xs
xsm
sm
md
lg

AU...แชมป์โลกหุ้นขนม / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ประกาศอย่างเป็นทางการ จัดให้ บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ AU เป็นหุ้นกลุ่มภัตตาคารที่มีผลประกอบการดีที่สุดในโลกปีนี้ โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเกือบ 3 เท่าตัว และเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่สุดในตลาด mai

ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นเกือบ 3 เท่าตัวนั้น คำนวณจากราคาหุ้นที่เสนอขายประชาชนทั่วไป ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาด mai เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2559 โดยเสนอขายหุ้นละ 4.50 บาท จากราคาพาร์ 10 สตางค์ ส่วนราคาหุ้น ล่าสุด 26 กรกฎาคมที่ผ่านมาปิดที่ 17 บาท/หุ้น

การจัดวางให้ AU เป็นหุ้นที่ผลประกอบการดีที่สุดในโลกนั้น สำนักข่าวบลูมเบิร์กรวบรวมข้อมูลจากผู้ประกอบการภัตตาคารที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมทั้งภัตตาคารขนาดใหญ่ระดับโลกจากจีน เม็กซิโก หรือสหรัฐฯ แต่ไม่มีภัตตาคารประเทศใดในโลกที่ผลประกอบการยอดเยี่ยมเท่า AU

AU ดำเนินธุรกิจจำหน่ายขนมหวาน ภายใต้ชื่อ ร้านอาฟเตอร์ ยู และร้านเมโกริ รวมทั้งบริการจัดงานนอกสถานที่และรับจ้างการผลิต โดยผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง ปี 2559 มีกำไรสุทธิ 98.77 ล้านบาท ปี 2560 กำไรสุทธิ 128.90 ล้านบาท ปี 2561 กำไรสุทธิ 147.43 ล้าน บาท และไตรมาสแรกปีนี้ กำไรสุทธิ 59.68 ล้านบาท

ราคาหุ้น AU ทะยานอย่างร้อนแรงในปีนี้ โดยอยู่ในช่วงขาขึ้นเต็มตัว ซึ่งราคาในรอบ 12 เดือน เคยทรุดลงไปที่ 5.30 บาท ก่อนจะเด้งขึ้น

แม้จะเป็นหุ้นที่ผลประกอบการดี แนวโน้มยังเติบโตได้ต่อเนื่อง แต่ราคาหุ้นปัจจุบันไม่ถือว่าต่ำ เพราะมีค่า พี/อี เรโช สูงถึง 78 เท่า

อัตราเงินปันผลตอบแทนเพียง 1% เศษ การลงทุนหุ้นตัวนี้ต้องถือยาว ภายใต้ความคาดหวังว่า ผลกำไรจะเติบโตตลอด เพราะหากกำไรไม่โต จะกลายเป็นหุ้นที่แพง

แต่ 3 ปีหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาด mai หุ้น AU ก็ทำได้ดีเสมอต้นเสมอปลาย กำไรเติบโตทุกปี แม้จะไม่เติบโตอย่างก้าวกระโดด และไม่สามารถกดให้ค่า พี/อี เรโช ต่ำลงก็ตาม

อย่างไรก็ตาม AU เป็นหนึ่งในจำนวนหุ้นใหม่เพียงไม่กี่ตัวที่สร้างสร้างผลตอบแทนที่ดีเยี่ยมให้นักลงทุน เพราะเข้าจดทะเบียนมายังไม่ถึง 3 ปี แต่สร้างผลกำไรให้นักลงทุนเกือบ 300% เมื่อเทียบกับราคาจอง และเป็นหุ้นใหม่ที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าสำหรับการถือยาวช่วงที่ผ่านมา

แต่อนาคตต้องประเมินถึงแนวโน้มการสร้างผลกำไร เพราะหากรักษาอัตราเติบโตของผลกำไรไม่ได้ จะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น ซึ่งถือว่าสูงกว่าปัจจัยพื้นฐาน เพียงแต่นักลงทุนซื้ออนาคตกันเท่านั้น

โครงสร้างผู้ถือหุ้น AU ประกอบด้วย นักลงทุนรายย่อย จำนวน 6,636 ราย สัดส่วนถือหุ้นรวมกัน 35.42% ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่คือน.ส.กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ ถือหุ้นในสัดส่วน 31.84% และนายแม่ทัพ ต.สุวรรณ ถือหุ้นในสัดส่วน 29.40%

การถูกยกให้เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตลาด mai เนื่องจากมูลค่าตามราคาตลาด หรือมาร์เกตแคปสูงที่สุด โดยมีมาร์เกตแคป จำนวน 13,865.60 ล้านบาท

เกือบ 3 ปีที่เข้าจดทะเบียน AU ไม่มีข่าวฉาวโฉ่เกี่ยวกับพฤติกรรมราคาหุ้น โดยความเคลื่อนไหวเป็นไปตามภาวะตลาดและผลประกอบการ และจัดเป็นหุ้นน้ำดีในตลาด mai เพียงแต่ราคาหุ้นขณะนี้ไม่ถือว่าต่ำเสียแล้ว

หุ้นพื้นฐานดี แต่ถ้าราคาสูงเกินไปอาจเป็นหุ้นที่ไม่ต้องรีบร้อนช้อนซื้อก็ได้ เช่นเดียวกับหุ้น AU

เว้นแต่มั่นใจว่า หุ้นขนมหวานตัวนี้จะสร้างผลกำไรเติบโตสูงได้ต่อเนื่องเท่านั้น ราคาและค่า พี/อี เรโช ที่สูงลิ่วจึงอาจเป็นข้อยกเว้นในการลุยเก็บ

กำลังโหลดความคิดเห็น