xs
xsm
sm
md
lg

“ดีดี”เตรียมให้บริการโรโบแท็กซี่ สนองแผนส่งจีนขึ้นผู้นำAIโลก

เผยแพร่:

รถอัตโนมัติของดีดีที่นำไปโชว์ในงานประชุมปัญญาประดิษฐ์โลกที่เซี่ยงไฮ้ปลายเดือนที่แล้ว
ดีดี ชูซิงเตรียมทดสอบให้บริการโรโบแท็กซี่ในมหานครเซี่ยงไฮ้ เพื่อช่วยแก้ปัญหารถติดด้วยการลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน นอกจากนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายที่ใหญ่กว่าในการผลักดันให้จีนขึ้นเป็นผู้นำ AI โลกในปี 2030

ดีดี ชูซิง บริษัทไรด์เฮลลิงแถวหน้าแดนมังกร ประกาศในงานประชุมปัญญาประดิษฐ์โลกที่เซี่ยงไฮ้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะใช้รถอัตโนมัติระดับ 4 ทั้งหมด 30 รุ่นในการทดสอบให้บริการโรโบแท็กซี่ในเขตเจียติ้งของนครเซี่ยงไฮ้ โดยบริษัทได้ใบอนุญาตทดสอบรถอัตโนมัติในเขตดังกล่าวเมื่อปลายเดือนสิงหาคม และมีแผนให้บริการโรโบแท็กซี่ใน 3 เมืองใหญ่ของจีนในปีหน้าก่อนขยับขยายออกนอกประเทศในปี 2021

ทั้งนี้ รถอัตโนมัติระดับ 4 หมายถึงรถที่สามารถขับเคลื่อนอัตโนมัติในพื้นที่ที่กำหนด แต่คนขับยังสามารถเข้าควบคุมได้

การทดสอบโรโบแท็กซี่จะดำเนินการอยู่ในพื้นที่เฉพาะ ภายใต้สภาวะที่เอื้ออำนวยที่สุดทั้งด้านการจราจรและสภาพอากาศเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ โดยตลอดระยะเวลาการทดสอบซึ่งจะเริ่มต้นในไม่กี่เดือนนี้ ดีดีจะใช้ทั้งรถอัตโนมัติที่มีคนขับประจำอยู่ด้วยและรถอัตโนมัติที่ใช้คนขับ ผู้ใช้สามารถขอรับบริการผ่านแอปฟรี

วัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้คือ เก็บรวบรวมข้อมูลความคิดเห็นของลูกค้า

จาง ป๋อ ประธานธุรกิจรถยนต์อัตโนมัติของดีดี มั่นใจว่า บริษัทมีศักยภาพในการเป็นผู้ให้บริการโครงการโรโบแท็กซี่ขนาดใหญ่รายแรกในจีน โดยขณะนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการทดสอบรถอัตโนมัติในอเมริกา

แท็กซี่ไร้คนขับเป็นวิธีทำกำไรจากรถอัตโนมัติที่ดีกว่าการขายเพื่อนำไปใช้เป็นรถส่วนตัว ส่วนหนึ่งเพราะการทำงานในเส้นทางที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าจะทำให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้น

ผู้ผลิตรถที่ต้องแข่งขันกับบริษัทไฮเทคในการพัฒนารถไร้คนขับต่างฝากความหวังไว้กับโรโบแท็กซี่ เบน บริษัทที่ปรึกษาด้านยานยนต์ คาดว่า โรโบแท็กซี่จะกลายเป็นธุรกิจกระแสหลักภายใน 6-8 ปี ขณะที่ยูบีเอสประเมินว่า โรโบแท็กซี่จะสร้างยอดขาย 12% ของยอดขายรถใหม่ทั้งหมดในปี 2030

เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ดีดีที่ยังขาดทุนอยู่ ตัดสินใจตามรอยอูเบอร์และเวย์โมของอเมริกาด้วยการแยกธุรกิจรถอัตโนมัติและหน่วยงานพัฒนาเทคโนโลยีที่มีต้นทุนสูงออกจากธุรกิจหลัก รวมทั้งพยายามดึงดูดการลงทุนใหม่ๆ

ขณะเดียวกัน แม้ทางการจีนต้องการส่งเสริมรถไร้คนขับ แต่ขั้นตอนการแจกใบอนุญาตการทดสอบดูเหมือนยังมีข้อติดขัดบางอย่าง กระนั้น รัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งเริ่มหันมาหาระบบขนส่งสาธารณะขั้นสูงมากขึ้นเพื่อจัดการปัญหาสภาพการจราจร ตัวอย่างเช่นนครเซี่ยงไฮ้ที่หวังลดจำนวนรถยนต์ส่วนตัวในเขตเจียติ้งลงครึ่งหนึ่งภายใน 3 ปี

นักวิเคราะห์บางคนยังสงสัยว่า โครงการแท็กซี่ไร้คนขับจะอยู่รอดได้ในเชิงพาณิชย์หรือไม่ในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากโครงการเหล่านี้ยังเป็นแค่การทดสอบในพื้นที่และสถานการณ์จำกัดในระยะสั้นถึงระยะกลางเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ดีดีถือเป็นบริษัทจีนรายล่าสุดที่ประกาศโครงการนำร่องโรโบแท็กซี่ขณะที่ปักกิ่งพยายามผลักดันอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งครอบคลุมรถอัตโนมัติ ตามแผนการก้าวขึ้นเป็นผู้นำโลกด้าน AI ในปี 2030

เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ไป่ตู้ กลุ่มกิจการเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เผยว่า มีแผนเปิดตัวโรโบแท็กซี่ที่พัฒนาร่วมกับ FAW ซึ่งเป็นบริษัทรถยนต์ของรัฐบาลในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่ Pony.ai สตาร์ทอัพรถอัตโนมัติที่มีมูลค่าสูงสุด อยู่ระหว่างทดสอบฟลีตโรโบแท็กซี่ “โพนี่ไพล็อต” ในกวางโจวที่เริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนเมษายน

รายล่าสุดคือ ออโต้ เอ็กซ์ ที่มีเอสเอไอซี มอเตอร์ และตงเฟิง มอเตอร์เป็นนักลงทุนสำคัญ ซึ่งเพิ่งทำข้อตกลงกับทางการเซี่ยงไฮ้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (31 ส.ค.) ในการเปิดโครงการนำร่องโรโบแท็กซี่ในเขตเจียติ้งเช่นเดียวกับดีดี
ออโต้ เอ็กซ์ที่เพิ่งได้รับอนุมัติในการให้บริการรถไร้คนขับแก่ผู้โดยสารทั่วไปในแคลิฟอร์เนียเมื่อสองเดือนที่แล้วนั้น มีแผนใช้แท็กซี่ไร้คนขับ 100 คัน เริ่มต้นปลายปีนี้

ที่อเมริกา เวย์โมในเครืออัลฟาเบตซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ร่วมกับลิฟต์ ผู้ให้บริการไรด์เฮลลิง ให้บริการโรโบแท็กซี่ในเมืองฟินิกซ์ ขณะเดียวกัน อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (CEO) ของเทสลา ผู้บุกเบิกวงการรถไฟฟ้า รำพึงดังๆ ว่า ปีหน้าเทสลาควรมีแท็กซี่ไร้คนขับบนท้องถนน

ว่าไปแล้ว ประวัติของดีดีช่วงไม่กี่ปีมานี้น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่แอปเปิลประกาศอัดฉีดเงินลงทุนให้ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2016 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทกำลังขับเคี่ยวกับอูเบอร์เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดไรด์เฮลลิงในจีน และตอนนั้นเองที่ดีดีเริ่มซื้อตัววิศวกรมือดีจากซิลิคอนแวลลีย์มาช่วยพัฒนาโครงการรถไร้คนขับ

ในที่สุด การแข่งขันก็มีต้นทุนสูงเกินไปสำหรับอูเบอร์ ซึ่งตามข่าวบอกว่า หมดเงินไป 1,000 ล้านดอลลาร์ในสนามแข่งขันแดนมังกร เดือนสิงหาคม 2016 เทรวิส คาลานิก CEO อูเบอร์ในขณะนั้น ตัดสินใจถอนสมอขายธุรกิจในจีนให้ดีดี แลกกับหุ้น 17.7% และที่นั่งในบอร์ดดีดี 1 ตำแหน่ง รวมทั้งเงินลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์

นอกจากนั้น ดีดียังลงทุนในบริษัทคู่แข่งของอูเบอร์อีกหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงลิฟต์, โอลาของอินเดีย, แกร็บที่มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์, แท็กซี่ฟายในเอสโตเนีย, คารีมในตะวันออกกลางที่เมื่อเร็วๆ นี้ถูกอูเบอร์เทคโอเวอร์ไปเรียบร้อย และ 99 ของบราซิล ปีที่แล้วดีดียังตามราวีอูเบอร์ถึงเม็กซิโก
กำลังโหลดความคิดเห็น