การซื้อขายกันเองผ่านบล็อกเชน อย่างไรก็ตาม ราคารับซื้อโซลาร์ภาคประชาชนที่ไม่เกิน 1.68 บาทต่อหน่วยระยะ 10 ปีนั้นก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะต้องมาทบทวนเช่นกัน" นายสนธิรัตน์กล่าว
นอกจากนี้ กพช.ยังเห็นชอบตามมติ กบง.เมื่อ 30 ส.ค.ในการยกระดับราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ของประเทศ โดยเริ่มขยายส่วนต่างราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 ให้ต่ำกว่า B7 ที่ 2 บาทต่อลิตร และลดส่วนต่างราคาขายปลีกน้ำมัน B20 ให้ต่ำกว่าน้ำมัน B7 ที่ 3 บาทต่อลิตร เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ ยังเห็นชอบการบังคับใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 เป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเกรดพื้นฐาน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 โดยให้น้ำมัน B7 และ B20 เป็นทางเลือก