xs
xsm
sm
md
lg

Ibusiness review : 'สหกรุ๊ปแฟร์' ไม่ได้มีดีแค่ของเซล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


เป็นประจำทุกปีที่งานแฟร์ลดราคาประจำปีอย่าง "สหกรุ๊ปแฟร์" ของเครือสหพัฒน์ เจ้าของอาณาจักสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของประเทศ จะมาพบกับคนกรุงปีละครั้ง นักช้อปนับล้านคนต่างรอคอยที่จะมาละลายทรัพย์ ท่ามกลางการแข่งขันของยักษ์ค้าปลีก หันมาจัดงานแฟร์ลดราคาตามศูนย์แสดงสินค้า แบบชนิดที่ว่าลดให้หมดไม่ขนกลับ

ในปีนี้ (2562) จัดขึ้นเป็นปีที่ 23 สถานที่จัดงานยังคงเป็นศูนย์ประชุมไบเทค บางนา เฉกเช่นปีที่แล้ว โดยมี "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงาน จากนั้นเครือสหพัฒน์เซ็นสัญญากับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศหลายโครงการ ส่งสัญญาณฟันเฟืองหนึ่ง ที่สร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในไทย

สิ่งหนึ่งที่ยังเป็นเสน่ห์ของ "เจ้าสัวสหพัฒน์" บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ในวัย 82 ปีก็คือ เมื่อถึงคราวงานแฟร์ทีไร ก็จะได้ยินได้ฟังเจ้าสัวพูดถึงทิศทางเศรษฐกิจไทย ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดี ค่าเงินบาทจะอ่อนหรือแข็ง กำลังซื้อประชาชนทั้งระดับบนและคนรากหญ้าจะคึกคักหรือซบเซา จะบอกกล่าวกันพร้อมเสนอแนะอย่างตรงไปตรงมา

อย่างน้อย "เจ้าสัวสหพัฒน์" ก็เป็นถึงผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ ที่มียอดขายรวมกันกว่า 3 แสนล้านบาท ผ่านประสบการณ์ร้อนหนาวของเศรษฐกิจไทยทุกยุคทุกสมัย ลงทุนจริง เจ็บจริง ไม่ใช่เจ้าสัวปลาใหญ่กินปลาเล็ก

สหพัฒน์ หรือ สหพัฒนพิบูล ก่อตั้งโดยนายห้าง "เทียม โชควัฒนา" มีจุดเริ่มต้นจากร้านขายของนำเข้าจากฮ่องกงในตรอกอาเนียเก็ง บนถนนทรงวาด เมื่อปี 2485 ก่อนจะขยับขยายเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าจากต่างประเทศ แล้วจับมือกับบริษัท ไลอ้อน ประเทศญี่ปุ่น ผลิตยาสีฟ้น แชมพู ผงซักฟอก และก่อตั้งโรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป "มาม่า"

นอกจากนี้ เครือสหพัฒน์ยังทำธุรกิจเครื่องสำอาง ก่อนจะขยายมาเป็นสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมในนาม "ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล" มีทั้งเครื่องแต่งกายสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี เครื่องแต่งกายและของใช้เด็ก อาหาร อุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน หลากหลายแบรนด์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักช้อปชาวไทย

เครือสหพัฒน์มีบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 12 บริษัท ในปี 2561 มีรายได้รวมกันกว่า 1 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 1.14 หมื่นล้านบาท เมื่อลงลึกแต่ละแห่งพบว่า บริษัทแม่อย่าง บมจ.สหพัฒนพิบูล (SPC) ยังครองแชมป์รายได้รวมมากที่สุด 3.33 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 1.7 พันล้านบาท

แต่บริษัทที่มีกำไรมากที่สุดคือ ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ (TFMAMA) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า รายได้รวม 2.31 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3.4 พันล้านบาท ทำให้นึกถึงคำเปรียบเปรยที่ว่า "เศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดี ให้ดูที่ยอดขายมาม่า" ถ้าเศรษฐกิจยิ่งแย่ มาม่ายิ่งขายดี แม้ยุคนี้จะถูกแทนที่ด้วยอาหารพร้อมทานตามร้านสะดวกซื้อก็ตาม

หากจะกล่าวถึงงานสหกรุ๊ปแฟร์ จุดเริ่มต้นจริงๆ มาจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 หลังรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประกาศลอยตัวค่าเงินบาท ทำเอานักธุรกิจสิ้นเนื้อประดาตัว มนุษย์เงินเดือนพากันตกงาน แถมมีข่าวฆ่าตัวตายเนื่องจากการเงินมีปัญหา ... หาทางออกชีวิตไม่ได้ กันไม่เว้นแต่ละวัน

"เครือสหพัฒน์" เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน ตอนนั้น "เจ้าสัวสหพัฒน์" คิดว่า ถ้าผู้ประกอบการไทยหันมาผลิตสินค้าเพื่อส่งออกมากขึ้น ก็จะช่วยกู้วิกฤตเศรษฐกิจได้ เลยจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 13-14 พฤศจิกายน 2540 โดยร่วมมือกับกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์

ขณะนั้นใช้ชื่องานว่า SAHA GROUP EXPORT'98 เป็นงานไม่ได้ใหญ่โตมาก ใช้สถานที่โรงแรมมณเฑียรริเวอร์ไซด์ ถนนพระราม 3 จัดแสดงผลิตภัณฑ์ทั้งเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ เครื่องหนัง รองเท้า เครื่องสำอาง เครื่องกีฬา เครื่องใช้ภายในบ้าน อาหารและเครื่องดื่ม

เดิมงานนี้มีไว้เฉพาะผู้นำเข้า นักธุรกิจ กลุ่มซัพพลายเออร์ทั้งในและต่างประเทศ ที่ต้องการเจรจาธุรกิจกับบริษัทในเครือสหพัฒน์มีอยู่ทั้งหมดนับร้อยบริษัท หลังจัดครั้งแรกผ่านพ้นไปด้วยดี ครั้งที่สองก็จัดขึ้นในปีต่อมา 2541 ใช้ชื่องาน "SAHA GROUP EXPORT & TRADE EXHIBITION" โดยขยับขยายมาจัดที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

เมื่อการจัดงานสองครั้งที่ผ่านมา เชิญเฉพาะนักธุรกิจเท่านั้น ก็เริ่มมีเสียงเรียกร้องให้ประชาชนทั่วไป เข้าชมและเลือกซื้อสินค้าภายในงานได้ด้วย จึงเริ่มเปิดให้เข้าชม 1 วัน ก่อนขยับขยายมาเรื่อยๆ มาเป็น 4 วันเต็มในปัจจุบัน

เมื่อบริษัทในเครืออย่าง บมจ.สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง (SPI) ได้จัดงาน "สหกรุ๊ปแฟร์" เพื่อจำหน่ายสินค้าของเครือสหพัฒน์ในราคาพิเศษ ให้แก่พนักงานและประชาชนที่อยู่รอบสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ศรีราชา ลำพูน แม่สอด กบินทร์บุรี จึงเปลี่ยนชื่องานที่กรุงเทพฯ เป็น "สหกรุ๊ปแฟร์" ตั้งแต่ครั้งที่ 13 เมื่อปี 2552 มาถึงปัจจุบัน

เสน่ห์ของงานสหกรุ๊ปแฟร์ ไม่ใช่เพียงแค่ลดราคาสินค้ากว่า 1,000 แบรนด์ดัง โดยเฉพาะสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เท่านั้น แต่ยังแสดงสินค้าและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่กำลังพัฒนาหรือรับจ้างผลิต นำมายลโฉมให้เห็นก่อนใคร พร้อมบริการส่งของถึงบ้านฟรีแบบไม่มีเงื่อนไข จากบริษัทขนส่งในเครือ "ไทเกอร์ ดิสทริบิวชั่น แอนด์ โลจิสติคส์"

กว่า 20 ปีที่ผ่านมา ผู้เข้าชมงานสหกรุ๊ปแฟร์ค่อยๆ ไต่ระดับจากหลักหมื่น พุ่งสู่หลักแสน ก้าวสู่ 1 ล้านรายเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีเงินสะพัดจากนักช้อปราว 200-300 ล้านบาท ภายหลังศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่ใช้จัดงานเกือบ 20 ปี ปิดปรับปรุงยาว 3 ปี จึงต้องย้ายไปจัดงานที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าไบเทค บางนา มาตั้งแต่ปี 2561

แม้อิทธิพลของช้อปปิ้งออนไลน์จะทำให้นักช้อปลดลง รวมทั้งบรรดาคู่แข่งทั้งห้างค้าปลีก และศูนย์การค้าโดยเฉพาะย่านบางนา ต่างจัดงานเซลตัดหน้าเพื่อช่วงชิงลูกค้า แต่ในปีนี้ผู้จัดกำลังทดลองโมเดลให้แม่ค้าออนไลน์สวมวิญญาณ "นักหิ้ว" รับช้อปสินค้าแบรนด์ดังผ่านไลน์ รวมทั้งใช้โซเชียลมีเดียไลฟ์สด จัดโปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษ

ช้อปของถูกแล้ว อย่าลืมเปิดหูเปิดตากับนวัตกรรมที่จัดแสดง อาทิ เสื้อเชิ้ตที่ใช้เส้นใยจากขวดพลาสติกใช้แล้ว, ร้านค้าอัจฉริยะไร้พนักงาน, นมถั่วเหลืองยูเอชทีรายแรกของไทยที่ผสมเนื้อข้าวโพด วุ้นมะพร้าว เนื้อมะพร้าว งาดำ เม็ดแมงลัก, เครื่องจำหน่ายน้ำยาล้างจาน และน้ำยาซักผ้าแบบรีฟิล ลดขยะจากพลาสติก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

งานสหกรุ๊ปแฟร์ จัดขึ้นตลอดสุดสัปดาห์นี้ ถึงวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2562 ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม ถ้าไม่อยากรถติดแนะนำให้นั่งรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีบางนา พลาดครั้งนี้รออีกทีปีหน้า ต้นเดือนกรกฎาคม 2563 โน่นเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น