การเปิดตัวบัตรเครดิต ทีเอ็มบี แอบโซลูท (TMB Absolute) ของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบี นอกจากจะเจาะลูกค้าระดับบนเป็นครั้งแรกแล้ว ยังเป็นความพยายามค่อยๆ กำจัดจุดอ่อนของบริการกลุ่มลูกค้าธนบดีธนกิจ (Wealth Management) ของตัวเอง แข่งขันกับธนาคารอื่นที่พยายามช่วงชิงด้วยสิทธิประโยชน์ล่อใจ
บัตรตระกูลวีซ่าซิกเนเจอร์ (VISA Signature) ของทีเอ็มบีใบนี้ ชูจุดเด่นเมื่อใช้จ่ายเมืองนอก ไม่คิดค่าความเสี่ยงจากสกุลเงินต่างประเทศ 2.5% เรทใกล้เคียงร้านแลกเงิน, ช้อปออนไลน์รับคะแนนสะสม TMB Rewards Plus 2 เท่า เทียบเท่า 12.5 บาท ต่อรอยัล ออร์คิด พลัส 1 ไมล์ จากปกติรับ 1 คะแนนสะสมจากทุกยอดใช้จ่าย 10 บาท
นอกจากนี้ ยังมีบริการพิเศษด้านการท่องเที่ยว และสิทธิพิเศษอื่นๆ อาทิ บริการห้องรับรองพิเศษโดย LoungeKey ที่สนามบินทั่วโลกกว่า 1,000 แห่ง ประกันภัยการเดินทางวงเงินคุ้มครองสูงสุด 16 ล้านบาท บริการ Visa Concierge บริการฉุกเฉินกรณีประสบปัญหาระหว่างการเดินทางในต่างประเทศ (Worldwide Emergency) ตลอด 24 ชั่วโมง
แม้ว่าบัตรใบนี้จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าระดับบน โดยกำหนดคุณสมบัติรายได้ขั้นต่ำ 100,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่ 40,000 ใบ แต่ยังมีหลักเกณฑ์อ้างอิงเงินฝาก เงินลงทุนของทีเอ็มบี รวมกันตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป ถ้ามีมากถึง 5 ล้านบาท ย่อมเข้ากับลูกค้า "ทีเอ็มบี เวลธ์ แบงกิ้ง" (TMB Wealth Banking) ที่ธนาคารมีอยู่แล้วนั่นเอง
ลูกค้าทีเอ็มบี เวลธ์ แบงกิ้ง คุณสมบัติหลักจะต้องมียอดเงินฝากและเงินลงทุนเฉลี่ย 3 เดือน ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป สิทธิประโยชน์นอกจากบริหารจัดการเพื่อรักษาและเพิ่มพูนความมั่งคั่ง และนำเสนอวางแผนทางการเงินอย่างครบวงจรแล้ว ค่าธรรมเนียมธุรกรรมทางการเงินทั้งฟรีและถูกกว่าธนาคารอื่น และรับบริการคิวพิเศษเมื่อไปที่สาขา
แต่เมื่อเทียบกับธนาคารอื่นแล้ว ทีเอ็มบียังไม่มีบัตรเครดิตสำหรับลูกค้าระดับบนโดยเฉพาะ มีเพียงอนุมัติบัตรเครดิต ทีเอ็มบี โซ สมาร์ท (TMB So Smart) ซึ่งเป็นบัตรวีซ่าแพลทินัม (VISA Platinum) ที่รายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาทก็สมัครได้ สิทธิประโยชน์หลักคือรับเงินคืน 1% เข้าบัญชีทีเอ็มบี โน ฟิกซ์ ดอกเบี้ยสูงกว่าออมทรัพย์ทั่วไปเท่านั้น
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะในอดีต ธนาคารนี้มุ่งเน้นบริการทางการเงินแก่หน่วยทหารและข้าราชการทหารเป็นหลัก ก่อนที่จะเน้นลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และลูกค้าบุคคลผ่านบริการที่แตกต่าง เช่น บัตรเดบิตทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี, บัญชีทีเอ็มบี โน ฟิกซ์ ขณะที่บัตรเครดิตกลุ่มลูกค้าเฉพาะ มีเพียงบัตรทีเอ็มบี รอยัล ท็อป บราส สำหรับนายทหารเท่านั้น
ขณะที่ธนาคารอื่นพยายามเน้นสิทธิประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์แก่ลูกค้า นอกจากบริการให้คำปรึกษาและวางแผนการเงิน เช่น บัตรโดยสารเครื่องบินฟรี หรืออัพเกรดชั้นโดยสาร สะสมไมล์เร็วขึ้น บริการห้องรับรองที่สนามบิน ฟิตเนสชั้นนำ รวมทั้งยังเพิ่มบริการสำหรับลูกค้าที่มีเงินฝากและเงินลงทุนตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปเพื่อแย่งชิงลูกค้าอีก
บัตรเครดิตทีเอ็มบี แอบโซลูท แม้สิทธิประโยชน์ยังน้อยกว่า เมื่อเทียบกับหลักเกณฑ์เงินฝากกับคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง เอสซีบี ไพร์ม (SCB Prime) ไทยพาณิชย์, เดอะ พรีเมียร์ (The Premier) กสิกรไทย หรือหากเทียบกับกลุ่มลูกค้าธนบดีธนกิจ ที่มีเงินฝากและเงินลงทุน 5 ล้านบาทขึ้นไปอย่างกรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ (Krungsri Exclusive)
แต่การชูจุดเด่นเป็นบัตรเครดิตใบเดียว ที่ไม่คิดค่าความเสี่ยงจากสกุลเงินต่างประเทศ 2.5% ซึ่งยังไม่มีบัตรเครดิตเจ้าไหนในไทยที่ทำ ก็เรียกเสียงฮือฮาให้กับลูกค้าระดับบนพอสมควร แม้ว่าคะแนนสะสม TMB Rewards Plus จะมีอายุเพียงแค่ 4 ปี และฟรีค่าธรรมเนียมรายปีเพียงแค่ 2 ปีแรก จะทำให้ลูกค้าส่วนหนึ่งยังคงลังเลใจก็ตาม
ปัจจุบัน ทีเอ็มบีมีฐานลูกค้าบัตรเครดิต 8 แสนใบ ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาอนุมัติบัตรใหม่แก่ลูกค้าแล้ว 7 หมื่นใบ โดยลูกค้าบุคคลธรรมดามีทั้งบัตรทีเอ็มบี โซ ฟาสต์ (TMB So Fast) เน้นสะสมคะแนน, ทีเอ็มบี โซ สมาร์ท (TMB So Smart) เน้นคืนเงินเข้าบัญชี และบัตรทีเอ็มบี โซ ชิลล์ (TMB So Chill) เน้นถอนเงินสดล่วงหน้าไม่เสียค่าธรรมเนียม 3%
ในปีนี้ตั้งเป้าลูกค้าบัตรเครดิตเพิ่มอีก 2 แสนใบ หนึ่งในนั้นคือบัตรทีเอ็มบี แอบโซลูท 4 หมื่นใบ คาดว่าสิ้นปีนี้ (2562) ฐานลูกค้าบัตรเครดิตทีเอ็มบีจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านใบ
(เกาะกระแสธุรกิจ เศรษฐกิจสดใหม่ เรื่องราวการตลาดที่ใกล้ชิดผู้บริโภค กับ Ibusiness Review ที่นี่ที่เดียว! ทางเฟซบุ๊ก Ibusiness และเว็บไซต์ ibusiness.co)
