xs
xsm
sm
md
lg

BGRIM ปูพรมลุยโรงไฟฟ้าในอาเซียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:




บี.กริม เพาเวอร์เดินหน้าลงทุนโรงไฟฟ้าทั่วอาเซียนและเกาหลีใต้ โดยเพิ่มมน้ำหนักลงทุนในเวียดนามหลังรัฐส่งเสริมพลังงานสะอาด

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (BGRIM) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนโรงไฟฟ้าในหลายประเทศทั่วอาเซียน รวมทั้งเกาหลีใต้ โดยบริษัทได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนโรงไฟฟ้าสีเขียวที่เวียดนาม หลังจากมีความเชื่อมั่นการเติบโตทางเศรษฐกิจทำให้การใช้ไฟฟ้าในเวียดนามโตอย่างต่อเนื่อง

บริษัทสนใจและศึกษาความเป็นไปได้การลงทุนทั้งโรงไฟฟ้าพลังลม พลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ด้วย หลังจากเวียดนามมีแผนเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนให้ได้ 21% จากปัจจุบันมีสัดส่วนไม่ถึง 10% ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน โรงไฟฟ้า DAU TIENG3(DT3) ขนาดกำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ ซึ่งสามารถขยายกำลังผลิตได้ถึง 120 เมกะวัตต์ เนื่องจากเจ้าของโรงไฟฟ้า DT3 ได้ใบอนุญาตพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 120 เมกะวัตต์

ก่อนหน้านี้ บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินที่จ่ายไฟเชิงพาณิชย์แล้วในเวียดนาม ได้แก่ โครงการ DT1-DT2 กำลังการผลิตติดตั้งรวม 420 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Phu Yen TTP กำลังการผลิต 257 เมกะวัตต์ ทำให้บริษัทรับรู้รายได้ทั้ง 3 โรงไฟฟ้าดังกล่าวเฉลี่ย 3 พันล้านบาทต่อปี

สำหรับกัมพูชาอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ส่วนลาวก็มีการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาด 30 เมกะวัตต์ ส่วนโรงไฟฟ้าเซกอง 4 ขนาด 340 เมกะวัตต์นั้น เป็นโรงไฟฟ้าที่ร่วมทุนกับราช กรุ๊ป อยู่ระหว่างเจรจาขายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้

ส่วนเกาหลีใต้ ทางบริษัทได้ร่วมถือหุ้นกับ Korean Midland Power Co.,Ltd. (KOMIPO) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของเกาหลีใต้ เพื่อศึกษาโอกาสร่วมลงทุนพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด, ฟิลิปปินส์ บริษัทศึกษาลงทุนโครงการโซลาร์รูฟท็อปในโรงงานผลิตนม กำลังผลิตไฟฟ้า 6 เมกะวัตต์ คาดว่าจะมีความชัดเจนในการลงทุนเร็วๆ นี้ และมาเลเซียก็มองโอกาสโรงไฟฟ้าก๊าซฯ และพลังงานทดแทน

นางปรียนาถกล่าวถึงการลงทุนในไทยว่า บริษัทยังมองหาโอกาสการลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่มทั้ง IPP และ SPP รวมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนที่ภาครัฐส่งเสริม เนื่องจากเป็นโครงการที่ดี กระจายความเจริญไปสู่ชนบท สอดคล้องกับค่านิยมของบริษัทที่ต้องการทำประโยชน์เพื่อสังคมแม้มีความสามารถการทำกำไรไม่มากก็ตาม

ปัจจุบันบริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซฯ เป็นเชื้อเพลิง 7 โครงการรวม 700 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ทดแทนโรงไฟฟ้าเดิมที่หมดอายุลง (SPP replacement) และอีก 2 โครงการเป็นการย้ายโรงไฟฟ้า BGPR-1 และ BGPR-2 กำลังการผลิตรวม 240 เมกะวัตต์ จากนิคมฯ วี.อาร์.เอ็ม จ.ราชบุรี ไปยังนิคมฯ อ่างทอง จ.อ่างทอง ขณะนี้รอการอนุมัติจากภาครัฐ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปีหน้า

ส่วนของเชื้อเพลิงก๊าซฯ ที่จะป้อนให้โรงไฟฟ้าทั้ง 7 โครงการนั้น บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะซื้อก๊าซ LNG จาก ปตท.เช่นเดิม หรือจะหันเป็นนำเข้าจากต่างชาติแทน ทั้งนี้ คงต้องรอความชัดเจนการเปิดเสรีธุรกิจ LNG จากภาครัฐ โดยจะศึกษาการนำเข้า LNG ทั้งในไทย และเวียดนามไปพร้อมกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น