หากใครไม่ได้ใส่แว่นมาตั้งแต่เด็กคงไม่เข้าใจคนเหล่านี้เมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนแว่น มักจะเกิดประสบการณ์ ที่ไม่ค่อยอยากไปนัก เพราะร้านแว่นไม่เหมือนร้านทั่วไป อย่าง เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ที่จะเลือกแล้วเจอสิ่งที่ใช่ แต่ร้านแว่นกลับทำให้รู้สึกยุ่งยากเมื่อต้องเข้าไปเปลี่ยนแว่นใหม่ ทั้งในเรื่องราคา รูปแบบ และคุณภาพ ที่ยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร
ทำให้สตาร์ทอัปวัยหนุ่มสาวเกิดไอเดียเปิดร้านแว่นตาออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน แต่สามารถนำแว่นไปลองสวมใส่ ได้ ก่อนที่บ้าน และการส่งคืนก็ง่ายแสนง่ายที่ร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นอีเลฟเว่น
ไอเดียเหล่านี้เรียกว่าเกิดมาจากประสบการณ์ตรงล้วนๆ โดยทีมสตาร์ทอัปวัยหนุ่มสาว ได้แก่ แดน อิสระยั่งยืน COO & Co-Founder, ปริณดา ประจักษ์ธรรม CEO & Co-Founder และ พิริยะ ตันตราธิวุฒิ CMO & Co-Founder ที่ต้องการแก้ปัญหาและสร้างประสบการณ์ที่ดี ในการเลือกซื้อแว่นเพื่อสวมใส่ให้กับคนรุ่นใหม่ ทำให้ การเลือกแว่น กลายเป็นเรื่องสนุกง่ายและราคาที่เอื้อมถึง ภายใต้แบรนด์ที่ชื่อว่า กลาซซิค (Glazziq)
"เราได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดำเนินธุรกิจนี้โดยตัดวงจรของพ่อค้าคนกลางออกไป ด้วยการสั่งผลิตจากโรงงานที่ประเทศเกาหลีใต้โดยตรง ซึ่งเป็นผู้ออกแบบเองทั้งหมด พร้อมสร้างเว็บไซต์เพื่อเปิดเป็นช่องทางจำหน่ายแว่นตา ควบคู่กันไป ทำให้ทั้งคุณภาพและราคาจับต้องได้ เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ในการเลือกซื้อแว่นตาของคนรุ่นใหม่ ให้กลายเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป"
**วัดสายตาอย่างไร เมื่อไม่มีหน้าร้าน
กลาซซิค เป็นร้านค้าอีคอมเมิร์ซแบบบูรณาการ ที่เชื่อมต่อโรงงานผู้ผลิตกับลูกค้าโดยตรง โดยไม่มีหน้าร้าน ให้ลูกค้าได้มาเลือกสรรหรือวัดสายตาเหมือนร้านแว่นตาทั่วไป เพื่อลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นในการขายแว่นตาให้ลูกค้าออกทั้งหมด เพราะร้านก็ถือเป็นต้นทุนที่ค่อนข้างสูงส่งผลต่อราคาแว่นตาก็ย่อมสูงตามไปด้วย ซึ่งถือเป็นความแปลกใหม่สำหรับลูกค้า
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจกับการตั้งคำถามของลูกค้าอยู่เป็นประจำว่าจะวัดสายตาอย่างไร? ให้ไปที่ไหน? ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่กลาซซิค ได้วางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว โดยร่วมมือกับร้าน “หอแว่น” กว่า 100 สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าไปตรวจวัดสายตา จากนั้นทางสาขาก็จะใส่ค่าสายตาของลูกค้าลงในระบบ ซึ่งจะถูกเชื่อมโยงคำสั่งซื้อทันที
ในเรื่องของรูปแบบแว่น ในเว็บไซต์กลาซซิคก็มีระบบ ให้ลูกค้าเลือกแว่นให้เหมาะสมกับใบหน้า ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบขึ้นมาเอง รวมถึงยังมีนางแบบนายแบบมาใส่แว่น ในรูปแบบที่ลูกค้าต้องการอีกด้วย และเมื่อเลือกแว่นได้แล้ว ต้องการที่จะทดลองสวมใส่จริง ทางบริษัทฯ ก็มีบริการส่งแว่น ให้ลองถึงบ้าน ประมาณ 3-4 แบบตามที่ลูกค้าเลือก แล้ว ส่งคืน ได้ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ในสาขาที่กำหนดไว้ให้ได้ หากไม่สะดวกก็สามารถไปลองแว่นที่ต้องการที่ร้านหอแว่นใกล้บ้านได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งการลองแว่นที่ร้านหอแว่นส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าในกรุงเทพฯ เป็นหลัก ส่วนการส่งแว่นให้ไปลองที่บ้านนั้นจะเป็นลูกค้าตามต่างจังหวัด โดยราคากรอบพร้อมเลนส์สายตาแบบย่อ-บาง สั้นไม่เกิน 500 เริ่มต้นที่ 1,990 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่จับต้องได้
**ร้านแว่นตาออนไลน์โดนใจวัยรุ่น
ด้วยรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ถือว่า ตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบายให้แก่กลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานได้เป็นอย่างดี ทำให้การเลือกซื้อแว่นตา กลายเป็นเรื่องสนุก ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของกลาซซิค เป็นวัยรุ่นและวัยทำงานที่ใช้โซเชียลมีเดียอยู่เป็นประจำ ขณะที่รูปแบบแว่นตา ก็ออกแบบให้ดูทันสมัยเหมาะกับใบหน้าคนเอเชียแถมยังสั่งผลิตจากโรงงานที่ประเทศเกาหลีใต้โดยตรง ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ที่ได้มาตรฐานระดับสากล นอกจากนี้ทางทีมงานยังเลือกใช้ บุคคลที่มีชื่อเสียง หรืออินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ในโลกออนไลน์ ช่วยโปรโมท เน้นการใช้จริง สวมใส่จริง ซึ่งค่อนข้างได้ผลและได้รับการตอบรับดีจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
“เราพยายามเชื่อมประสบการณ์การเลือกซื้อแว่นตาของลูกค้าในรูปแบบใหม่ ด้วยระบบ O2O หรือ ออนไลน์สู่ออฟไลน์ ใช้ฟังก์ชันออนไลน์เข้ามาช่วย แสดงราคาชัดเจน ลูกค้าสามารถเลือกรูปแบบและคุณสมบัติของแว่นได้เต็มที่ ช่วยแก้ปัญหาการเลือกซื้อแว่นไปได้มาก” หนึ่งในทีมผู้บริหารกล่าว
**ตลาดแว่นตาในไทยยังหอมหวาน
แม้ที่ผ่านมาความนิยมในการสวมใส่แว่นตาของคนไทยจะไม่หวือหวามากนัก แต่ถือเป็นฐานลูกค้าขนาดใหญ่ โอกาสเติบโตยังมี จากการสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับสายตาคนไทย พบว่ามีคนสายตาสั้นเป็นจำนวนมาก แต่ไม่นิยมสวมแว่น จากปัจจัยด้านราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้คนส่วนใหญ่เอื้อมไม่ถึง ดังนั้นเมื่อมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ทำให้แว่นตาราคาถูกลง การซื้อ-ขายคล่องตัวขึ้น โดยเฉพาะตลาดตามต่างจังหวัด สามารถเข้าถึงแว่นตาคุณภาพในราคาไม่แพง ถือเป็นโอกาสของตลาดแว่นตาไทย ที่จะนำเทคโนโลยีมาช่วยลดต้นทุน
**เอเชียคือเป้าหมายต่อไป
ในเมื่อเทคโนโลยีทำให้การดำเนินธุรกิจได้สะดวกสบาย และคล่องตัวมากขึ้น ดังนั้นการจะก้าวออกสู่ตลาดต่างประเทศจึงไม่ใช่เรื่องยาก ทางกลาซซิค จึงเตรียมเล็งขยายธุรกิจไปยังประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ แต่อัตราเติบโตน้อยกว่าไทย ก็เป็นโอกาสในขยายธุรกิจเช่นเดียวกัน เนื่องจากตลาดยังมีความต้องการ ขณะนี้อยู่ในช่วงทดลองตลาดกับร้านพาร์ทเนอร์ที่นำแว่นตาของกลาซซิคไปจัดวางเพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองสวมใส่ การตอบรับก็ค่อนข้างดี ซึ่งต่อไปก็จะขยายสาขาไปยังประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชีย กับแว่นตาที่ออกแบบให้เหมาะกับรูปหน้าของคนเอเชียโดยเฉพาะ
ส่วนการทำตลาดในไทย ทางผู้บริหารแว่นตาออนไลน์ กลาซซิค บอกว่า เตรียมเพิ่มร้านพันธมิตรให้มากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าได้วัดสายตาและทดลองแว่นตาตามแบบที่เลือกไว้ให้มากขึ้น หวังให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากที่สุด และในอนาคตอันใกล้เตรียมเปิดหน้าร้านกลาซซิคเป็นของตัวเอง ซึ่งนอกจากจะเป็นโชว์รูมแว่นตาแล้ว ยังเพิ่มประสบการณ์ใหม่ให้การเลือกซื้อแว่นของลูกค้าสนุกมากขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยี AR เข้ามาใช้ เพื่อให้ลูกค้าได้เจอแว่นตาที่ ‘ใช่’ สำหรับตนเองมากที่สุด
ไม่คิดว่าแค่เรื่องแว่นสายตา จะกลายมาเป็นเรื่อง ‘สนุก’ สำหรับคนหนุ่มสาวที่ต้องแวะเวียนมาร้านแว่นตาเป็นประจำ แถมยังก่อเกิดเป็นธุรกิจ ไอเดียจากเรื่องใกล้ตัวที่ไม่มองข้ามผ่านเลนส์