xs
xsm
sm
md
lg

“วอลเลแบ็ก”เสื้อยืดเปลี่ยนสีได้ย่อยสลายใน3เดือน

เผยแพร่:

สีสกัดจากสาหร่ายจะทำให้เสื้อเปลี่ยนสีเมื่อใส่ไปนานๆ (ภาพจากเว็บไซต์วอลเลแบ็ก)
จากจุดเริ่มต้นเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่พี่น้องสองคนต้องการสร้างเสื้อผ้าที่คำนึงถึงอนาคต มีประโยชน์ใช้สอยครบถ้วน ทนทาน และทิ้งรอยเท้าคาร์บอนน้อยที่สุด จนถึงวันนี้ผลิตภัณฑ์ล่าสุดของ “วอลเลแบ็ก” คือเสื้อยืดที่ผลิตจากสาหร่ายและเยื่อไม้ยูคาลิปตัสที่ย่อยสลายได้ 100% ภายใน 12 สัปดาห์ เสื้อยืดรักษ์โลกรุ่นนี้ยังยูนีกสุดๆ ตรงที่เมื่อใส่ไปนานๆ สีจะไม่เหมือนเดิม

หลังจากระดมทุนรอบ Seed ไม่กี่รอบ วอลเลแบ็ก สตาร์ทอัพเทคโนโลยีการผลิตเสื้อผ้าของนิก และสตีฟ ทิดบอลล์ ซึ่งเป็นทั้งนักกีฬาและนักออกแบบ ได้พัฒนาเสื้อผ้าสุดไฮเทคออกมาหลายรุ่น อาทิ “100 Year Pants” กางเกงสำหรับหนุ่มขาลุย ทนน้ำ ทนไฟ ระบายอากาศได้ดี เนื้อผ้านุ่มสบายใส่ได้นานกว่าศตวรรษ และ “Solar Charged Jacket” ที่ผลิตจากวัสดุพิเศษทำให้สามารถชาร์จพลังงานจากแสงอาทิตย์เพื่อให้แจ็คเก็ตเรืองแสงในที่มืด แจ็คเก็ตสุดพิเศษรุ่นนี้กวาดรางวัลจากหลากหลายสถาบัน อาทิ สุดยอดนวัตกรรมปี 2018 จากนิตยสารไทม์, นวัตกรรมการออกแบบจากฟาสต์ คอมปานี นิตยสารด้านเทคโนโลยี ธุรกิจ และการออกแบบ และอุปกรณ์แห่งปีของนิตยสารด้านเทคโนโลยี ไวร์เร็ด

เดือนสิงหาคมปีนี้ วอลเลแบ็กยกระดับเสื้อผ้าเพื่อสิ่งแวดล้อมสู่มิติใหม่ด้วยการพัฒนาเสื้อยืดที่ผลิตจากสาหร่ายที่เจริญเติบโตในถังปฏิกรณ์ชีวภาพ เยื่อยูคาลิปตัสและต้นบีชจากป่าที่ยั่งยืน

สตีฟ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) และผู้ร่วมก่อตั้งวอลเลแบ็กบอกว่า จุดประสงค์ของบริษัทคือการพัฒนาเสื้อผ้าจากวัสดุธรรมชาติทั้งหมดเพื่อให้เสื้อผ้าเหล่านั้นคืนกลับสู่ธรรมชาติโดยไม่ทิ้งมลพิษใดๆ เมื่อสิ้นสุดอายุการใช้งาน

เสื้อยืดของวอลเลแบ็กจะย่อยสลาย 100% ภายใน 12 สัปดาห์ เทียบกับเสื้อผ้าทั่วไปที่ต้องใช้เวลาหลายทศวรรษหรือหลายศตวรรษกว่าจะย่อยสลายได้ทั้งหมด นี่จึงอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการแฟชั่นที่สร้างมลพิษให้โลกอย่างร้ายแรง

ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมของอเมริกาพบว่า ในปี 2015 มีเสื้อผ้าและรองเท้าเพียง 14.2% ที่ถูกรีไซเคิล ขณะที่เสื้อผ้าและรองเท้า 11.9 ล้านตันถูกโยนทิ้งขยะ และ 8.2 ล้านตันในจำนวนนี้ไปจบลงที่สถานที่ฝังกลบ

แม้มีความพยายามทั้งจากหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรเอกชนเพื่อลดจำนวนขยะ เช่น นิวยอร์กซิตี้ที่จัดจุดทิ้งเสื้อผ้าเพื่อนำไปรีไซเคิลไว้กว่า 1,000 แห่ง แต่สำหรับวอลเลแบ็กไม่อยากรอแก้ไขที่ปลายเหตุ

ดังนั้น บริษัทจึงออกแบบเสื้อยืดที่ทั้งทันสมัยและดีต่อโลก เพื่อป่าวประกาศว่า วัตถุดิบธรรมชาติสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมล้ำยุคได้ สองพี่น้องยังหวังว่า เสื้อยืดรุ่นนี้จะปลุกจิตสำนึกให้คนเริ่มครุ่นคิดเกี่ยวกับวงจรชีวิตของเสื้อผ้าอื่นๆ ที่อยู่ในตู้ หลังจากพบว่า เมื่อผ่านไปหลายปีหรือหลายสิบปีที่เสื้อยืดของวอลเลแบ็กไม่เป็นที่ต้องการหรือใส่ไม่ได้อีกต่อไป ผู้ใช้สามารถนำไปฝังดินหรือปล่อยทิ้งให้เป็นปุ๋ยแก่ต้นไม้ดอกไม้ แทนที่จะเพิ่มขยะให้โลกเหมือนเสื้อผ้าทั่วไป

เสื้อยืดรุ่นอนุรักษ์ของวอลเลแบ็กทำจากเยื่อไม้ยูคาลิปตัสที่จะถูกแปรรูปเป็นเส้นใย เส้นด้าย และผ้าในที่สุด ต้นยูคาลิปตัสทั้งหมดปลูกในพื้นที่ป่าที่ยั่งยืนซึ่งได้รับการรับรองจากองค์กรอนุรักษ์ป่า 2 แห่งคือ ฟอเรสทรี ซัสเทนาบิลิตี้ เคาน์ซิล และโปรแกรม ฟอร์ เอนดอร์สเมนต์ ออฟ ฟอเรสต์ เซอร์ทิฟิเคชัน

ผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าไหมจะย่อยสลายเร็วกว่าเส้นใยสังเคราะห์ที่ส่วนใหญ่ย้อมด้วยสารเคมีที่สุดท้ายจะซึมซับลงในดิน หรือมีส่วนประกอบของซิปโลหะหรือกระดุมพลาสติกที่ย่อยสลายเองไม่ได้

แต่สำหรับเสื้อยืดของวอลเลแบ็กใช้สีย้อมจากสาหร่ายที่เจริญเติบโตในถังปฏิกรณ์ชีวภาพ ขั้นตอนคือปล่อยน้ำจากถังดังกล่าวผ่านตัวกรองซึ่งจะแยกสาหร่าย ทำให้ได้ผงสาหร่ายก่อนนำไปตากแดดเพื่อให้ผงมีความละเอียดยิ่งขึ้นแล้วจึงผสมกับสารยึดเกาะที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ผลลัพธ์สุดท้ายคือน้ำหมึกสาหร่าย

ดังนั้น เมื่อเลิกใส่แล้วและนำไปฝังดินจึงไม่มีสีย้อมหรือสารเคมีใดๆ รั่วไหลสู่สิ่งแวดล้อม มีเพียงเยื่อไม้ยูคาลิปตัสและสาหร่ายที่จะสูญสลายไร้ร่องรอยภายใน 12 สัปดาห์

อย่างไรก็ตาม ความเร็วในการย่อยสลายขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อม เช่น ถ้าร้อนมาก มีแบคทีเรียและเชื้อราจำนวนมาก เสื้อยืดก็จะย่อยสลายเร็วขึ้น

เสื้อยืดแต่ละตัวยังมีความพิเศษในตัวเอง ด้วยสีสกัดจากธรรมชาติของสาหร่ายที่ทำปฏิกิริยาออกซิเดชันเมื่อสัมผัสกับอากาศ จึงทำให้สีเขียวบนเสื้อเปลี่ยนไปเมื่อใส่ไปนานๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น