คนดูหัวร้อน! ทีวีดิจิทัลลาจอ 3 ช่อง
PSI-ทรูวิชั่นส์จำใจจอดำ เคเบิลจัดช่องหนังแทน
ผู้จัดการรายวัน360 - เริ่มไปแล้วการคืนช่องทีวีดิจิทัล ด้วยการประเดิม 3 ช่องแรก ไปเมื่อ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา พบคนดูหัวร้อน เหวี่ยงใส่เจ้าของแพลตฟอร์มโดนไปเต็มๆ เหตุทีวีดาวเทียม-ทรูวิชั่นส์ เลือกจอดำ รอ กสทช.กำหนดช่องใหม่ งานนี้คนดูเคเบิลทีวีคุ้มสุด! เพราะเลือกแก้เกมเร็ว ส่งช่องหนัง 3 ช่องออกอากาศแทน เอาใจสมาชิก 1.2 ล้านครัวเรือน
ตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค ที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 00.01 น. 3 ช่องทีวีดิจิทัลได้ลาจอไปพร้อมกัน คือ ช่องสปริงนิวส์หมายเลข 19, ช่องไบรท์ทีวี หมายเลข 20 และ ช่องนาว หมายเลข26 ในฐานะผู้ชม หากไม่สังเกตให้ดีจะไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แต่หากหยิบรีโมตขึ้นมากดดูทั้ง 3 ช่อง จะพบการเปลี่ยนแปลง 2 แบบ ตามการรับชมใน 4 แพลตฟอร์มหลัก คือ 1. เสาอากาศทีวีดิจิทัล 2. ทีวีดาวเทียม 3. เคเบิลทีวี และ 4. ทรูวิชั่นส์
โดยการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบแรก คือ จอดำ มี 3 แพลตฟอร์มที่จะเป็นแบบนี้ คือ 1. การรับชมผ่านเสาและกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัล 2. ทีวีดาวเทียมที่ดูผ่านจานดาวเทียมแบบซื้อขาด และ 3. ทรูวิชั่นส์ ซึ่งทางทีวีดาวเทียมและทรูวิชั่นส์ เลือกที่จะทำตามกฎการเรียงช่องของทาง กสทช. ทำให้ไม่สามารถปรับเปลี่ยนหรือนำช่องรายการอื่นๆ มาให้รับชมแทนได้ ไม่ว่าจะรับชมทรูวิชั่นส์แบบเสียค่าสมาชิก หรือแบบขายขาด และแบบ OTT ก็ตาม ต้องรอนโยบายจากทาง กสทช.ก่อน โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดเรียงช่องใหม่ จึงจะเปลี่ยนแปลงช่องดังกล่าวได้
นายสมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายจานดาวเทียม ระบบซีแบนด์ “พีเอสไอ” ได้เปิดเผยกับผู้จัดการรายวัน 360 ว่า ตั้งแต่กลางเดือนที่ผ่านมา กับ 3 ช่องที่ยุติการออกอากาศไป ทางพีเอสไอไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะต้องทำตามข้อปฏิบัติของ กสทช. จึงต้องปล่อยให้จอดำ แน่นอนว่า ทางพีเอสไอได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างหนัก เพราะผู้บริโภคโทร.เข้ามาร้องเรียนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะแฟนรายการของทั้ง 3 ช่อง ที่เคยดูเป็นประจำแต่อยู่ดีๆ ก็ไม่สามารถดูได้
ทั้งนี้ ทางพีเอสไอทำได้เพียงแจ้งรายละเอียดถึงสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ว่า ไม่ได้เกิดจากระบบพีเอสไอขัดข้อง แต่เกิดจากทั้ง 3 ช่องขอยุติการออกอากาศเอง และทางพีเอสไอไม่สามารถนำช่องอื่นมาออกอากาศแทนได้ บางรายก็เข้าใจบางรายก็ไม่เข้าใจ และต่อว่าอย่างหนัก ซึ่งความเป็นจริงเรื่องนี้ต้องรอดูสัญญาณจากทาง กสทช.อีกครั้ง ว่า จะทำอย่างไรต่อไป ทางพีเอสไอพร้อมดำเนินการทันที แต่ตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรได้ต้องปล่อยให้จอดำอย่างเดียวเท่านั้น ส่งผลให้ผู้ชมกว่า 16 ล้านครัวเรือนที่ติดตั้งและเข้าถึงจานพีเอสไอ ได้รับผลกระทบ
แบบที่ 2 คือ มีคอนเทนต์ช่องใหม่ให้รับชมแทน จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กลับพบว่า ในส่วนของเคเบิลทีวี ได้มีการนำ 3 ช่องหนังมาทดแทนช่องทีวีดิจิทัลทันที โดยพบว่าเคเบิลทีวีในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของกลุ่มเจริญเคเบิลทีวี และพื้นที่ต่างจังหวัดที่รับสัญญาณเคเบิลทีวีจากกลุ่มเจริญเคเบิลทีวี ได้จัด 3 ช่องหนังแทนช่องทีวีดิจิทัลที่หายไป ประกอบด้วย 1. ช่องหนังจีน : QIY แทนช่องสปริงนิวส์หมายเลข19 2. ช่องหนังฮอลลีวูด : A Film HD แทนช่องไบรท์ทีวี หมายเลข 20 และ 3. ช่องหนังดัง : Movie Hits SKY แทนช่องนาว หมายเลข26
นายวิชิต เอื้ออารีวรกุล ประธานที่ปรึกษา กลุ่มบริษัท เจริญเคเบิลทีวี จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันคอนเทนต์มีราคาถูกลง 50% และทางกลุ่มเจริญเคเบิลทีวี ได้ซื้อลิขสิทธิ์ช่องรายการไว้มากมาย โดยเฉพาะช่องหนัง ซีรีส์ ที่มีชื่อเสียงจากค่ายหนังดัง มีให้รับชมไม่ต่ำกว่า 10 ช่อง จากแพลตฟอร์มของทางเจริญเคเบิลทีวี ที่สามารถรับชมได้กว่า 170 ช่องในระบบ HD ทั้งหมด ซึ่งสมาชิกเสียค่าบริการเพียงเดือนละ 100-200 บาทเท่านั้น และปัจจุบันกลุ่มเจริญเคเบิลทีวีมีสมาชิกทั่วประเทศกว่า 1.2 ล้านครัวเรือน ทั้งในรูปแบบตามบ้าน และที่พักอาศัยตามหอพัก อพาร์ตเมนต์ โรงแรม และโรงพยาบาล เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ จะมีอีก 4 ช่องทีวีดิจิทัลที่จะทยอยยุติการออกอากาศตาม ผู้ชมที่รับชมผ่านระบบอื่นๆ อาจจะต้องเห็นช่องจอดำรวมเป็น 7 ช่อง แต่สำหรับเคเบิลทีวีดูจะไม่น่าหนักใจเท่าไหร่ เพราะมีคอนเทนต์พร้อมออกอากาศทดแทนไว้เรียบร้อยแล้ว นาทีนี้จึงดูเหมือนว่าเคเบิลทีวีจะเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ชมเลือกรับชมได้คุ้มค่าที่สุด เพราะมีช่องหนังหรือช่องคอนเทนต์ประเภทอื่นๆ ให้รับชมแทนช่องทีวีดิจิทัลที่หายไป
สำหรับ 4 ช่องที่จะหายไปจะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย.นี้ ได้แก่ 1. ช่องวอยซ์ทีวี หมายเลข 21 จะหยุดออกอากาศวันที่ 1 ก.ย. ตั้งแต่เวลา 00.01 น. 2. ช่องเอ็มคอท แฟมิลี่ หมายเลข 14 จะหยุดออกอากาศวันที่ 16 ก.ย. ตั้งแต่เวลา 00.01 น. 3. ช่อง 3SD หมายเลข 28 จะหยุดออกอากาศวันที่ 1 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 00.01 น. และ 4. ช่อง 3 แฟมิลี่ หมายเลข 13 จะหยุดออกอากาศวันที่ 1 ต.ค ตั้งแต่เวลา 00.01 น.
จะเห็นว่าสถานการณ์ปัจจุบัน แพลตฟอร์มการรับชมช่องทีวีดิจิทัลส่วนใหญ่ ไม่มีมาตรการรองรับ สำหรับปัญหาการยุติออกอากาศของ 7 ช่องทีวีดิจิทัลที่หายไป เพราะต้องทำตามกฎของ กสทช. มีเพียงเคเบิลทีวีเท่านั้นที่เลือกนำช่องหนังมาออกอากาศทดแทนไปก่อน เพื่อให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์สูงสุดกับการจ่ายค่าสมาชิก ที่ทุกช่องไม่ควรมีจอดำ แต่ทั้งนี้ ก็พร้อมยืดหยุ่นและตอบสนองนโยบายจากทาง กสทช.หลังจากหาทางออก สำหรับ 7 ช่องทีวีดิจิทัลที่จะทยอยยุติการออกอากาศจนครบในเดือน ต.ค.ที่จะถึงนี้เช่นกัน